บริษัทที่แยกเป็นพวก และที่สามัคคีกัน [อรรถกถาสูตรที่ ๒]

 
เมตตา
วันที่  14 เม.ย. 2553
หมายเลข  15886
อ่าน  865

[เล่มที่ 33] พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๔๐๑

สูตรที่ ๒

ว่าด้วยบริษัทที่แยกเป็นพวก และที่สามัคคีกัน

[๒๘๘] ๔๒. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัท ๒ จำพวกนี้ ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ บริษัทที่แยกออกเป็นพวก ๑ บริษัทที่สามัคคีกัน ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทที่แยกออกเป็นพวก เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลายบริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุหมายมั่นทะเลาะวิวาทกัน ต่างเอาหอก คือปากทิ่มแทงกันและกันอยู่ บริษัทเช่นนี้ เรียกว่าบริษัทที่แยกกันเป็นพวก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทที่สามัคคีกัน เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุพร้อมเพรียงกัน ชื่นชมกันไม่วิวาทกันเป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ ต่างมองดูกันและกัน ด้วยนัยน์ตาเป็นที่รักอยู่บริษัทเช่นนี้ เรียกว่าบริษัทที่สามัคคีกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บริษัท ๒ จำพวกนี้แล บรรดาบริษัท ๒ จำพวกนี้ บริษัทที่สามัคคีกันเป็นเลิศ.

จบสูตรที่ ๒

อรรถกถาสูตรที่ ๒

ในสูตรที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้

บทว่า ภณฺฑนชาตา ความว่า เบื้องต้นของการทะเลาะ ท่านเรียกว่า แตกร้าว. การแตกร้าวนั้นเกิดแล้วแก่ภิกษุเหล่านั้น ดังนั้นจึงชื่อว่าเกิดแตกร้าว อนึ่ง ได้แก่การทะเลาะที่เกิดขึ้น โดยกล่าวคำเป็นต้นว่า พวกเราจักให้ลงอาชญา จักให้จองจำพวกท่าน. นัยฝ่ายคฤหัสถ์พึงทราบเท่านี้ก่อน ส่วนพวกบรรพชิตที่กล่าววาจาถึงการล่วงอาบัติ ชื่อว่า เกิดทะเลาะกัน .

บทว่า วิวาทาปนฺนา ได้แก่ ถึงวาทะที่ขัดแย้งกัน

บทว่า มุขสตฺตีหิ วิตุทนฺตา ความว่า วาจาเป็นทุภาษิตท่านเรียกว่าหอก คือปาก เพราะอรรถว่าตัดคุณความดีทั้งหลาย ทิ่ม คือแทงกันด้วยวาจาเหล่านั้น.

บทว่า สมคฺคา ความว่า ประกอบด้วยความเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยการกระทำสิ่งเหล่านี้ คือ งานเดียวกัน อุเทศเดียวกัน มีการศึกษาเสมอกัน.

บทว่า ปิยจกฺขูนิ ได้แก่ ด้วยจักษุที่แสดงเมตตา หวังดีกัน.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๒


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 31 พ.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ