เห็นพระภิกษุสามเณรยืนกินน้ำโอเลี้ยงที่สถานีขนส่งรถโดยสาร

 
ทรง
วันที่  1 ส.ค. 2554
หมายเลข  18840
อ่าน  2,138

เห็นพระภิกษุสามเณรยืนกินน้ำโอเลี้ยงที่สถานีขนส่งรถโดยสารเป็นภาพไม่น่ามองเลย

อยากทราบว่าพระต้องอาบัติอะไรหรือไม่ และเทียบได้กับเสขิยวัตรข้อไหนครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 1 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระัรัตนตรัย พระภิกษุ ควรเป็นผู้ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง แม้ทางกายและวาจา โดยทั่วไปการฉัน

อาหาร อิริยาบถที่เหมาะสม คือ การนั่งจะเป็นอิริยาบถที่สมควรเหมาะสมกว่าการยืน

เพราะโดยทั่วไปแม้ชาวโลก ยืนทานอาหารก็ไม่เหมาะสม ไม่เป็นมารยาทสังคมที่ดีเลย

ในการยืนทาน ควรหาที่ที่เหมาะสม และนั่งรับประทานให้เรียบร้อย เพศที่บวชแล้วก็

ยิ่งจะต้องขัดเกลาและประพฤติให้เหมาะสม ไม่เป็นที่ติเตียนของชาวโลก ควรประพฤติ

ให้น่าเลื่อมใส การนั่งรับประทานและหาที่ที่เหมาะสม สมควรกว่าครับ

ซึ่งการดื่มโอเลี้ยงของพระภิกษุ ถ้าไม่สำรวมยืนทาน ก็เป็นอาับัติได้ มี ทุกกฎ เป็นต้น

ทั้งการยืนโคลงตัว ไม่สำรวมมือ ขา ก็เป็นอาบัติทุกกฎในเสขิยวัตรได้ครับ และถ้าเลย

เวลาเที่ยงแล้ว ฉันโอเลี้ยงก็เป็นอาบัติอีกเช่นกัน เพราะโอเลี้ยงไม่ใช่น้ำปานะ เมื่อฉัน

เลยเวลาเที่ยงก็เป็นอาบัติครับ

ขอบพระคุณอาจารย์ประเชิญที่อธิบายให้เข้าใจ มา ณ ที่นี้ครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 1 ส.ค. 2554

ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ เวลาที่ภิกษุจะฉันอาหาร ท่านก็ไปฉันในที่สมควร

เป็นการรักษาพระวินัย และรักษาศรัทธาของผู้ที่เลื่อมใสด้วย ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 1 ส.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ความเป็นบรรพชิต ไม่ได้อยู่ที่การนุ่งห่มผ้าที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์ แต่อยู่ที่ความจริงใจในการที่จะขัดเกลากิเลสให้ยิ่งขึ้น เพราะได้สละอาคารบ้านเรือนเข้าสู่เพศบรรพชิตแล้วก็จะต้องเป็นผู้มีความสำรวมทั้งทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ พร้อมกันนั้นจะต้องมีการศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้อง แล้วน้อมประพฤติในสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาต และงดเว้นจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะไม่เป็นเหตุนำมาซึ่งความเดือดร้อนใจในภายหลังในเนื่องมาจากการกระทำที่ผิดพระวินัยทั้งพระภิกษุและสามเณร ซึ่งถ้าล่วงละเมิดสิกขาบทแต่ละสิกขาบทแล้ว มีโทษแก่ผู้นั้น ยิ่งถ้าไม่ทำการแก้ไขให้ถูกต้องตามพระวินัยแล้ว เป็นอันตรายทีเดียว เป็นเครื่องกั้นในการบรรลุมรรคผล และถ้ามรณภาพในขณะที่เป็นเพศบรรพชิตอยู่ ก็เป็นผู้มีอบายเป็นที่ไปในเบื้องหน้าทั้งนั้น ซึ่งเป็นโทษแก่ผู้นั้นโดยตรง จะเห็นได้ว่าพระวินัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติไว้แต่ละข้อนั้น เป็นไปเพื่อกำจัดกิเลสอย่างแท้จริง แม้แต่ในเรื่องการฉันอาหาร ก็ทรงบัญญัติไว้อย่างครบถ้วน ถ้าน้อมประพฤติตามได้ ก็จะงดงามอย่างยิ่ง ครับ. ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pat_jesty
วันที่ 1 ส.ค. 2554

"ความเป็นบรรพชิต ไม่ได้อยู่ที่การนุ่งห่มผ้าที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์ แต่อยู่ที่ความจริงใจในการที่จะขัดเกลากิเลสให้ยิ่งขึ้น"

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ