ความต่างกันในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า [ขัคควิสาณสูตร]

 
pratin
วันที่  18 ธ.ค. 2552
หมายเลข  14796
อ่าน  2,429

[เล่มที่ 46] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 105

ข้อความบางตอนจาก

ขัคควิสาณสูตร

ดูก่อนอานนท์ ธรรมดาพระปัจเจกสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอภินิหาร มีปุพพโยคาวจรธรรม เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธะ และสาวกทั้งหลาย พึงประสงค์ความปรารถนาและอภินิหาร. ท่านพระอานนท์นั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลายควรนานเท่าไร พระองค์ตรัสว่า

ดูก่อนอานนท์ ความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ควรนานโดยการกำหนดอย่างต่ำที่สุดถึงสี่อสงไขยและแสนกัป โดยกำหนดปานกลาง แปดอสงไขยและแสนกัป โดยการกำหนดอย่างสูง สิบหกอสงไขยและแสนกัป ประเภททั้ง ๓ นั้น พึงรู้ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธเจ้า ผู้ปัญญาธิกะ ผู้สัทธาธิกะ และผู้วิริยาธิกะ

จริงอยู่พระพุทธเจ้าผู้ปัญญาธิกะ มีศรัทธาน้อยแต่มีปัญญามาก ผู้สัทธาธิกะมีปัญญาปานกลางแต่มีศรัทธามาก ผู้วิริยาธิกะมีศรัทธาและปัญญาน้อย แต่มีความเพียรมาก.

ท่านพระอานนท์นั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลายควรนานเท่าไร. พระองค์ตรัสว่า

ดูก่อนอานนท์ ความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ควรนานโดยการกำหนดอย่างต่ำที่สุดถึงสี่อสงไขยและแสนกัป โดยกำหนดปานกลาง แปดอสงไขยและแสนกัป โดยการกำหนดอย่างสูง สิบหกอสงไขยและแสนกัป ฯลฯ

อภินิหารนี้ย่อมสำเร็จได้ ก็เพราะ การประชุมธรรม ๘ ประการ คือ

ความเป็นมนุษย์ ๑

ความถึงพร้อมด้วยเพศ ๑

เหตุ ๑

การเห็นพระศาสดา ๑

การบรรพชา ๑

ความ ถึงพร้อมแห่งคุณ ๑

อธิการ ๑

ความพอใจ ๑

ถามว่า ก็การปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายควรนานเท่าไรตอบว่า การปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายควรนานถึงสองอสงไขยและแสนกัป ต่ำกว่านั้นไม่ควร พึงทราบเหตุในการปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านี้โดยนัยที่กล่าวแล้วในบทก่อนนั่นแล. ก็เมื่อบุคคลปรารถนาความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า โดยกาลแม้มีประมาณเท่านี้ พึงปรารถนาสมบัติ ๕ ประการในการสร้างอภินิหาร

จริงอยู่ พระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น มีเหตุแห่งอภินิหารเหล่านี้ คือ

ความเป็นมนุษย์ ๑

ความถึงพร้อมด้วยเพศ ๑

การเห็นท่านผู้ปราศจากอาสวะ ๑

อธิการ ๑

ความพอใจ ๑

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า การเห็นท่านผู้ปราศจากอาสวะ ได้แก่ การเห็นพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระสาวก องค์ใดองค์หนึ่ง.

บทที่เหลือ มีนัยดังกล่าวแล้วนั้นแล.

ถามว่า ก็การปรารถนาเป็นพระสาวกทั้งหลายควรนานเท่าไร.

ตอบว่า การปรารถนาเป็นพระอัครสาวกทั้งสอง ควรนานหนึ่งอสงไขยและแสนกัปการปรารถนาเป็นพระอัครสาวกควรนานแสนกัป ความปรารถนาเป็นพระมารดาพระบิดา อุปัฏฐาก และพระโอรสของพระพุทธเจ้า ควรนานแสนกัปเหมือนกัน ต่ำกว่านั้นไม่ควร เหตุในการปรารถนานั้นมีนัยดังกล่าวแล้วนั้น เทียว ก็พระสาวกเหล่านั้นทั้งหมดมีอภินิหารสมบูรณ์ด้วยองค์ ๒ อย่าง คือ อธิการ ๑ ความพอใจ ๑ เท่านั้น


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nongnooch
วันที่ 16 ก.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ธ.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ