มาฟังเองซิคะ

 
เมตตา
วันที่  7 ก.ย. 2553
หมายเลข  17112
อ่าน  1,268

ทุกคนมีอัธยาสัยสะสมมาไม่เหมือนกัน บางท่านเป็นผู้ที่สะสมความเห็นถูกเข้าใจถูก เมื่อได้ฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ ก็ยิ่งทำให้เกิดความศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ความจริงซึ่งท่านบรรยายให้เข้าใจถึงความจริงที่มีอยู่ขณะนี้ ความจริงที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้ ทรงแสดงไว้ให้ได้เข้าใจ จนเป็นคำถามจากเพื่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ที่นี่สอนอะไร แนวทางไหน จึงได้มาฟังที่นี่ประจำ คำถามจึงได้ถูกนำมาเรียนถามท่านอาจารย์ว่าจะเกื้อกูลเขาอย่างไร จะอธิบายให้เขาฟังอย่างไรเพื่อให้เขาเข้าใจความจริงที่กำลังมีกำลังปรากฏอยู่ตลอดในชีวิตประจำวัน

ท่านอาจารย์ตอบว่า ... ให้มาฟังเองซิคะ เป็นคำตอบที่ดีจริงๆ ที่จะเกื้อกูลให้เขาได้มีความเข้าใจถูก มีความเห็นถูกในความจริงโดยให้เขามาฟังเอง ...

ขอกราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 7 ก.ย. 2553

ทุกคนมีอัธยาศัยสะสมมาไม่เหมือนกัน และ ธรรมะไม่สาธารณะแก่บุคคลทั่วไป ผู้ที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้ว จึงรู้ว่าการได้พบและได้ฟังพระธรรมมีค่ากว่าสิ่งอื่นใด ในชาติหนึ่งๆ ที่ได้เกิดมาครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
opanayigo
วันที่ 7 ก.ย. 2553

จากประสบการณ์ชีวิตจริง

ให้ได้แต่ต้องไม่หวัง

ทุกอย่างไม่เป็นไปตามความอยากของเรา

แม้แต่บุคคลในครอบครัวเราเอง

กว่าจะรู้สึกตัวก็กิเลสท่วมท้นเราเข้าไปแล้ว

ความเห็นต่างกัน

ทิฎฐิ มานะ เราเองก็เหนียวแน่น นับประสาอะไรกับผู้อื่น (นามธรรมเดียวกัน)

.......................

การให้ผู้ที่ยังไม่ต้องการรับ

ย่อมเห็นค่าน้อยกว่า

ผู้ที่เดินทาง ค้นหา ด้วยตัวเอง (มาเองตามเหตุปัจจัยของเขา)

แม้มาแล้วก็อาจจะไป ก็เป็นไปได้

บังคับอะไรไม่ได้เลยนะคะ

...........................

สะกิดใจ

คำกล่าวสั้นๆ ของอ.สุจินต์ในวันนั้นว่า

" สงเคราะห์คนที่มีความเห็นถูก กับ สงเคราะห์คนที่มีความเห็นผิด"

อย่างไหนมีประโยชน์กว่ากัน

.......................

ด้วยจิตคาระวะในธรรม

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 7 ก.ย. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา นั้น ประกอบด้วยเหตุและผล เป็นไปเพื่อการละคลายอกุศล เป็นไปเพื่อการดับกิเลส เป็นไปเพื่อการไม่เกิดอีกสิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง บุคคลผู้ที่ไม่มีปัญญา ย่อมไม่เห็นประโยชน์ของพระธรรมที่มีคุณค่ามากนี้ ถึงแม้ว่าจะมีผู้แนะนำในสิ่งที่ดีมีประโยชน์แก่เขาอย่างไรก็ตาม เขาย่อมไม่เห็นคุณค่า ไม่เห็นประโยชน์ ตามการสะสมของเขา แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นบุคคลผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดีมา คือได้สะสมบุญมาตั้งแต่ชาติปางก่อนเพียงแค่ประโยคที่ว่า "มาฟังเองซิคะ" หรือ "มาฟังเองซิครับ" ก็จะเพียงพอสำหรับการเข้ามาฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องได้ และในที่สุดพระธรรมก็จะเป็นประโยชน์เกื้อกูลสำหรับบุคคลนี้ได้อย่างแท้จริง ครับ (อย่างน้อยๆ เราก็พึงชักชวนเขา ถ้าเราไม่ชักชวนเขา แล้วใครจะชักชวนเขา ครับ)

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Komsan
วันที่ 7 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ประสาน
วันที่ 8 ก.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ชีวิตคือขณะจิต
วันที่ 8 ก.ย. 2553

ครับ ให้มาฟังเอง ฟังเสียงพระธรรมที่ไพเราะ ดังแล้ว ได้ยินแล้ว ได้ยินอีก ได้ยินแล้ว ได้ยินอีก ได้ยินแล้ว ได้ยินอีก ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
aditap
วันที่ 8 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
รวงข้าวท้องแก่
วันที่ 9 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ .

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
raynu.p
วันที่ 10 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ