สิ่งที่ไม่มีอะไรเปรียบ [นัตถิปุตตสมสูตร]

 
พุทธรักษา
วันที่  15 ต.ค. 2552
หมายเลข  13970
อ่าน  1,562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 80-82

นัตถิปุตตสมสูตร

ว่าด้วยสิ่งที่ไม่มีอะไรเปรียบ

[๒๘] เทวดานั้น ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่าความรักเสมอด้วยบุตรไม่มีทรัพย์เสมอด้วยโคย่อมไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยดวงอาทิตย์ย่อมไม่มี สระทั้งหลายมีทะเลเป็นอย่างยิ่ง

[๒๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ความรักเสมอด้วยตนไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี ฝนต่างหาก เป็นสระยอดเยี่ยม

อรรถกถานัตถิปุตตสมสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในสูตรที่ ๓ ต่อไป :-

บาทคาถาว่า นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ ความว่าบุตรทั้งหลายของคน แม้พิการมารดาหรือบิดา ก็ยังสำคัญดุจแต่งทองคำมีการการทำการหยอกล้อที่ศีรษะเป็นต้น ราวกะว่าพวงดอกไม้บุตรเหล่านั้นแม้อันมารดาบิดาชำระร่างกายแล้วก็นำมาห่อหุ้มไว้แล้วก็เกิดโสมนัส เหมือนบุคคลห่ออยู่ซึ่งของหอมและเครื่องลูบไล้ ฉะนั้น. ด้วยเหตุนั้นแหละ เทวดาจึงกล่าวว่า นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ ความรักเสมอด้วยบุตรย่อมไม่มี คือ ขึ้นชื่อว่า ความรักอื่นเสมอด้วยความรักบุตรหามีไม่ ดังนี้

บทว่า โคสมิกํ แปลว่า เสมอด้วยโคทั้งหลายเทวดากราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ธรรมดาว่าทรัพย์อื่น เช่นกับโค ย่อมไม่มี ดังนี้. บทว่า สุริยสมา อาภา นี้ เทวดากราบทูลว่า ชื่อว่า แสงสว่างอื่น ที่เสมอด้วย แสงพระอาทิตย์ ย่อมไม่มี ดังนี้

บทว่า สมุทฺทปรมา ความว่า ชื่อว่า สระทั้งหลายเหล่าอื่น อย่างใดอย่างหนึ่งสระทั้งหมดเหล่านั้น มีสมุทร (ทะเล) เป็นอย่างยิ่งคือ สมุทร ประเสริฐกว่าสระทั้งหมด เหล่านั้น เทวดาทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าชื่อว่า ที่เป็นที่เกิดแหล่งน้ำอื่นเช่นกับด้วยสมุทร หามีไม่ ดังนี้ ก็ที่ชื่อว่าความรักเสมอด้วยตนไม่มี

มีอธิบายว่า สัตว์ทั้งหลาย ละทิ้งปิยชนทั้งหลายมีมารดาบิดาเป็นต้น ก็มีละทิ้งบุตรธิดาเป็นต้น ให้พำนักอยู่ย่อมหาเลี้ยงชีวิตตนนั่นแหละ ก็มี ก็ชื่อว่าทรัพย์ เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี อธิบายว่า ชนทั้งหลาย ย่อมไปสู่สำนักของเจ้าของทรัพย์ แล้วจึงถือเอาวัตถุทั้งหลาย มีเงินและทองเป็นต้นบ้างและถือเอาโคและกระบือเป็นต้นบ้างก็เพื่อถือเอาข้าวเปลือกนั่นแหละ ชื่อว่าแสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี ถึงแม้จะเป็นดวงอาทิตย์เป็นต้นก็ย่อมส่องแสงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ ย่อมกำจัดความมืด อันเป็นปัจจุบันเท่านั้น.

ส่วน ปัญญาย่อมสามารถเพื่อทำโลกธาตุตั้งหมื่นให้เป็นแสงสว่างอันประเสริฐ หาสิ่งอื่นเสมอมิได้ ทั้งย่อมกำจัดความมืดอันปกปิด ในกาลอันเป็นส่วนแห่งอดีตเป็นต้น ได้ด้วย. ชื่อว่า สระเสมอด้วยเมฆฝนย่อมไม่มี. แม้แม่น้ำ หรือหนองน้ำ หรือทะเลสาบเป็นต้นก็ตามที่ขึ้นชื่อว่าสระแล้ว ที่จะเสมอด้วยฝนย่อมไม่มี เพราะเมื่อเมฆฝนตัดขาดแล้วน้ำแม้เพียงสักว่าข้อองคุลีหนึ่งให้เปียกในมหาสมุทร ย่อมไม่มี. แต่เมื่อฝนตกแล้วเป็นไปอยู่ น้ำเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ย่อมมีถึงพิภพแห่งพรหมชั้นอาภัสสรา.

เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะตรัสตอบถ้อยคำของเทวดาจึงตรัสพระคาถาว่า นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ นตฺถิ ธญฺญสมํ ธนํนตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา วุฏฺฐิ เว ปรมา สรา ความรัก เสมอด้วยตน ไม่มี ทรัพย์ เสมอด้วยข้าวเปลือก ไม่มี แสงสว่าง เสมอด้วยปัญญา ไม่มี ฝนเท่านั้น เป็นสระอันยอดเยี่ยม. ดังนี้

จบอรรถกถานัตถิปุตตสมสูตร ที่ ๓


ขออนุโมทนาขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และ สรรพสัตว์.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 16 ต.ค. 2552

สาธุ

หม่อมฉันปรารถนาความเจริญในทางศึกษาของตน สัตบุรุษทั้งหลายผู้สงบพึงคบหาหม่อมฉัน ข้าแต่ทูลกระหม่อม หม่อมฉันไม่อิ่มด้วยคำสุภาษิต เหมือนดังมหาสมุทรไม่อิ่มด้วยแม่น้ำฉะนั้น

ที่มา : มหาสุตโสมชาดก

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สิริพรรณ
วันที่ 21 ก.พ. 2560

ปัญญานำไปในกิจทั้งปวง

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 23 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ