ปั้นน้ำเป็นตัว

 
kanchana.c
วันที่  3 ก.ค. 2553
หมายเลข  16643
อ่าน  1,425

เคยได้ยินคำว่า “ปั้นน้ำเป็นตัว” มาตั้งแต่เด็ก คำว่า “ปั้นน้ำเป็นตัว” นั้นเป็นคำเปรียบเปรยที่ใช้กับคนโกหก แต่งเรื่องที่ไม่จริงให้ดูเป็นเรื่องจริง เพราะน้ำนั้นไม่มีรูปร่างของตัวเอง มีรูปร่างตามภาชนะที่ใส่ แต่คนโกหกก็ช่างสามารถนำมาเล่าให้เป็นเรื่องจนได้

วันนี้ (เสาร์ที่ ๓ ก.ค. ๕๓) มูลนิธิฯ นำพระสูตร สุภากัมมารธิดาเถรีคาถา มาสนทนาตอนหนึ่ง ท่านอาจารย์พูดถึง คำว่า “ปั้นน้ำเป็นตัว” ว่า พวกเราทุกคนนั้นเป็นนักปั้นน้ำเป็นตัว เพราะเพียงเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา ซึ่งเกิดแล้วดับไป ไม่มีอะไรเหลือ ก็ยังเห็นเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นเรื่องโน้นเรื่องนี้มากมาย เช่นเดียวกับ เสียงที่ปรากฏทางหูนั้น ก็ดับไปแล้ว แต่ก็ปรากฏเป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ก็เช่นเดียวกัน เกิดปรากฏเพียงชั่วขณะแล้วก็ดับไป แต่ก็ยังยึดถือว่าเป็นสัตว์ เป็นบุคคลเช่นกัน

ท่านอาจารย์ช่างลึกซึ้งจริงๆ หาคำเปรียบเทียบจนทำให้เข้าใจได้ว่า สภาพธรรมทุกอย่างเกิดเมื่อปรากฏแล้วก็ดับไป แต่ก็ยังปรากฏเป็นสัตว์ เป็นบุคคลอยู่ทุกขณะ เหมือนปั้นน้ำเป็นตัวจริงๆ ที่ยึดถือสิ่งที่ไม่มีว่า ยังเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ตลอดเวลา

ความจริงท่านพูดลึกซึ้งกว่านี้อีกมาก แต่สติปัญญาจดจำ และพอจะเข้าใจได้แค่นี้ ผู้ใดเข้าใจได้มากกว่านี้ ช่วยกรุณาเพิ่มเติมด้วยค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 7 ก.ค. 2553

สิ่งที่ยึดถือว่าเป็นเรา เป็นสัตว์ เป็นบุคคลนั้นแท้จริงเป็นแต่เพียงจิต เจตสิก และรูปที่เกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว..แท้จริงไม่มีใครในสิ่งที่กำลังปรากฏเพราะความไม่รู้คืออวิชชาที่ปกปิดความเป็นจริงไว้ จึงเห็นเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน...

ขณะนี้เรากำลังปั้นน้ำเป็นตัวอยู่หรือเปล่า?? ขณะเห็น ได้ยิน...ก็คิดเป็นรูปร่างสัณฐาน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลทันที แล้วก็ติดข้อง ในชีวิตประจำวันมีแต่สะสมความไม่รู้และโลภะเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในแต่ละวันอกุศลจิตจึงเกิดมากกว่ากุศลจิตมากมาย

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
รากไม้
วันที่ 8 ก.ค. 2553

ก็เพราะว่า ได้ท่าน อาจารย์สุจินต์ ช่วยชี้แนะ ให้ความรู้ อบรม สั่งสอน ....จึงทำให้ปัญญาเพิ่มพูน จนถึงขั้นที่ละกิเลสได้ จึงเกิดความพ้นจากทุกข์ได้

แม้จะยังละความยึดติดไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็เห็นหนทางที่ชัดเจนแจ่มชัดแล้ว ว่าชีวิตนี้จะต้องก้าวเดินไปในทางใด เพื่อเป็นที่สุดแห่งการใช้ชีวิตนี้ให้คุ้มค่า ไม่เสียชาติเกิด

ถ้าไม่ศึกษาให้มากพอ จนปัญญาถึงขั้นที่ละโมหะและโลภะได้นั้น ย่อมไม่พ้นทุกข์ใดๆ ได้เลย ...ขอให้สหายธรรมทุกท่าน ฟังธรรมแล้วหมั่นพิจารณาให้ถี่ถ้วนเถิด

แม้ไม่ได้เป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านอาจารย์ และไม่ได้ไปฟังบรรยายธรรมเป็นประจำ แต่ก็ฟังซีดีคำสอนของท่านอาจารย์แทบทุกวันไม่ได้เว้น ...โดยเฉพาะ พระอภิธรรม ซึ่งผมถือว่าเป็นธรรมที่มีค่ามากมหาศาล และมีความละเอียดลึกซึ้งจริงๆ

พระคุณนี้ของท่านอาจารย์ ใหญ่หลวงนัก หากไม่ได้อาจารย์ช่วยเหลือ ชีวิตนี้คงฉิบหายหนักเป็นแน่แท้ทีเดียว ...ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ ไว้ ณ. ที่นี้ด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
saifon.p
วันที่ 9 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ