โลก

 
jbk02
วันที่  2 พ.ค. 2554
หมายเลข  18289
อ่าน  1,204

กราบเรียน ท่านอาจารย์สุจินต์

"โลก ตามความเข้าใจของท่านอาจารย์สุจินต์ เป็นอย่างไรและอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย

ตามลำดับ ให้เกิดความเข้าใจนั้น" มีผู้ฝากเรียนถามมาค่ะ ผู้ซึ่งศึกษาธรรมจากท่านอาจาย์

สุจินต์ ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 พ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

กระผมเป็นสหายธรรมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับ

โลก คือสภาพธรรมที่แตกสลาย แตกดับไป โลกตามความเป็นจริงตามที่พระพุทธองค์

ทรงแสดง ไม่ได้หมายถึง โลกที่เราอยู่ที่เป็นสัณฐานกลม หรือเป็นโลกที่มีสิ่งต่างๆ มี

ต้นไม้ ภูเขา สิ่งต่างๆ อาศัยบนโลกใบนี้ นั่นไม่ใช่โลกที่เป็นสัจจะ ความจริง แต่เป็นโลก

ที่สมมติกันขึ้นมาว่าเป็นโลกครับ ที่เรียกว่าสัตวโลกและโอกาสโลก แต่โลกในวินัยของ

พระอริยเจ้าที่เป็นสัจจะ ความจริงหมายถึงสภาพธรรมที่มีจริงที่เกิดขึ้นและดับไป แตก

สลายไปเรียกว่าโลก ก็ต้องเข้าใจว่าอะไรคือสภาพธรรมที่มีจริง ต้นไม้ ภูเข า สัตว์

บุคคล ไม่ใช่สิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงคือสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม นามธรรม

ก็เช่น จิต รูปธรรมก็เช่น ตา เสียง เป็นต้น สภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมนี้เอง

ที่เป็นโลก เพราะเกิดขึ้นและดับไป แตกสลายไป เสียง เกิดขึ้นและก็ดับไป จิต เกิดขึ้น

และดับไป

การที่บัญญัติว่ามีโลกใบนี้ มีเรา มีสิ่งต่างๆ หากไม่มีสภาพธรรมทีมีจริง คือนามธรรม

และรูปธรรม ไม่มีจิต ไม่มีสี ไม่มีเสียง ไม่มีสภาพธรรมอะไรเลย ก็ไม่มีการเกิดขึ้นของสิ่ง

ใด และเมื่อไม่มีการเกิดขึ้นของสิ่งใด โลกนี้ก็ไม่มี ไม่มีคน เพราะคนก็คือการประชุมรวม

กันของสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม ไม่มีต้นไม้ ไม่มีภูเขา เพราะต้นไม้และ

ภูเขาที่บัญญัติขึ้นเพราะมีการประชุมรวมกันของรูปธรรม หากไม่มีนามธรรมและรูปธรรมก็

ไม่มีโลกที่สมมติกันขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อสภาพธรรมเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้นครับ

อรรถกถาสมิทธิสูตรที่ ๖ ในสมิทธิสูตรที่ ๖ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ . บทว่า โลโก ความว่า ที่ชื่อว่า โลก เพราะอรรถว่า แตกทำลาย.ความว่า ที่ชื่อ ว่าโลก เพราะอรรถว่า แตกทำลาย.

เชิญคลิกอ่านที่นี่เพิ่มเติมครับ.......สิ่งที่เรียกว่าโลก [โลกสูตร]

สิ่งที่เรียกว่าโลก [ปโลกสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 2 พ.ค. 2554

ขณะนี้มีโลกทางตา โลกทางหู โลกทางจมูก โลกทางลิ้น โลกทางกาย โลกทางใจ

เกิดขึ้นโลกจึงเกิดขึ้น เพราะมี ตา หู จมูก....ใจโลกจึงมีและสภาพธรรมที่เรียกว่าโลก

คือ ตา หู จมูก....ใจและนามธรรมและรูปธรรมอื่นๆ ก็เกิดขึ้นและดับไป สิ่งใดเกิดขึ้นและ

ดับไป แตกสลายไปจึงเรียกว่าโลกในวินัยของพระอริยเจ้าตามที่พระพุทธองค์ทรง

แสดงครับ

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ....สิ่งที่เรียกว่าโลก [จตุตถสมิทธิสูตร]

เมื่ออะไรเกิดขึ้นโลกจึงเกิดขึ้น [โลกสูตร]

ขออนุโมทนาครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 3 พ.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 3 พ.ค. 2554

โลกมี 3 อย่าง

1. สัตวโลก เป็นที่ดูผลของบุญและบาป แสดงผลของกรรมดี กรรมชั่ว

2. โอกาสโลก ภูมิเป็นที่เกิดของหมู่สัตว์ทั้งหลาย

3. สังขารโลก หมายถึงสภาพธรรมที่แตกดับ เช่น จิต เจตสิก รูป

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 3 พ.ค. 2554

โลกในวินัยของพระอริยเจ้ามีด้วยกันทั้งหมด ๖ โลกค่ะ คือ

โลกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

ทุกข์จะเกิด....ก็เกิดแค่ ๖ ทางนี้ (คิดว่ามีทางอื่นอีกมั้ยค่ะ?)

ทุกข์จะดับ....ก็ต้องดับที่ "ที่ทุกข์เกิด" ด้วยความรู้ความเข้าใจที่ "ถูกต้อง" ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 3 พ.ค. 2554

เพราะมีจิตโลกทั้งหกจึงมี เมื่อไม่มีเชื้อที่จะให้จิตเกิดต่อ โลกจึงไม่มี

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
มกร
วันที่ 3 พ.ค. 2554
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 3 พ.ค. 2554
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
khampan.a
วันที่ 3 พ.ค. 2554

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทุกขณะของชีวิต ไม่พ้นไปจากโลก มีโลกอยู่ทุกขณะ ซึ่งก็คือ สภาพธรรมที่มีจริงในชีิวิตประจำวัน ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และ ทางใจ ไม่พ้นไปจากนามธรรม และรูปธรรม ที่เคยยึดถือว่าเป็นตัวเรา หรือ สิ่งหนึ่งสิ่งใดนั้นก็คือ โลก เพราะเป็นสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับ แตกสลาย ไม่ย้อนกลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ หาความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตน เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ได้เลย เพราะเป็นเพียงสภาพธรรมแต่ละอย่าง ที่เกิดแล้วดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
jbk02
วันที่ 6 พ.ค. 2554

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ธรรมะหน้าเดียว
วันที่ 7 พ.ค. 2554

โลกคนที่สมมติขึ้นก็เกิดดับตลอดเวลา

โลกที่รูปนามก็เกิดดับตลอดเวลาเช่นกัน

อย่าได้ยึดมั่นถือมั่นเลย หนีไม่พ้น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ