การละกามราคะใช้ความต้องการดับไม่ได้ แต่ปัญญาต้องเข้าใจอย่างไร

 
รวส
วันที่  31 ต.ค. 2552
หมายเลข  14111
อ่าน  5,823

ผมเข้าใจครับว่า กามราคะ ใช้ความต้องการก็ไม่มีทางจะดับได้ แต่ผม หรือปัญญา

ขอเพียงความเข้าใจเพื่อเป็นทางให้ปัญญาได้เดินถูกทาง และสะสมความรู้ความเข้าใจ

จากชาตินี้และต่อๆ ไปจนรู้แจ้งแทงตลอด แล้วก็การศึกษาธรรมโดยละเอียดนั้น ต้อง

เริ่มจากอะไรก่อน และจำเป็นไหมที่ต้องแปลภาษาทางธรรมให้ออกก่อนจึงจะเข้าใจได้

ผมขอศึกษาธรรมและเข้าใจธรรมแบบภาษาธรรมดาได้ไหม กราบขอความเมตตาท่าน

อาจารย์สุจินต์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง หรือท่านผู้รู้ที่มีความเข้าใจถูก ช่วยชี้ทาง

สว่างให้กับผมผู้มีปัญญาน้อยด้วยครับ

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 1 พ.ย. 2552

ผู้ที่จะละกามราคะได้ต้องบรรลุเป็นพระอนาคามี ส่วนปุถุชนเริ่มต้นด้วยการตั้งใจฟัง

สนใจ ใส่ใจ พิจารณาธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ที่สำคัญคือความเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็น

ธรรมที่ไม่ใช่เรา ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล หรือขณะนี้แข็งมีจริง ก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 1 พ.ย. 2552

ขอร่วมสนทนาด้วยค่ะ ต้องขออนุโมทนาคุณรวส ที่ยังมีความเข้าใจถูกว่ากามราคะไม่สามารถดับได้ด้วยความต้องการ เพราะว่าความต้องการนั้นเป็นโลภะ ซึ่งเป็นอกุศล

แต่สามารถดับกามราคะเป็นสมุจเฉทได้ด้วยปัญญาขั้นอนาคามิมัคคจิต การดับกิเลส

ขั้นหยาบๆ จนถึงขั้นละเอียดนั้นต้องดับด้วยปัญญา ปัญญานั้นเกิดขึ้นเองไม่ได้ คิด

เอาเองก็ไม่ได้ แต่อบรมให้ค่อยๆ เจริญขึ้นได้ด้วยการฟัง และพิจารณาพระธรรมที่ได้

ยินได้ฟังมาให้เข้าใจถึงความจริงของสภาพธรรมจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องราวของธรรม แต่

เริ่มจากความเห็นถูกในสภาพธรรมซึ่งเป็นสัมมาทิฏฐิ ถ้าไม่มีความเห็นถูกต้องตั้งแต่ขั้น

ต้น ก็ไม่สามารถอบรมเจริญสติปัฏฐานได้ ถ้าไม่มีปัญญา คือ สัมมาทิฏฐิก็ไม่สามารถ

ดับกิเลสได้

เชิญคลิกอ่านได้ที่...

ปัญญารู้อะไร...?

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sam
วันที่ 3 พ.ย. 2552

การศึกษาธรรมโดยละเอียดนั้น ต้องเริ่มจากอะไรก่อน

การศึกษาธรรมโดยละเอียดนั้น ต้องเริ่มจากการฟังครับ เพราะปัญญาขั้นต้น

คือ ความเข้าใจขั้นการฟัง หรือความเข้าใจจากการฟัง ซึ่งการฟังนี้ หมายรวมถึงการ

อ่าน และการสนทนาธรรมด้วยครับ เช่นการสนทนาผ่านเวบไซต์บ้านธัมมะนี้ หากมี

ความเข้าใจเพิ่มขึ้น แม้จะเล็กน้อย นั่นคือปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้นครับ ปัญญานี้เป็น

สิ่งที่เจริญขึ้น เพิ่มขึ้น ได้ทีละน้อย และช้ามาก สาเหตุก็เพราะเราได้สะสมความไม่รู้

หรืออวิชชามาแล้วเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ ดังนั้น จึงต้องอาศัยการค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ

ศึกษาทำความเข้าใจ ทีละเล็ก ทีละน้อย เพื่อสะสมจนปัญญาค่อยๆ มีกำลังเพิ่มขึ้นๆ

ครับ

จำเป็นไหมที่ต้องแปลภาษาทางธรรมให้ออกก่อนจึงจะเข้าใจได้

ผมขอศึกษาธรรมและเข้าใจธรรมแบบภาษาธรรมดาได้ไหม

ไม่จำเป็นต้องติดกับคำหรือภาษาครับ เพราะธรรมะคือความจริง ถ้าหากเราจะ

เข้าใจธรรมะได้ด้วยภาษาใด เช่นภาษาไทย ก็ไม่จำเป็นจะต้องแปลเป็นภาษาอื่นที่ไม่

ช่วยให้เกิดความเข้าใจ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการศึกษาธรรมะนั้น ต้องอาศัยการ

ฟัง และการสนทนากับผู้ศึกษาคนอื่นๆ ซึ่งในบางครั้งการใช้คำด้วยภาษาไทยนั้น ไม่

รัดกุม หรือไม่สื่อความหมายที่ตรง และกระชับเพียงพอ ดังนั้น ในการบรรยาย หรือแลก

เปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนจำนวนมาก ก็มีความจำเป็นที่ท่านผู้

บรรยาย หรือผู้แสดงธรรม ต้องใช้คำบาลี หรืออ้างข้อความภาษาบาลี ซึ่งความหมาย

ไม่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทั้งนี้ ก็เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันสำหรับผู้ศึกษา ไม่

ได้มีเจตาที่จะแสดงภูมิความรู้ หรือทำให้ดูศักดิ์สิทธิ์ แต่ประการใดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Sam
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ปัญญาต้องเข้าใจอย่างไร

ในการดับกิเลสอกุศลทั้งปวง ซึ่งรวมไปถึงกามราคะด้วยนั้น ปัญญาต้อง

เข้าใจและต้องรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง นั่นคือ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่ใช่

สัตว์ หรือสิ่งของ และบังคับบัญชาให้เป็นไปตามความต้องการไม่ได้ครับ ธรรมะตาม

ความเป็นจริงนั้นคือ รูปธรรม และนามธรรม ที่เกิดขึ้นทำกิจทางตา ทางหู ทางจมูก

ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ โดยอาศัยปัจจัยที่เหมาะสมทำให้เกิดขึ้นทำกิจทีละ

ทาง ทีละขณะซึ่งสั้นแสนสั้น แล้วดับไปทันที สลับกันไปมา เช่น เห็นทางตา แล้ว

คิดนึกทางใจ แล้วก็ได้ยินทางหู แล้วคิดนึกทางใจ

ปัญญาในขั้นต้น เป็นความเข้าใจที่ได้รับจากการฟังว่าเป็นเช่นนี้ และเมื่อได้

ศึกษาละเอียด รอบด้านยิ่งขึ้น จนปัญญาขั้นฟังมีกำลังมากพอ จะเป็นปัจจัยให้สติ

ระลึกรู้สภาพธรรมในชีวิตประจำวันตามความเป็นจริง ซึ่งสอดคล้องกับความเข้าใจที่

ได้รับจากการฟังนั่นเองครับ และเมื่อสติระลึก ปัญญาที่เกิดพร้อมสติก็ทำกิจรู้สภาพ

ธรรมตามความเป็นจริง และเมื่อความรู้มีกำลังมากพอ จะเป็นปัจจัยให้ปัญญาขั้นที่ดับ

กิเลสได้เกิดขึ้นทำกิจละอกุศลครับ ซึ่งต้องละไปตามลำดับ เริ่มจากการละหรือดับ

ความเห็นผิด นั่นคือ ความเห็นผิดในสภาพธรรมนั่นเองครับ

ดังนั้น การฟังพระธรรมจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการเริ่มอบรมเจริญ

ปัญญา อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเกื่อกูลให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง

อันนำไปสู่การดับกิเลสด้วย ซึ่งก็จะย้อนกลับมาตอบคำถามว่า การศึกษาธรรมโดย

ละเอียด จะต้องเริ่มด้วยการฟังพระธรรมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
พุทธรักษา
วันที่ 4 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
รวส
วันที่ 6 พ.ย. 2552

ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตาตอบคำถามและขออนุโมทนาสาธุกับ

ทุกท่านด้วยครับ

กราบขอบคุณและขออนุโมทนาสาธุครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ