ร้อน ๆ หนาว ๆ

 
kanchana.c
วันที่  21 มี.ค. 2554
หมายเลข  18082
อ่าน  1,379

ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด ๙.๐ ริกเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ ๑๑ มี.ค. ๕๔ นั้น บ้านเราอากาศร้อนอบอ้าวมาก เห็นภาพคนใส่เสื้อหนาวใน

ทีวีแล้ว ก็อยากให้บ้านเรามีอากาศหนาวแบบนั้นบ้าง เพราะรู้สึกว่าจะดีกว่าร้อนอบ

อ้าวอย่างที่เป็นอยู่

หลังเกิดแผ่นดินไหว ทำความเสียหายมากมายมหาศาลให้ญี่ปุ่น มีนักวิชาการหลาย

คนออกมาบอกว่า แกนโลกได้เอียงไปมากกว่าเดิม คิดเองว่าเมืองไทยที่อยู่บริเวณเส้น

ศูนย์สูตร คงจะทำมุมหลบพระอาทิตย์ เพราะวันนี้ (๑๘ มี.ค. ๕๔) อากาศหนาวยิ่งกว่า

หน้าหนาวที่เคยเป็นติดต่อกันมา ๒ วันแล้ว วันแรกที่อากาศเย็นนั้น รู้สึกสดชื่นมาก

อากาศอย่างนี้แหละที่ต้องการ ได้ใส่เสื้อหนาว พันผ้าพันคอที่ซื้อเก็บสะสมไว้นานแล้ว

แต่พอหนาวไม่เลิกถึงวันที่ ๒ ที่อากาศยิ่งเย็นขึ้น ก็รู้สึกว่าไม่ใช่แบบนี้ มากเกินไป เวลา

อาบน้ำแสนทรมาน แม้จะมีน้ำอุ่น แต่ผิวหนังก็แห้งตกสะเก็ดไปหมด ขออากาศกำลังดี

ไม่ได้หรือ ไม่หนาวเกินไป ไม่ร้อนเกินไปน่ะ

รู้จักความไม่สันโดษแล้วหรือยัง เมื่อยังไม่สันโดษ ก็ต้องมีความไม่มีสันโดษอย่างที่

เป็นอยู่ ไม่ยินดีพอใจในสิ่งที่มี ในสิ่งที่เป็น ตามกำลัง ตามสมควร พอร้อน อยากหนาว

พอหนาว อยากร้อน แสดงให้เห็นว่า การศึกษาธรรม การฟังธรรมของเรานั้น ยังไม่มี

ความเข้าใจที่มั่นคงว่า ทุกอย่างเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย จึงไม่สันโดษที่จะ

ระลึกศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ว่าจะหนาว จะร้อน จะชอบ ไม่

ชอบ ก็ล้วนเป็นธรรม ที่มีลักษณะจริงๆ ให้ระลึกศึกษา แต่ด้วยความไม่รู้ขณะทั้งหลายจึง

ผ่านไปด้วยโลภะ โทสะ เหมือนขณะอื่นๆ ที่ผ่านไปแล้วเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ และจะ

เป็นเช่นนี้อีกต่อไป ถ้ายังไม่ใส่ใจฟังธรรมด้วยดี ไม่ส่งใจไปที่อื่น นอกจากพระธรรมที่

กำลังได้ยินได้ฟัง แล้วพิจารณาไตร่ตรองเนื้อความที่ได้ยินนั้นให้เข้าใจทุกคำ ไม่ผ่าน

เลยไปโดยคิดว่าเข้าใจแล้ว ซึ่งความคิดว่าเข้าใจแล้วนี้ เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ทำให้ปิด

หูปิดใจที่จะฟังและพิจารณาต่อไป เพราะคิดว่าเรื่องนี้เข้าใจแล้ว แต่ที่จริงแล้วถ้ายังไม่

เข้าถึงลักษณะของสภาพธรรมตราบใด ยังไม่ชื่อว่า เข้าใจพระธรรมแล้ว


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 21 มี.ค. 2554

ถ้ายังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท ถึงความเป็นพระอรหันต์ ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้

อยู่จบพรหมจรรย์ค่ะ เพราะยังมีกิจที่ต้องกระทำคือ อบรมเจริญปัญญาในขั้นสูงต่อไป

เพื่อละกิเลสที่ยังเหลืออยู่ ดังนั้นพระอริยบุคคลขั้นที่ต่ำกว่าพระอรหันต์ ท่านจึงเรียกกันว่า

พระเสขบุคคล หมายถึงบุคคลที่ยังต้องศึกษา คือ ศึกษาสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ

ตามความเป็นจริงนั่นเองค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
patnaree
วันที่ 21 มี.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 22 มี.ค. 2554

"รู้จักความสันโดษแล้วหรือยัง"

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่แดงครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chaiyut
วันที่ 22 มี.ค. 2554

" ....ถ้ายังไม่เข้าถึงลักษณะของสภาพธรรมตราบใด

ยังไม่ชื่อว่า เข้าใจพระธรรมแล้ว"

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 22 มี.ค. 2554

ความเข้าใจที่มั่นคงว่า ทุกอย่างเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาพี่แดง ด้วยค่ะ

ขอเชิญคลิกฟังเรื่องสันโดษเพิ่มได้ที่...

ความสันโดษของคฤหัสถ์เป็นในขณะไหน

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 23 มี.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ไรท์แจกแล้วไง
วันที่ 23 มี.ค. 2554

ศึกษาด้วยชีวิต จนกว่าจะรู้ว่าไม่ใช่ชีวิต เป็นเพียงสภาพธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 26 พ.ค. 2554
ขออนุโมทนาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ