ศึกษาธรรม ..ไม่ใช่เพื่อเอาประโยชน์ไปแก้สถานการณ์ด้วยความเป็นตัวตน

 
สารธรรม
วันที่  29 ม.ค. 2554
หมายเลข  17796
อ่าน  1,680

วัดร้องขุ่น จ.เชียงราย

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

ถอดเสียงจาก ชุดพื้นฐานพระอภิธรรม แผ่นที่ ๖ ครั้งที่ ๓๓๕

สนทนาธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาอาทิตย์ที่ ๑๙ ก.พ. ๒๕๕๐

โดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

"ศึกษาธรรม ไม่ใช่เพื่อที่จะเอาประโยชน์ ไปแก้ไขสถานการณ์ด้วยความเป็นตัวตน"

" ....ศึกษาธรรม คือ เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม.... "

ถาม การศึกษาธรรมให้เข้าใจ ให้เข้าถึงความมั่นคงในกรรม ต้องเข้าใจอย่างไร เพราะดิฉันมักจะถูกผู้อื่นเบียดเบียนอยู่บ่อยๆ ซึ่งจะเกิดโทสะตลอดเวลา

ท่านอาจารย์ ตรงตลอดกาล ก็คือ ศึกษาให้รู้ว่าธรรมเป็นอนัตตา แต่ต้องรู้ในความหมายของคำว่า อนัตตา ว่า ไม่ใช่ตัวตน (ถ้า) ต้องการที่จะรู้เฉพาะอย่าง เป็นตัวตนหรือเปล่า แล้วก็ต้องการที่จะเข้าใจเรื่องที่จะทำให้ใจสบาย เป็นตัวตนหรือเปล่า เพราะฉะนั้น ก็ตรงกันข้ามกับความหมายของคำว่า อนัตตา

การศึกษาธรรม ไม่ใช่เพื่อที่จะเอาประโยชน์ไปแก้ไขสถานการณ์ด้วยความเป็นตัวตน แล้วก็คิดว่าได้ประโยชน์แล้วจากการฟังธรรม ชีวิตดีขึ้น ครอบครัวดีขึ้น ตัวตนทุกสิ่งทุกอย่างสบายดีขึ้น นั่นไม่ใช่การศึกษาธรรม การศึกษาธรรม คือ เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม นี่คือการศึกษาธรรม

อ.กุลวิไล แล้วก็การที่จะมีความมั่นคงในเรื่องของกรรมนี่นะคะ ก็ต้องมีความเข้าใจถูก เห็นถูกในสภาพธรรมที่มีจริง เพราะถ้าไม่ใช่ความเห็นถูกที่เป็นปัญญาแล้วนะคะ แน่นอน ความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรมไม่มีแน่นอน อาจจะเป็นเพียงแค่ขั้นเริ่มต้นที่ว่าฟังแล้วคล้อยตามกัน แต่ก็ไม่ใช่เป็นความที่ประจักษ์สภาพธรรม หรือว่าเห็นถูกในสิ่งที่กำลังปรากฏ

ท่านอาจารย์ ถ้าเป็นเราอยู่ มั่นคงไหมคะ เราทำดีมาตลอดชีวิตเลย กรรม อยู่ที่ไหนใช่ไหมคะ ไม่เห็นให้ผลเลย ทำความดีแล้วได้รับสิ่งที่ไม่ดี ก็มีความไม่เข้าใจอีก ว่าจริงๆ แล้ว เป็นอนัตตา ไม่สามารถที่จะเลือกได้ แล้วก็เป็นธรรมที่ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ด้วย ถ้ามีความเข้าใจอย่างนี้จริงๆ ก็เลิกคิด (พร่ำเพ้อ) แต่ว่าเริ่มที่จะรู้เหตุและผล และก็สภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า ไม่มีใครสามารถที่จะเลือก หรือ บันดาลให้อะไรเกิดขึ้นในชีวิตได้เลย ถึงแม้ว่ามีความเห็นถูก ไม่ให้คนอื่นกล่าวร้ายได้ไหม ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทุกอย่างเนี่ย ต้องถึงความเป็นอนัตตาว่า บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ตามที่เกิด มีปัจจัยแล้วจึงเกิด อันนี้ก็เป็นของธรรมดาที่จะเห็นความเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน มิฉะนั้นแล้ว ก็มีโลภะ มีความอยาก มีความต้องการ ไม่อยากให้ใครกล่าวร้าย ไม่อยากให้ใครเบียดเบียน แต่ว่าบังคับได้ไหม แค่คำเดียวที่ถาม ไตร่ตรอง ก็จะทำให้เห็นได้ว่าทุกอย่าง เป็นธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 29 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
พุทธรักษา
วันที่ 29 ม.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เซจาน้อย
วันที่ 29 ม.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 29 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jipoam
วันที่ 29 ม.ค. 2554

ผู้แสวงหาธรรมก็เพื่อให้ตนเองพ้นทุกข์ แต่ทีไหนได้ รากเหง้าอวิชชาที่หากันอยู่ดันอยู่ใกล้แค่เนี่ย!..ใกล้แค่ ตัวฉัน ใกล้แค่ของฉัน เท่านั้น...มิน่าบัวถึงเป็นสัญลักษณ์ของผู้ตื่น เพราะทั้งบัวบานที่พ้นน้ำแล้ว และบัวที่ยังไม่พ้นน้ำ ล้วนอาศัยปัจจัยที่มาจากรากเง้าในตมเดียวกัน พวกเรามัวไปคว้าสิ่งวิเศษที่อยู่นอกโคนตมไหนกันอยู่หนอ

เยธัมมา เหตุปัปภวา ธรรมทั้งหลายย่อมเกิดแต่เหตุ

เตสัง เหตุง ตถาคโต พระตถาคตย่อมชี้เหตุแห่งธรรมะเหล่านั้น

เตสัญจ โย นิโรโธ แสดงความดับไปของธรรมเหล่านั้น เพราะ สิ้นเหตุ

เอวัง วาที มหาสมโณ พระมหาสมณะ มีปกติตรัสอย่างนี้

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
พร้อมเสมอ
วันที่ 30 ม.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
intira2501
วันที่ 30 ม.ค. 2554

ระลึกคำกล่าวของอาจารย์อยู่เสมอว่ากรรมมีสภาพปกปิด ไม่อาจจะรู้ได้ แต่ทุกอย่างก็เป็น ธรรม

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 31 ม.ค. 2554

"...การศึกษาธรรม คือ เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรม (ไม่ใช่เรา) ..."

"...ไม่ใช่เพื่อที่จะเอาประโยชน์ไปแก้ไขสถานการณ์ ด้วยความเป็นตัวตน

แล้วก็คิดว่าได้ประโยชน์แล้วจากการฟังธรรม ชีวิตดีขึ้น ครอบครัวดีขึ้น ตัวตน ทุกสิ่งทุกอย่างสบายดีขึ้น นั่นไม่ใช่การศึกษาธรรม..."

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ