สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กับ ความเมตตา

 
ทับทิม
วันที่  18 ก.ค. 2553
หมายเลข  16752
อ่าน  2,098

สวัสดีค่ะ เนื่องจากได้ตั้งใจ ไว้ที่จะพัฒนาความเมตตากรุณา ความให้ทาน เพื่อที่จะไม่หวงทรัพย์สมบัติ (เพราะรู้สึกว่า อันนี้ทำได้ง่ายที่สุด) ทีนี้พอคิดว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่ว่าเราจะพยายามช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเท่าไร เราก็ไม่อาจเปลี่ยนกรรมเค้าได้ พอคิดแบบนี้แล้วก็เลยลังเล ว่าเราจะช่วยดีหรือไม่ช่วยดี ขณะที่ช่วยนั้น ก็ไม่ได้หวังผล หรือหวังว่าจะเปลี่ยนกรรมเค้าได้ คิดเพียงแค่ว่า ได้บรรเทาทุกข์เฉพาะหน้าให้เค้า หากว่า เค้าจะได้คิด และทำให้ชีวิตของตนเองดีขึ้น ก็เป็นบุญของเค้า หากว่าเค้าคิดไม่ได้ และไม่สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ ก็เป็นกรรมไม่ดีของเค้าเอง เราไม่ได้หนักอกหนักใจเลย กรุณาแนะนำด้วยค่ะ ว่าเราควรช่วยไปก่อน หรือว่าวางเฉยไปเพราะว่า มันเป็นกรรมของเค้าเองค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 ก.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ธรรม เป็นเรื่องละเอียด สำคัญที่จิต แม้จะมีเหตุผลใดมาอ้าง ในการช่วยหรือไม่ยอมช่วยก็ตาม จิตเป็นอะไรในขณะนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล ถ้าเป็นอกุศลจะไม่ใช่เมตตาและอุเบกขา (การเห็นว่า สัตว์มีกรรมเป็นของๆ ตนจึงวางเฉย) ดังนั้น เราจะต้องเข้าใจเรื่องของเมตตา และเรื่องอุเบกขาให้ถูกต้องว่าเป็นกุศลพระพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า ไม่ควรประมาทในกุศลทุกๆ ประการแม้การให้ทาน และการช่วยเหลือประการอื่นๆ ความเมตตาคือความหวังดีอยากให้ผู้อื่นมีความสุข โดยมีการช่วยเหลือบุคคลอื่น เมื่อบุคคลอื่นต้องการความช่วยเหลือ ผู้ที่มั่นคงในการเจริญกุศล ย่อมให้สมควรกับฐานะของตนเท่าที่จะช่วยได้ หากไม่ช่วยเพราะอะไร ด้วยจิตอะไรในขณะนั้น แม้จะกล่าวว่าสัตว์มีกรรมเป็นของๆ ตน แต่จิตขณะนั้นเป็นอกุศลหรือกุศล เป็นความไม่อยากให้ตนลำบาก หรือไม่อยากเสียเงินทอง ดังนั้น จึงไมได้อยู่ที่เหตุผลที่พูดขึ้นกล่าวอ้าง แต่อยู่ที่ใจของบุคคลนั้นว่าคิดอย่างไร ด้วยจิตประเภทไหน เพราะฉะนั้นการวางเฉย ที่เป็นอุเบกขาเพราะเห็นว่าสัตว์มีกรรมเป็นของๆ ตน นั้นไม่ได้หมายความว่า จะไม่ช่วยแต่ช่วยเท่าที่จะช่วยได้ เมื่อรู้ว่าสุดความสามารถของเราคือ เราทำเต็มที่แล้ว ก็วางเฉยด้วยปัญญาว่า เขาก็ต้องมีกรรมเป็นของๆ ตน เพราะเราทำสุดความสามารถแล้ว เราช่วยเต็มที่แล้วครับ จึงวางเฉยด้วยปัญญา และแม้บางเหตุการณ์ก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะสุดวิสัยที่เราจะช่วย แต่ต้องไม่ลืมครับว่า เพราะอะไร กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล

ขออนุโมทนา อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
bsomsuda
วันที่ 18 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
พุทธรักษา
วันที่ 18 ก.ค. 2553

ความเมตตา คือ ความเป็นมิตร ปรารถนาดีต่อบุคคลอื่นโดยไม่มีเงื่อนไขแต่ ความเมตตา ก็เป็นอนัตตา คือ บังคับบัญชาไม่ได้เมื่อมีปัจจัยให้เกิด ความเมตตาก็เกิด และถ้ามีกำลังมากพอ ก็แสดงออกมาทางกาย วาจา ความเมตตามีคุณ ไม่มีโทษ เพราะเป็นกุศลธรรมแต่ ไม่ควรลืมว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาไม่ว่าจะเมตตา กรุณา แค่ไหน สัตว์โลกก็ต้องเป็นไปตามกรรมการพิจารณาเช่นนี้ เป็นการรักษาจิตของตนไม่ให้ตกไปในอกุศลซึ่งเป็นสิ่งที่ควรระมัดระวัง เพราะพระพุทธเจ้า ไม่ทรงสรรเสริญการสะสมอกุศลธรรม ท่านอาจารย์สุจินต์เคยสอนว่า "ดีที่สุดคือ ไม่หวัง" "ให้เขาเมตตา ดีกว่าให้เขารัก"

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 19 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 19 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Komsan
วันที่ 19 ก.ค. 2553

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
คุณ
วันที่ 20 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chaiyakit
วันที่ 1 ส.ค. 2553

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 1 ก.ย. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ