อายุบวร...ศรีลังกา [5]

 
kanchana.c
วันที่  9 มี.ค. 2553
หมายเลข  15715
อ่าน  1,452

การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานที่เกาะลังกา

ในเวลาออกพรรษา พระมหินทเถระได้ทูลกับพระราชาว่า “อาตมภาพไม่ได้เฝ้าพระ

สัมมาสัมพุทธเจ้ามานานแล้ว อยู่อย่างไม่มีที่พึ่ง อยากจะไปยังชมพูทวีป”

พระราชาตรัสว่า “ท่านผู้เจริญ พระคุณเจ้าได้พูดแล้วมิใช่หรือว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ปรินิพพานแล้ว”

พระเถระทูลว่า “มหาบพิตร ปรินิพพานแล้วแม้ก็จริง ถึงอย่างนั้นพระสรีรธาตุของ

พระองค์ยังอยู่”

พระราชาตรัสว่า “ข้าพเจ้ารู้ ท่านผู้เจริญ พระคุณท่านจำนงหวังการสร้างพระสถูป”

แล้วตรัสต่อไปว่า “ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าจะสร้างพระสถูป นิมนต์พระคุณเจ้าเลือกพื้นที่

ในบัดนี้เถิด อนึ่ง ข้าพเจ้าจักได้พระธาตุแต่ที่ไหน ท่านผู้เจริญ”

พระเถระทูลว่า “มหาบพิตร ทรงปรึกษากับสุมนสามเณรดูเถิด”

พระเถระสั่งการให้สุมนสามเณรผู้เป็นโอรสของพระนางสังฆมิตตา ไปเฝ้าพระเจ้าอโศก

ที่เมืองปาฏลีบุตร แล้วขอพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ในครอบครองเพื่อมา

ประดิษฐานที่เกาะลังกา พระเจ้าอโศกทรงยินดีรับบาตรจากมือสามเณรบรรจุพระธาตุ

ถวาย

สามเณรรับพระธาตุนั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าท้าวสักกเทวราช ทรงขอให้พระราชทานพระ

ธาตุรากขวัญ (กระดูกไหปลาร้า) เบื้องขวา เมื่อท้าวสักกเทวราชถวายแก่สามเณรแล้ว

ก็นำไปประดิษฐานไว้ในเจติยบรรพต

ครั้งนั้นพระเถระและพระราชารวมทั้งชาวเกาะทั้งหมดต้อนรับพระธาตุ โดยมีพระ -

มหินทเถระเป็นประมุขบรรจุพระธาตุที่พระเจ้าอโศกธรรมราชทรงพระราชทานมาไว้ที่

เจติยบรรพต แล้วเชิญพระธาตุรากขวัญเบื้องขวาไปมหานาควันอุทยานในเวลาบ่าย

ขณะนั้นพระราชาทรงทำการบูชาสักการะพระธาตุแล้วประทับบนคอช้างตัวประเสริฐ

ทรงกั้นเศวตฉัตรด้วยพระองค์เองบนเศียรช้างมงคล เสด็จถึงอุทยานพอดี ทรงรำพึงว่า

“ถ้าว่านี้เป็นพระธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไซร้ เศวตฉัตรจงเบนออกไป ช้างมงคล

จงคุกเข่าลงบนพื้น ขอให้ผอบบรรจุพระธาตุจงมาประดิษฐานอยู่บนกระหม่อมของเรา”

ซึ่งก็เป็นไปตามอย่างที่ทรงอธิษฐาน จึงมีความปีติอย่างยิ่ง เมื่อพระเถระทูลว่า ให้วาง

ผอบบรรจุพระธาตุไว้บนกระพองช้าง ช้างก็มีความดีใจ บันลือเสียงดุจเสียงนกกระเรียน

มีฝนโบกขรพรรษตกลงมา แผ่นดินใหญ่ไหวจนถึงที่สุดน้ำ มีอันให้รู้ว่า พระธาตุของ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจักประดิษฐานแล้วในเกาะลังกา

พระเจดีย์ ถูปาราม ศรีลังกา

ส่วนช้างนั้นก็เดินไปยังสถานที่สร้างพระเจดีย์ คือ ถูปาราม ซึ่งเป็นที่ตั้งบริโภคเจดีย์

ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ๓ พระองค์ พระเถระทูลพระราชาให้สร้างเจดีย์มี

ลักษณะดังกองข้าวเปลือก เมื่อประชาชนมาประชุมกันเพื่อฉลองพระธาตุที่ถูปาราม

นั้น พระธาตุได้แสดงยมกปาฏิหาริย์ คล้ายกับที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ณ โคนต้น

คันฑามพฤกษ์ ใกล้กรุงสาวัตถี ด้วยพุทธานุภาพ ที่ทรงอธิษฐานไว้

เมื่อได้อ่านความเป็นมาในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานที่เกาะลังกา

แล้ว ก็เข้าใจเอาเองว่า ธรรมเนียมการเทินพระธาตุไว้บนศีรษะเพื่อเป็นการนมัสการ

อย่างสูงสุดที่สมาคมมหาโพธิ์ พุทธคยา และสารนาถนั้น คงมีมาแต่ครั้งพระเจ้าเทวา

นัมปิยติสสะ จะถูกหรือไม่คะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 9 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
orawan.c
วันที่ 10 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 12 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
aditap
วันที่ 13 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ING
วันที่ 20 เม.ย. 2553

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ