ปริยัติ ๓ อย่าง

 
พุทธรักษา
วันที่  8 ต.ค. 2552
หมายเลข  13895
อ่าน  5,574

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ 52

ข้อความบางตอน....

ปริยัติ ๓ อย่าง คือ อลคัททูปมาปริยัติ ๑ นิสสรณัตถปริยัติ ๑ ภัณฑาคาริยปริยัติ ๑

ในปริยัติ ๓ อย่างนั้น ปริยัติใด อันบุคคลเรียนไม่ดี คือ เรียนเพราะเหตุมีการโต้แย้ง เป็นต้น ปริยัตินี้ ชื่อว่า ปริยัติเปรียบด้วยงูพิษ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษ ผู้มีความต้องการด้วยงูพิษ เที่ยวเสาะแสวงหางูพิษ เขาพึงพบงูพิษตัวใหญ่พึงจับงูพิษนั้นที่ขนดหรือที่หาง งูพิษนั้นพึงแว้งกัดเขาที่มือหรือแขน หรือที่อวัยวะน้อยใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่งเขาพึงถึงความตายหรือความทุกข์ปางตาย ซึ่งมีการกัดนั้นเป็นเหตุ

ข้อนั้นเพราะอะไรเป็นเหตุ

ภิกษุทั้งหลาย เพราะงูพิษเขาจับไม่ดี แม้ฉันใด ภิกษุทั้งหลาย โมฆบุรุษบางพวก ในธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ พวกเขาครั้นเรียนธรรมนั้นแล้ว ย่อมไม่พิจารณาแห่งธรรมเหล่านั้น ด้วยปัญญา ธรรมเหล่านั้น ย่อมไม่ควรต่อการเพ่งพินิจแก่พวกเขา ผู้ไม่พิจารณาอรรถด้วยปัญญาพวกเขาเรียนธรรม มีการโต้แย้งเป็นอานิสงส์ และ มีหลักการบ่นเพ้อว่าอย่างนี้ เป็นอานิสงส์ และ ย่อมไม่ได้รับประโยชน์แห่งธรรม ที่พวกกุลบุตรต้องประสงค์เล่าเรียน ธรรมเหล่านั้น ที่เขาเรียนไม่ดี ย่อมเป็นไปเพื่อมิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน แก่โมฆบุรุษเหล่านั้น ข้อนั้นเพราะอะไรเป็นเหตุ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อนั้น เพราะธรรมทั้งหลายอันโมฆบุรุษเหล่านั้น เรียนไม่ดี

อนึ่ง ปริยัติ อันบุคคลเรียนดีแล้ว คือ จำนงอยู่ ซึ่งความบริบูรณ์แห่งคุณ มีสีลขันธ์ เป็นต้นนั่นแล เรียนแล้ว ไม่เรียนเพราะเหตุมีความโต้แย้ง เป็นต้น ปริยัตินี้ ชื่อว่า ปริยัติมีประโยชน์ที่จะออกจากวัฏฏะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายตรัสไว้ว่า ธรรมเหล่านั้น อันกุลบุตรเหล่านั้นเรียนดีแล้วย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน แก่กุลบุตรเหล่านั้น

ข้อนั้นเพราะอะไรเป็นเหตุ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อนั้น เพราะธรรมทั้งหลาย อันกุลบุตรเหล่านั้นเรียนดีแล้ว ดังนี้. ส่วนพระขีณาสพ ผู้มีขันธ์อันกำหนดรู้แล้ว มีกิเลสอันละแล้วมีมรรคอันอบรมแล้ว มีธรรมอันไม่กำเริบแทงตลอดแล้ว มีนิโรธอันกระทำให้แจ้งแล้ว ย่อมเรียนซึ่งปริยัติใด เพื่อต้องการแก่อันดำรงซึ่งประเพณี เพื่อต้องการแก่อันตามรักษาซึ่งวงศ์ ปริยัตินี้ ชื่อว่า ปริยัติของท่าน "ผู้ประดุจขุนคลัง"

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และ สรรพสัตว์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
orawan.c
วันที่ 8 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
dron
วันที่ 9 ต.ค. 2552

ปริยัติ การศึกษาพระธรรม ศึกษาเพื่ออะไร

ฟังคำตอบจากท่านอาจารย์

(คัดมาจากเทปวิทยุครั้งที่ ๑๔๐๐)

ศึกษาพระธรรมเพื่ออะไร เพื่อเข้าใจ เข้าใจอะไร เพราะทุกคนศึกษาเพื่อเข้าใจ ทั้งนั้น แต่ว่าศึกษาเพื่อเข้าใจอะไร ต้องให้ตรงอีก คือ เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ใช่เข้าใจอย่างอื่น บางคนอาจจะคิดว่า เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีในตำรา แต่นั่นไม่ใช่ความเข้าใจ นั่นเป็นเรื่อง แต่ว่าที่ศึกษาตำราเพื่อที่จะให้เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ เพราะฉะนั้น ก็ต้องเข้าใจจริงๆ ว่า ไม่ว่าจะศึกษาส่วนใดในพระไตรปิฎก ศึกษาน้อยหรือมากก็ตาม แต่ก็เพื่อที่จะเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เช่น ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
hadezz
วันที่ 10 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 10 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 14 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
suwit02
วันที่ 16 ต.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 3 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ