ทำไมชาวพุทธเวลาจะทำบุญซักที จะต้องถามว่าได้อานิสงส์หรือเปล่า

 
chaiyakit
วันที่  27 มิ.ย. 2553
หมายเลข  16604
อ่าน  1,074

ทำไมชาวพุทธเวลาจะทำบุญซักที จะต้องถามว่าได้อานิสงส์หรือเปล่า


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 28 มิ.ย. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เป็นธรรมดาของปุถุชนผู้สะสมกิเลสมามากมาย ยังมีโลภะ มีความต้องการไม่ว่าใน

สิ่งใด สิ่งหนึ่ง แม้ไม่ใช่เรื่องของการทำบุญในเรื่องอื่นๆ เราก็มีความหวัง มีความต้องการ

เช่นกัน บางครั้งจะทานอาหารที่ผู้อื่นให้มา ก็ถามว่าอาหารนี้อร่อยไหม สะอาดหรือเปล่า

ก็มีความต้องการ มีความติดข้องอีกเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากเราพิจารณาตามความเป็น

จริงคือไม่พิจารณาว่าเป็นคนนั้น คนนี้ เป็นชาวพุทธหรือบุคคคลใด แต่พิจารณาที่

สภาพธรรมนั่นก็คือมีแต่ จิต และเจตสิกเท่านั้นไม่มีสัตว์ บุคคล จิต เจตสิกใดที่สะสม

กิเลสมามากก็มีปัจจัยให้ติดข้องมากเป็นธรรมดา ประโยชน์ของการศึกษาธรรมจึงต้อง

เป็นผู้ตรง อกุศลเป็นอกุศล กุศลเป็นกุศล เพื่อเข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญญา

ขั้นแรกคือรู้ความจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่ใช่ละโลภะ ความต้องการครับ เข้าใจ

ความจริงว่าอกุศลก็เป็นธรรม เกิดแล้วเป็นธรรมและเป็นธรรมดาของปุถุชนครับ เชิญคลิกอ่านที่นี่....ทาน ๘ ประการ [ปฐมทานสูตร] อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 29 มิ.ย. 2553

ความ "อยากได้" อานิสงส์ เลยทำให้อานิสงส์ที่ควรจะได้ต้องลดน้อยลง

เพราะเป็นการเจริญกุศลที่มี "อกุศล" เป็นบริวาร ทำให้กรรมนั้นๆ ขาดความบริสุทธิ์

......ไม่ใช่การเจริญกุศลอย่างสัตบุรุษค่ะ

ดังนั้นการอบรมเจริญปัญญาจึงมีความสำคัญมาก

เพราะช่วยให้ชาวพุทธมีความรู้ความเข้าใจในการทำบุญได้อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
pamali
วันที่ 29 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 29 มิ.ย. 2553

ผู้ที่รู้ว่าขณะใดจิตเป็นกุศล ขณะใดจิตเป็นอกุศล ย่อมมีปัจจัยให้เกิด

กุศลได้มากกว่าผู้ที่ไม่รู้ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ajarnkruo
วันที่ 30 มิ.ย. 2553

ทำไมชาวพุทธเวลาจะทำบุญซักที จะต้องถามว่าได้อานิสงส์หรือเปล่า

..........เพราะไม่รู้ว่าบุญ/กุศลเป็นธรรมเกิดตามเหตุปัจจัยแล้วดับ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เราเพราะไม่รู้ว่าผลของบุญ/กุศลเป็นธรรมเกิดตามเหตุปัจจัยแล้วดับ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา

....เพราะปรารถนาให้ตัวตนได้รับผลของกุศล ถ้ารู้ว่าตนจะไม่ได้ผล ก็มักจะไม่อยากทำ

ส่วนผู้ที่มีปัญญาเห็นถูกว่ากุศลและผลของกุศลเป็นธรรมจริงๆ ก็จะคลายการยึดถือกุศลและการหวังผลของกุศลลง สู่การดับการยึดถือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นธรรมใดๆ ก็ตาม

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
รากไม้
วันที่ 7 ก.ค. 2553

ผู้ที่ไม่หวังผลใดๆ เลยในขณะที่กำลังทำการเจริญกุศล ย่อมได้ผลของกุศลนั้นอย่างเต็มกำลัง

แต่ก็เป็นไปได้ยากจริงๆ เพราะถึงแม้จะพยายามไม่หวัง แต่สุดท้ายหลายๆ คนก็มักจะหวังอยู่ดี เช่น สร้างกุศลไปนานๆ หลายปีแล้ว ก็หวังให้กุศลที่ทำไปแล้วเหล่านั้น ช่วยมาส่งผลให้เกิดปัญญาเพื่อไปให้ถึงนิพพาน เป็นต้น

ขออนุโมทนา ทุกดวงจิตที่ใฝ่ีธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 7 ก.ค. 2553

^

^

อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วิริยะ
วันที่ 9 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ