สำหรับพรุ่งนี้ก็มืดสนิท

 
opanayigo
วันที่  2 มิ.ย. 2553
หมายเลข  16371
อ่าน  1,172

00062 สำหรับพรุ่งนี้ก็มืดสนิท

ชีวิตของแต่ละท่านก็ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนถึงขณะนี้ก่อนจะถึงวัยนี้ ก็ไม่รู้ว่าถึงวัยนี้ในลักษณะใดสำหรับพรุ่งนี้ก็มืดสนิท ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดบ้างแน่นอน

ถ้าศึกษาพระธรรมก็จะเริ่มเข้าใจทุกอย่างตรงตามความเป็นจริงรู้เหตุของความทุกข์ สุข จนกระทั่งสามารถที่จะดับเหตุของความทุกข์ สุขนั้น ได้ตามพระธรรมนี่คือ..ประโยชน์ของการฟังพระธรรม แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น


ธรรมเตือนใจวันที่ : 6 ต.ค. 2547


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 2 มิ.ย. 2553

"...ถ้าศึกษาพระธรรมก็จะเริ่มเข้าใจทุกอย่างตรง ตามความเป็นจริงรู้เหตุของความทุกข์ สุข จนกระทั่งสามารถที่จะดับเหตุของความทุกข์ สุขนั้น ได้ตามพระธรรมนี่ คือ..ประโยชน์ของการฟังพระธรรม แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น..."

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
paderm
วันที่ 2 มิ.ย. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓-หน้าที่ 146

" เมื่อโลกสันนิวาส อันไฟลุกโพลงอยู่เป็นนิตย์,

พวกเธอยังจะร่าเริง บันเทิงอะไรกันหนอ ? เธอ

ทั้งหลายย่อมถูกความมืดปกคลุมแล้ว ทำไมจึงไม่แสวง หาประทีปเล่า? "

ความยินดี ชื่อว่า อานนฺโท ในพระคาถานั้น. พระผู้มีพระภาคเจ้า

ตรัสเป็นคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า " เมื่อโลกสันนิวาสนี้ อันไฟ ๑๑ อย่าง มี

ราคะเป็นต้นลุกโพลงแล้วเป็นนิตย์. เธอทั้งหลายจะมัวร่าเริงหรือเพลิด-

เพลินอะไรกันหนอ? นั่นไม่สมควรทำเลย มิใช่หรือ? ก็เธอทั้งหลาย

อันความมืดคืออวิชชาซึ่งมีวัตถุ ๘ ปกคลุมไว้ เหตุไรจึงไม่แสวงหา คือ

ไม่ทำประทีปคือญาณ (ปัญญา) เพื่อประโยชน์แก่การกำจัดความมืดนั้นเสีย?

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khunpit
วันที่ 3 มิ.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
santy
วันที่ 3 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เมตตา
วันที่ 3 มิ.ย. 2553

อวิชชาคือความมืดสนิท การฟังธรรมแล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้นก็เปรียบเสมือนค่อยๆ มีแสงไฟส่องในที่มืด จนกว่าวิชชาคือปัญญาเกิดสามารถไล่ความมืดสนิทคืออวิชชาให้หมด

สิ้นไปได้... ก็ด้วยการอบรมความเห็นถูกเข้าใจถูกในธรรม ข้อความบางตอนจาก

อรรถกถา สัทธัมมปัชโชติกา ซึ่งเป็นอรรถกาขุททกนิกาย จูฬนิทเทส อวิชชา คือ ความหลงใหญ่นี้ เป็นความเที่ยงอยู่สิ้นกาลนาน สัตว์ทั้งหลายผู้ไปด้วย

วิชชาเท่านั้น ย่อมไม่ไปสู่ภพใหม่ ฯ

...ขออนุโมทนาค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 3 มิ.ย. 2553
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น เมื่อวานผ่านไปแล้ว วันนี้กำลังดำเนินไปอยู่ สำหรับพรุ่งนี้ยังไม่มาถึง ในแต่ละวันที่ดำเนินไปนั้น ไม่มีใครสามารถช่วยเราได้เลย นอกจากตัวเราจะสะสมการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เป็นความเข้าใจถูกเห็นถูกของตัวเราเอง เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ถึงแม้ว่าวันหนึ่งๆ ชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยกิเลสนานาประการ ทั้งความติดข้องยินดีพอใจ ความโกรธขุ่นเคืองใจความไม่พอใจ และกิเลสตัวสำคัญ คือ อวิชชา ความไม่รู้ เป็นต้น ซึ่งเป็นปกติของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ตาม แต่สิ่งที่ควรมีเป็นอย่างยิ่งนั้น ก็คือ ความมั่นคง และมีศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง เพื่อละคลายความมืดมิด คือ อวิชชา ไปทีละเล็กทีละน้อย ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น

ที่สำคัญที่สุด ต้องเริ่มจากการฟัง การศึกษาพระธรรม เป็นปกติในชีวิตประจำวันก้าวต่อไปอย่างไม่ประมาท โดยที่ไม่ขาดการฟังพระธรรม นั่นเอง ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
wannee.s
วันที่ 4 มิ.ย. 2553

ขณะนี้ธรรมะกำลังปรากฏ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย

ทางใจ ถ้าไม่รู้ว่าเป็นธรรมะไม่ใช่เรา ก็อยู่ในโลกที่มืดสนิทด้วยอวิชชาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
คุณ
วันที่ 5 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 5 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ