ข้อบังคับของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา [มศพ.]

 
มศพ.
วันที่  4 ส.ค. 2554
หมายเลข  18861
อ่าน  12,144

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
•••
..... ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย .....•••

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
ขอนำเสนอข้อบังคับของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ต่อจาก ประวัติและความเป็นมาของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ให้ผู้ศึกษาพระธรรมทุกท่านได้ทราบร่วมกัน ดังนี้


ข้อบังคับ

มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา


หมวดที่ ๑
ชื่อเครื่องหมายและสำนักงานที่ตั้ง

ข้อ ๑. มูลนิธิชื่อว่า มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ย่อว่า มศพ. เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Dhamma Study and Support Foundation ย่อว่า DSSF

ข้อ ๒. เครื่องหมายของมูลนิธินี้ คือ ธรรมจักรประกอบดอกบัวโดยมีดอกบัวอยู่ด้านล่างของธรรมจักร

ข้อ ๓. สำนักงานของมูลนิธิ ตั้งอยู่ที่ ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐ โทร. ๐๒ - ๔๖๘๐๒๓๙

หมวดที่ ๒
วัตถุประสงค์

ข้อ ๔. วัตถุประสงค์ของมูลนิธินี้ คือ

๔.๑ เพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม

๔.๒ เพื่อเผยแพร่พระธรรม ตามแนวพระไตรปิฎกที่บรรยายโดยอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ สู่ประชาชนทั่วไป

๔.๓ เพื่อจัดพิมพ์เอกสารประกอบการศึกษาพระไตรปิฎก เผยแพร่เป็นสาธารณกุศล

๔.๔ เพื่อร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์

๔.๕ ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด

หมวดที่ ๓
ทุนทรัพย์ ทรัพย์สิน และการได้มาซึ่งทรัพย์สิน

ข้อ ๕. ทรัพย์สินของทุนเริ่มแรก คือ เงินสดจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาท)

ข้อ ๖. มูลนิธิอาจได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยวิธีต่อไปนี้

๖.๑ เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้โดยพินัยกรรมหรือนิติกรรมอื่นๆ โดยมิได้มีเงื่อนไขผูกพันให้มูลนิธิต้องรับผิดชอบในหนี้สินหรือภาระติดพันอื่นใด

๖.๒ เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคให้

๖.๓ ดอกผลซึ่งเกิดจากทรัพย์สินของมูลนิธิ

หมวดที่ ๔
คุณสมบัติ และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการ

ข้อ ๗. กรรมการของมูลนิธิต้องมีคุณสมบัติดังนี้

๗.๑ มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์

๗.๒ ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

๗.๓ ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท หรือ ความผิดลหุโทษ

ข้อ ๘. กรรมการของมูลนิธิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

๘.๑ ถึงคราวออกตามวาระ

๘.๒ ตายหรือลาออก

๘.๓ ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับข้อ ๗

๘.๔ เป็นผู้มีความประพฤติและปฏิบัติตนเป็นที่เสื่อมเสีย และคณะกรรมการมูลนิธิมีมติให้ออกโดยมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของคณะกรรมการมูลนิธิ

หมวดที่ ๕
การดำเนินงานของคณะกรรมการมูลนิธิ

ข้อ ๙. มูลนิธินี้ดำเนินการโดยคณะกรรมการมูลนิธิ มีจำนวนไม่น้อยกว่า ๔ คน แต่ไม่เกิน ๙ คน

ข้อ ๑๐. ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการผู้เริ่มจัดตั้งมูลนิธิเป็นผู้เลือกตั้งคณะกรรมการของมูลนิธิดำเนินงานของมูลนิธิขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วยประธานกรรมการมูลนิธิ, รองประธานกรรมการมูลนิธิ, เลขานุการมูลนิธิ, เหรัญญิก และตำแหน่งอื่นๆ ตามแต่คณะกรรมการมูลนิธิเห็นสมควร

ข้อ ๑๑. การแต่งตั้ง กรรมการมูลนิธิให้ปฏิบัติดังนี้

ให้คณะกรรมการมูลนิธิชุดที่ดำรงตำแหน่งอยู่ แต่งตั้งประธานกรรมการมูลนิธิและกรรมการอื่นๆ ตามจำนวนที่เห็นสมควรตามข้อบังคับ

ข้อ ๑๒. กรรมการดำเนินงานมูลนิธิ อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๔ ปี

ข้อ ๑๓. ในกรณีที่กรรมการของมูลนิธิ พ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้กรรมการของมูลนิธิที่พ้นจากตำแหน่งนั้นปฏิบัติหน้าที่กรรมการของมูลนิธิต่อไป จนกว่ามูลนิธิจะแต่งตั้งและจดทะเบียนกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่

ข้อ ๑๔. การเลือกตั้งคณะกรรมการมูลนิธิ ให้ถือเสียงข้างมากของที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิเป็นมติของที่ประชุม

ข้อ ๑๕. กรรมการมูลนิธิที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระหรือโดยการจับสลากในวาระแรก อาจได้รับเลือกเข้ามาเป็นกรรมการมูลนิธิได้อีก

ข้อ ๑๖. ถ้าตำแหน่งกรรมการมูลนิธิว่างลง ให้คณะกรรมการมูลนิธิที่เหลืออยู่ตั้งบุคคลอื่นเป็นกรรมการมูลนิธิแทนตำแหน่งที่ว่าง กรรมการผู้ได้รับการตั้งซ่อม อยู่ในตำแหน่งเท่าวาระของผู้ที่ตนแทน


หมวดที่ ๖
อำนาจหน้าที่คณะกรรมการมูลนิธิ

ข้อ ๑๗. คณะกรรมการมูลนิธิมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินกิจการของมูลนิธิ ตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ และภายใต้ข้อบังคับนี้ ให้มีอำนาจหน้าที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้

๑๗.๑ กำหนดนโยบายของมูลนิธิ และดำเนินการตามนโยบายนั้น

๑๗.๒ ควบคุมการเงินและทรัพย์สินต่างๆ ของมูลนิธิ

๑๗.๓ เสนอรายงานกิจการรายงานการเงินและบัญชีงบดุล, รายได้ - รายจ่าย ต่อกระทรวงมหาดไทย

๑๗.๔ ดำเนินการให้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ และวัตถุประสงค์ของข้อบังคับนี้

๑๗.๕ ตราระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของมูลนิธิ

๑๗.๖ แต่งตั้ง หรือถอดถอนคณะอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะ เพื่อดำเนินการเฉพาะอย่างของมูลนิธิ ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการมูลนิธิ

๑๗.๗ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ หรือ บุคคลที่ทำประโยชน์ให้มูลนิธิเป็นพิเศษ เป็นกรรมการกิตติมศักดิ์

๑๗.๘ เชิญผู้ทรงเกียรติเป็นผู้อุปถัมภ์มูลนิธิ

๑๗.๙ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการมูลนิธิ

๑๗.๑๐ แต่งตั้งหรือถอดถอนเจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิ

มติให้ดำเนินการตามข้อ ๑๗.๗, ๑๗.๘ และ ๑๗.๙ ต้องเป็นมติเสียงข้างมากของที่ประชุม และที่ปรึกษาตามข้อ ๑๗.๙ ย่อมเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการมูลนิธิที่เชิญเท่านั้น

ข้อ ๑๘. ประธานกรรมการมูลนิธิ มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

๑๘.๑ เป็นประธานของการประชุมคณะกรรมการของมูลนิธิ

๑๘.๒ สั่งเรียกประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ

๑๘.๓ เป็นผู้แทนมูลนิธิ ในการติดต่อกับบุคคลภายนอก และในการทำนิติกรรมใดๆ ของมูลนิธิ หรือการลงลายมือชื่อในเอกสาร ข้อบังคับและสรรพหนังสืออันเป็นหลักฐานของมูลนิธิ และในการอรรถคดีนั้น เมื่อประธานกรรมการมูลนิธิหรือผู้ทำการแทนและกรรมการมูลนิธิ ๒ คน ได้ลงลายมือชื่อแล้วจึงเป็นอันใช้ได้

๑๘.๔ ปฏิบัติการอื่นๆ ตามข้อบังคับและมติของคณะกรรมการมูลนิธิ

ข้อ ๑๙. ให้รองประธานกรรมการมูลนิธิ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการมูลนิธิ เมื่อประธานไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือ ในกรณีที่ประธานมอบหมายให้ทำการแทน

ข้อ ๒๐. ถ้าประธานกรรมการมูลนิธิ และรองประธานกรรมการมูลนิธิ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมคราวหนึ่งคราวใดได้ ให้ที่ประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการมูลนิธิคนใดคนหนึ่งเป็นประธานสำหรับการประชุมคราวนั้น

ข้อ ๒๑. เลขานุการมูลนิธิ มีหน้าที่ควบคุมกิจการ และดำเนินการประจำมูลนิธิติดต่อประสานงานทั่วไป รักษาระเบียบข้อบังคับของมูลนิธิ นัดประชุมกรรมการตามคำสั่งของประธานกรรมการมูลนิธิ และทำรายงานการประชุม ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิ

ข้อ ๒๒. เหรัญญิกมีหน้าที่ควบคุมการเงิน ทรัพย์สินของมูลนิธิ ตลอดจนบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง และเป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนด

ข้อ ๒๓. สำหรับกรรมการตำแหน่งอื่นๆ ให้มีหน้าที่ตามที่คณะกรรมการมูลนิธิ กำหนดโดยทำเป็นคำสั่งระบุอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจน

ข้อ ๒๔. คณะกรรมการมูลนิธิ มีสิทธิเข้าร่วมประชุมกรรมการ หรือ อนุกรรมการอื่นๆ ของมูลนิธิได้

หมวดที่ ๗
อนุกรรมการ

ข้อ ๒๕. คณะกรรมการมูลนิธิอาจแต่งตั้งหรือถอดถอนอนุกรรมการได้ตามความเหมาะสม โดยจะแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการประจำ หรือเพื่อการใดเป็นกรณีพิเศษเฉพาะคราวใดก็ได้ และในกรณีที่คณะกรรมการมูลนิธิ ไม่ได้แต่งตั้งประธานอนุกรรมการ เลขานุการ หรือ อนุกรรมการในตำแหน่งอื่นไว้ ก็ให้อนุกรรมการแต่ละคณะแต่งตั้งกันเองดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้

ข้อ ๒๖. อนุกรรมการอยู่ในตำแหน่ง จนกว่าจะเสร็จงานที่ได้รับมอบหมายให้กระทำ ส่วนคณะอนุกรรมการประจำอยู่ในตำแหน่งตามเวลาที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนด ซึ่งถ้ามิได้กำหนดไว้ก็ให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าวาระของคณะกรรมการมูลนิธิ ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้ง และอนุกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้

๒๖.๑ อนุกรรมการมีหน้าที่ดำเนินการตามที่คณะกรรมการมูลนิธิมอบหมาย

๒๖.๒ อนุกรรมการมีหน้าที่เสนอความคิดเห็นต่อคณะกรรมการมูลนิธิเกี่ยวกับงานที่ได้รับมอบหมาย


หมวดที่ ๘
การประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ

ข้อ ๒๗. คณะกรรมการมูลนิธิ จะต้องจัดให้มีการประชุมสามัญประจำปี ทุกๆ ปี ภายในเดือนธันวาคม จะต้องมีกรรมการมูลนิธิ เข้าร่วมประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

ข้อ ๒๘. การประชุมวิสามัญมีได้ เมื่อประธานกรรมการมูลนิธิ หรือ เมื่อคณะกรรมการมูลนิธิตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป แสดงความประสงค์ไปยังประธานกรรมการมูลนิธิหรือผู้ทำการแทนขอให้มีการประชุม ก็ให้มีการเรียกประชุมวิสามัญได้

ข้อ ๒๙. กำหนดการประชุม และ องค์ประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการมูลนิธิได้กำหนดไว้ ซึ่งถ้ามิได้กำหนดไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำหนดการประชุม ให้คณะกรรมการตกลงกันเอง และในส่วนที่เกี่ยวกับองค์ประชุมให้ใช้ข้อ ๒๗ บังคับโดยอนุโลม

ข้อ ๓๐. ในการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ หรือคณะอนุกรรมการ หากมิได้มีข้อบังคับกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น มติของที่ประชุมให้ถือเอาเสียงข้างมาก ในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด กิจการใดที่เป็นงานประจำหรือเป็นกิจการเล็กน้อย ประธานกรรมการมูลนิธิ มีอำนาจสั่งให้ใช้วิธีสอบถามมติทางหนังสือแทนการเรียกประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ แต่ประธานกรรมการมูลนิธิ ต้องรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการของมูลนิธิในคราวต่อไป ถึงมติและกิจการที่ได้ดำเนินการไปตามมตินั้น กิจการใดเป็นงานประจำ หรือเป็นกิจการเล็กน้อยหรือไม่ย่อมอยู่ในดุลพินิจของประธานกรรมการมูลนิธิ

ข้อ ๓๑. ในการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ หรือ คณะอนุกรรมการ ประธานกรรมการมูลนิธิ หรือประธานที่ประชุมมีอำนาจเชิญ หรือ อนุญาตให้บุคคลที่เห็นสมควรเข้าร่วมประชุมในฐานะแขกผู้มีเกียรติ หรือผู้สังเกตการณ์ หรือเพื่อชี้แจงหรือเพื่อให้คำปรึกษาแก่ที่ประชุมได้


หมวดที่ ๙
การเงิน

ข้อ ๓๒. ประธานกรรมการมูลนิธิ หรือ รองประธานกรรมการมูลนิธิ ในกรณีที่ทำหน้าที่แทนมีอำนาจสั่งจ่ายเงินได้คราวละไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท (ห้าแสนบาท) ถ้าเกินกว่าจำนวน ดังกล่าว ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการมูลนิธิ โดยเสียงข้างมาก เว้นแต่กรณีจำเป็นและเร่งด่วน ให้อยู่ในดุลพินิจของประธานกรรมการมูลนิธิ ที่จะอนุมัติให้จ่ายได้ แล้วต้องรายงานให้คณะกรรมการมูลนิธิทราบ ในการประชุมคราวต่อไป

ข้อ ๓๓. เหรัญญิกมีอำนาจเก็บรักษาเงินสดได้ครั้งละไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐บาท (หนึ่งแสนบาท)

ข้อ ๓๔. เงินสดของมูลนิธิ หรือเอกสารสิทธิ ต้องนำฝากไว้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นใดที่รัฐบาลให้การค้ำประกัน แล้วแต่คณะกรรมการมูลนิธิ จะเห็นสมควร

ข้อ ๓๕. การสั่งจ่ายเงินโดยเช็คหรือตั๋วสั่งจ่ายเงิน จะต้องมีลายมือชื่อของประธานกรรมการมูลนิธิหรือผู้ทำการแทน กับเลขานุการหรือเหรัญญิกลงนามทุกครั้ง จึงจะเบิกจ่ายได้

ข้อ ๓๖. ในการใช้จ่ายเงินของมูลนิธิ ให้จ่ายเพียงดอกผลอันเกิดจากทรัพย์สินที่เป็นทุนของมูลนิธิและเงินที่ผู้บริจาคมิได้แสดงเจตนาให้เป็นเงินสมทบทุนโดยเฉพาะ

ข้อ ๓๗. ให้คณะกรรมการมูลนิธิ วางระเบียบเกี่ยวกับการเงินการบัญชี และทรัพย์สินของมูลนิธิตลอดจนกำหนดอำนาจหน้าที่ต่างๆ เกี่ยวกับการรับและจ่ายเงินนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ

ข้อ ๓๘. ให้มีผู้สอบบัญชีของมูลนิธิ ซึ่งคณะกรรมการมูลนิธิ เห็นชอบ และแต่งตั้งจากบุคคลที่มิใช่กรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ โดยจะให้ดำรงตำแหน่งกิตติมศักดิ์หรือได้รับค่าตอบแทนอย่างไร สุดแต่ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ จะกำหนด

ข้อ ๓๙. ผู้สอบบัญชี มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของมูลนิธิ และรับรองบัญชีงบดุลประจำปีที่คณะกรรมการมูลนิธิ จะต้องรายงานต่อกระทรวงมหาดไทย ผู้สอบบัญชีมีสิทธิตรวจสอบบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสอบถามกรรมการมูลนิธิ และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ในเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน การบัญชีและเอกสารดังกล่าวได้


หมวดที่ ๑๐
การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ

ข้อ ๔๐. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับจะกระทำได้โดยเฉพาะ ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ ซึ่งจะต้องมีกรรมการมูลนิธิ เข้าประชุมไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการทั้งหมด และมติให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม ของจำนวนคณะกรรมการที่เข้าประชุม

หมวดที่ ๑๑
การเลิกมูลนิธิ

ข้อ ๔๑. ถ้ามูลนิธิ ต้องล้มเลิกไป โดยมติของคณะกรรมการหรือโดยเหตุใดก็ตาม ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิ ที่เหลือให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ “ศิริราชมูลนิธิ” ผู้รับต้องมีฐานะเป็นนิติบุคคล

ข้อ ๔๒. การสิ้นสุดของมูลนิธินั้น นอกจากที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว ให้มูลนิธิเป็นอันสิ้นสุดลงโดยมิต้องให้ศาลสั่งเลิก ด้วยเหตุต่อไปนี้

๔๒.๑ เมื่อมูลนิธิ ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลแล้ว ไม่ได้รับทรัพย์สินตามคำมั่นสัญญาเต็มจำนวน

๔๒.๒ เมื่อกรรมการมูลนิธิ จำนวนสองในสามมีมติให้ยกเลิก

๔๒.๓ เมื่อมูลนิธิ ไม่อาจหากรรมการได้ครบ ตามจำนวนกรรมการที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ

๔๒.๔ เมื่อมูลนิธิ ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ


หมวดที่ ๑๒
บทเบ็ดเตล็ด

ข้อ ๔๓. การตีความในข้อบังคับของมูลนิธิ หากเป็นที่สงสัย ให้คณะกรรมการมูลนิธิ โดยเสียงข้างมากของจำนวนกรรมการที่มีอยู่เป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ ๔๔. ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมูลนิธิ มาใช้บังคับ ในเมื่อข้อบังคับของมูลนิธิ มิได้กำหนดไว้

ข้อ ๔๕. มูลนิธิ ต้องไม่ดำเนินการหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน หรือเพื่อบุคคลใด นอกจากเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ เท่านั้น

ลงนาม น.ส. สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้จัดทำข้อบังคับ

(น.ส. สุจินต์ บริหารวนเขตต์)

ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

...ขอความเจริญมั่นคงในกุศลธรรม จงมีแด่ทุกๆ ท่าน...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 4 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหาวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pat_jesty
วันที่ 7 ส.ค. 2554

ขอขอบคุณ และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านที่ช่วยกันก่อตั้งและดำรงรักษามูลนิธิค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 7 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริการวนเขตต์ ผู้ชี้หนทางสายกลาง

ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงแสดงหนทางสายเอกหนทางเดียวเท่านั้น

ให้ได้เข้าใจได้อย่างถูกต้องตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้

และขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
jaturong
วันที่ 8 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
bauloy
วันที่ 8 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอกราบบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหาวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านที่ช่วยกันก่อตั้งและช่วยดำเนินการงานของมูลนิธิฯ

ให้เป็นที่พึ่ง ที่ศึกษาพระธรรม ด้วยจิตอันเป็นกุศล เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ ...

ขอขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 8 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
สมศรี
วันที่ 10 ส.ค. 2554
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
peem
วันที่ 12 ส.ค. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ผ้าเช็ดธุลี
วันที่ 19 ส.ค. 2554

* * * ------------------------------ * * *

ข้าพเจ้าขอมี พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสะระณะ

ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณอาจารย์สุจินต์ และ ผู้มีส่วนร่วมสร้าง มศพ.

และอาจารย์ และ วิทยากรทุกท่าน

และ สกุล บารมีธรรม และ ผู้มีจิตเป็นกุศลทุกท่านครับ

* * * * -------------------------------------------------- * * * *

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Komsan
วันที่ 20 ต.ค. 2554

ขอกราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เซจาน้อย
วันที่ 1 พ.ย. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ผู้รู้น้อย
วันที่ 4 พ.ย. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอน้อมจิตกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหาวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านเช่นกันครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
doungjai
วันที่ 1 ธ.ค. 2554

น่าจะมีการสอนในหลักสูตรการเรียนคะ รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ กราบขอบพระคุณค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
wanipa
วันที่ 6 มี.ค. 2555

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 14 ค่ะ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
hiriotappa
วันที่ 17 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
ปัณฑฬะ
วันที่ 18 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนากุศลจิตของท่านอาจารย์ สุจินต์

และกรรมการทุกท่านในมูลนิธิฯ ที่ร่วมกันถ่ายทอด ความรู้ที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนา

ส่วนตัวแล้ว ผมเลื่อมใส และ ศรัทธาในกิจกรรมของมูลนิธิมากๆ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
ธรรมะหน้าเดียว
วันที่ 3 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
เข้าใจ
วันที่ 4 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจิตต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านที่เกื้อกูลในพระธรรมให้ได้เข้าใจธรรมนั้นๆ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 20  
 
mild
วันที่ 20 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง

พระสัทธรรมยังดำรงอยู่เหตุเพราะ ยังมี พุทธบริษัทสี่ ที่เห็นในคุณของพระรัตนตรัย

ขออนุโมทนากับท่านอาจารย์ และมูลนิธิฯ ที่นำธรรมมะจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้ามาสอน

ขอขอบพระคุณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 21  
 
tawich109
วันที่ 13 ก.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่...พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผมติดตามฟังทาง Net มานานแล้วครับ ยังไม่เคยไปร่วมฟังสดๆ จากอาจารย์สักครั้ง

แต่ก็ได้รับความรู้เรื่อง "พระอภิธรรม" มากมายเลยครับ

อ้อ ... จริงๆ แล้ว ก็คือได้ "ละความเห็นผิด" เกี่ยวกับสภาพธรรมที่มีจริงๆ

ที่หากใครๆ ยังไม่มี "ปัญญา" ที่จะเห็นความจริงของสิ่งที่ "มีจริงๆ "

ที่พระพุทธองค์ทรงมี "พระมหากรุณาคุณ" พร่ำตรัสสอน

ด้วยความเอ็นดูต่อสัตว์โลกทั้งหลายที่ยังไม่มีดวงตา

ก็ต้องเพียรฟังและไตร่ตรองพิจารณาต่อไป ...

จนกว่าจะรู้ ... จนกว่าจะเห็น ... จนกว่าจะมีดวงตา ... เกิดปัญญาเป็นของตนเอง ...

ขอกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 22  
 
ทำดีทูเดย์
วันที่ 22 ม.ค. 2556
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 23  
 
sutha
วันที่ 13 ก.พ. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 24  
 
boonpoj
วันที่ 10 เม.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 25  
 
papon
วันที่ 18 มิ.ย. 2556

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 26  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 26 มิ.ย. 2556

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 
  ความคิดเห็นที่ 27  
 
wiriya
วันที่ 13 ก.ย. 2556

ขออนุโมทนาและขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์และคณะฯ เป็นอย่างสูงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 28  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 26 ก.ย. 2556

ขออนุโมทนาผู้มีพระคุณทุกท่านค่ะ

แม้จะชั่วคราวแต่เป็นสิ่งที่มีคุณมากค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 29  
 
Tomnana
วันที่ 11 ต.ค. 2556

กราบอนุโมทนา ด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 30  
 
ทรงศักดิ์
วันที่ 16 ต.ค. 2556

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 31  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 3 พ.ย. 2556

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 32  
 
โพธิ์งามพริ้ง
วันที่ 4 ม.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 33  
 
Nataya
วันที่ 3 ส.ค. 2563

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ