เครื่องปรุงแต่งให้สติและปัญญาเกิดขึ้น

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  23 ก.ค. 2553
หมายเลข  16803
อ่าน  2,915

ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เมื่อมีความเข้าใจที่มั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรม ก็จะรู้ได้ว่า ไม่มีตัวตัวตนที่เจริญสติ ไม่มีตัวเราทำสติให้เกิด แต่สตินั่นเองเกิดขึ้น หรือ เจริญขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า สติก็เป็นอนัตตาเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็ดับไป

ถ้าไม่อาศัยการฟังเรื่องของสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงเป็นปกติ บ่อยๆ เนืองๆ จนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นไปตามลำดับแล้ว ย่อมไม่ได้เหตุได้ปัจจัยให้สติเกิดขึ้นหรือเจริญขึ้นได้ เพราะเหตุว่าที่ตั้งให้สติระลึกและปัญญารู้ตามความเป็นจริง คือ สภาพธรรมที่มีในขณะนี้นั่นเอง ซึ่งไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้นทางกายและทางใจ

เพราะฉะนั้น จึงต้องอาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมพิจารณาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งให้สติและปัญญาเกิดขึ้น ระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อการละคลายความยึดถือในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนได้ ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
govit2553
วันที่ 24 ก.ค. 2553

ฟัง พิจารณา ปรุงแต่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
hadezz
วันที่ 24 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 24 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
รากไม้
วันที่ 25 ก.ค. 2553

ฟังแค่หนึ่ง แต่ต้องพิจารณาให้ถึงร้อย ...ถ้าเพียงฟังแล้วจำไว้ แต่ไม่นำมาพิจารณาสภาพธรรมที่กำลัีงปรากฎเลย ก็ไม่สามารถเป็นปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสได้เลย

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
h_peijen
วันที่ 25 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 28 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
buntham-2488
วันที่ 20 ส.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
sprkn
วันที่ 28 เม.ย. 2554

สาธุ ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เข้าใจ
วันที่ 11 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธัมมะทั้งปวง เป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ฟังพระธัมมเพื่อ เป็นเครื่องปรุงแต่งให้สติและปัญญา เกิดขึ้น

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
jaturong
วันที่ 1 มิ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
nong
วันที่ 3 มิ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
boonpoj
วันที่ 28 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
tanrat
วันที่ 14 พ.ย. 2556

ฟัง พิจรณา บ่อยๆ เนืองๆ อบรมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นความเข้าใจแห่งตน นี่คือสภาพธรรมที่เรียกว่าเพียร ไม่ใช่ตนอยากทำให้เพียรเกิด แต่ธรรมะเพียรเกิด

สาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
panasda
วันที่ 17 ธ.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
psantra
วันที่ 29 พ.ค. 2557

สาธุ ดีแล้วๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
tanrat
วันที่ 25 ส.ค. 2557

จริงๆ แล้วจิตเป็นอกุศลมากแต่ละขณะ นี่คือ การระลึกสภาพธรรมของตนเอง โทสะ โลภะ เพรียบ เต็มไปหมด ว้าวุ่นกับสิ่งที่มากระทบ ฟังพระธรรมก็นาน แต่กิเลสมาก ก็ต้องฟังต่อไปไม่ท้อแท้ เป็นธรรมดาจริงๆ ถ้ายามใดสติเกิดบ้างก็เข้าใจว่าไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมที่เกิด อีกนาน หนทางที่ไกลแสนไกล เพื่อความไม่ประมาท ต้องเจริญกุศลทุกประการ แต่ไม่ใช่เราเจริญ เป็นธรรมทำกิจของธรรมนั้นๆ

การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
chatchai.k
วันที่ 27 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ