ขอน้ำแห่งธรรมะเย็นๆเพื่อราดรดความทุกข์ร้อนครับ

 
tharo
วันที่  25 ก.พ. 2553
หมายเลข  15604
อ่าน  1,161

รู้สึกว่าใจเดือดร้อนที่ต้องแบกร่างกาย

ต้องกิน ต้องหาสิ่งใด เพื่อเติมให้ร่างกาย

แม้แต่การหายใจเข้าออก ก็ยังเดือดร้อนครับ

ขอหนทางที่นำไปสู่ความสงบเย็นนิรันดร์ครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 25 ก.พ. 2553

อริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นหนทางเพื่อการดับทุกข์ ไม่มีทางอื่นครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 25 ก.พ. 2553

การเจริญสติปัฏฐานเป็นหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การดับทุกข์ ดับกิเลสหมด ต้องมี

ความข้าใจในสภาพธรรมที่มีจริงๆ เช่น เห็นมีจริง ได้ยินมีจริงๆ ฯลฯ เป็นธรรมะ

ต้องฟังมาก พิจารณามาก จนกว่าจะเป็นความมั่นคงของปัญญาที่รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง

เป็นธรรมะ เป็นอนัตตา ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ ไม่มีเราเขา มีแต่นามธรรมและรูปธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 25 ก.พ. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เดือดร้อนเพราะกิเลส ไม่มีกิเลสก็ไม่เดือดร้อนครับ ซึ่งจะไม่มีกิเลสก็ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมให้เข้าใจอันเป็นไปเพื่อดับกิเลสในอนาคตครับ ทุกอย่างต้องใช้เวลา การ

อบรมปัญญาก็เช่นกันครับ เรียนคุณ tharo ลองฟังไฟล์ธรรมในเวปจะทำให้เข้าใจขึ้น

นะครับ รวมทั้งร่วมสนทนากันหากมีข้อสงสัย เราสะสมกิเลสที่ร้อนด้ยโลภะ โทสะ

โมหะ มามาก คงต้องค่อยๆ ขัดเกลาไปนะครับ ลองคลิกที่เมนูฟังธรรมนะครับ มีไฟล์ให้

เลือกฟังเยอะเลยครับ ขออนุโมทนาครับ อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
tharo
วันที่ 26 ก.พ. 2553
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
tharo
วันที่ 26 ก.พ. 2553
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 15604 โดย tharo

ผมฟังธรรมมา 5-6 ปี ความเข้าใจก็มีเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่ไม่มาก แต่การขัด เกลากิเลสเหมือนเริ่มต้นใหม่เกือบทุกครั้ง เดี๋ยวนี้ยิ่งฟังบ่อยกว่าเดิมอีกครับ

แม้คำว่าสติปัฏฐาน พอได้ยินแล้วเหมือนเป็นของใหม่แทบทุกครั้ง ไม่เบื่อเลยครับ เพราะความละเอียด ลึกซึ้ง เข้าถึงยาก ธรรมมะคำอื่นๆ ก็เช่นเดียวกันครับ

ขอฟังธรรมไปจนกว่าจะนิพพานครับ

พระธรรมทุกคำเป็นขุมทรัพย์และคำชี้แนะจากท่านต่างๆ เป็นน้ำอมฤต

ดับความทกข์ร้อนจากกิเลสสู่ความสงบเย็นนิรันดร์คือนิพพานครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 27 ก.พ. 2553

อนุโมทนาความเห็นที่ 5 ด้วยนะครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
ป้าจาย
วันที่ 1 มี.ค. 2553

ไม่ใช่อัตตภาพนี้หรือ ที่นำเรามาสู่สถานที่แห่งนี้

ไม่ใช่ลมหายใจนี้หรือ ที่ยังให้เรามีชีวิตเพื่อศึกษาธรรม

แม้ลมหายใจ ก็ยังเป็นทึ่ตั้งของสติได้

น่าจะเป็นที่ยินดีว่า เรามาถึงที่นี่ นับว่า ไม่เสียชาติเกิดแล้ว

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
วิริยะ
วันที่ 2 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 5 มี.ค. 2553
ศีลที่รักษาดีแล้วเป็นศีลห่างไกลจากกิเลสมีความเย็นอย่างที่สุดนี้ ย่อมบันดาลความร้อนกลุ้มของสัตว์ทั้งหลายให้สงบลงได้ ลมปนฝนก็ดี จันท์เหลืองก็ดี แก้วมุขดาหารก็ดี แก้วมณีก็ดี แสงจันทร์อ่อนก็ดี หาบันดาลความร้อนกลุ้มของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ให้สงบลงได้ไม่ ข้อความจากวิสุทธิมรรค เล่ม ๑ ภาคศีล ปริเฉทที่ ๑ สีลนิเทศ หน้าที่ ๙ - ๑๕
สีลนิเทศ ปริจเฉทที่ ๑ศีลที่ประกอบด้วยอาสวะแม้ทุกประเภท ชื่อว่า โลกิยศีล ศีลที่ไม่ประกอบด้วยอาสวะ ชื่อว่า โลกุตตรศีล
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
paderm
วันที่ 5 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
รากไม้
วันที่ 8 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนา ในความพากเพียรด้วยครับ

แม้แต่ผู้ที่ได้เจริญสติปัฏฐานแล้ว ก็เหมือนว่ายังไปได้ไม่ถึงไหนเหมือนกันครับ ...ทุกอย่าง บังคับบัญชาไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะละกิเลสทั้งหมดให้วันนี้เดี๋ยวนี้ แล้วจะเป็นอย่างนั้นได้ ยิ่งขุดคุ้ยก็ยิ่งเห็นกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ ที่ขุดออกได้ยากแสนยาก ...นิวรณ์ 5 เนี่ยจะขุดออกได้ยังไง ผมยังมองไม่เห็นทางเลย

ไม่มีใครทำได้จริงๆ อย่างที่ตั้งใจไว้หรอกครับ ...แต่ถ้าไม่ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน ก็จะไม่มีวันเจริญก้าวหน้าได้ ขอเพียงว่าอย่าได้ตกต่ำลงก็พอแล้วครับ อย่าไปหวังอะไรมาก เพราะชาติที่แล้วเราสะสมบุญกุศลอะไรมามากแค่ไหนก็ไม่มีไม่รู้ได้ วัดปริมาณกันไม่ได้เลย ...ผมปฏิบัติการ ขัดเกลากิเกลา มา 20 กว่าปีแล้ว ซึ่งก็ได้ประมาณหนึ่ง จะว่าไป ก็เหมือนกับ "จับด้ามมีดจนสึก" ไปหลายเล่้มแล้วล่ะครับ

ขอเชิญชวนให้พากเพียรต่อไปครับ ห้ามหยุด ห้ามท้อ ห้ามถอยนะครับ สู้ต่อไป ^ ^

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Thirachat.P
วันที่ 8 มี.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
bsomsuda
วันที่ 10 มี.ค. 2553

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ