วิการรูป ๓

 
เมตตา
วันที่  13 ก.ค. 2552
หมายเลข  12885
อ่าน  1,069

วิการรูป ๓ ได้แก่ รูปที่เบา รูปที่อ่อน และรูปที่ควรแก่การงาน ทั้งสามรูปนี้

เป็นรูปที่ไม่มีสภาวะของตนเอง เรียกว่า อสภาวรูป ซึ่งเกิดจากสมุฎฐานทั้งสาม

ได้แก่ จิต อุตุ และอาหาร วิการรูปเป็นอาการของรูป ในร่างกายเรานี้ถ้ามีเพียง

วิการรูปที่เกิดจากจิต และอุตุเท่านั้น แต่ขาดอาหาร วิการรูปก็ไม่มีกำลังพอที่จะเคลื่อนไหวได้สะดวก รูปที่สามารถอบรมให้รู้ให้เข้าใจได้นั้น ได้แก่ สิ่งที่ปรากฎ

ทางตา เสียง กลิ่น รส และเย็นหรือร้อน อ่อนหรือแข็ง ตึงหรือไหว เพราะว่า

เป็นรูปที่มีสภาวะ เมื่ออบรมเจริญความรู้ความเข้าใจ สติสามารถระลึกรู้รูปเหล่านี้

ได้ในชีวิตประจำวันว่าเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่เรา ส่วนวิการรรูปนั้นมีคำถาม

จากชาวต่างชาติท่านหนึ่งว่า สติปัฎฐานสามารถเกิดระลึกรู้รูปเบา รูปอ่อน

และรูปที่ควรแก่การงานได้ไหม คำตอบ คือ ได้ แต่เกิดขึ้นกับใคร....

สิ่งที่กำลังปรากฎขณะนี้ยังไม่รู้ ควรอบรมความรู้ความเข้าใจในลักษณะ

สภาพธรรมที่กำลังปรากฎขณะนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนวิการรูปนั้นเมื่อไร

ที่ปรากฎกับผู้มีปัญญาที่ได้สะสมมา เมื่อปรากฎผู้นั้นรู้เอง...

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 14 ก.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 14 ก.ค. 2552

คุณ เมตตา ครับ กรุณากล่าวถึงจิตที่เกิดต่อจากปฏิสนธิจิตเป็นอย่างไรครับ จิตที่เกิด

ต่อจากปฏิสนธิจิตอาศัยปัจจัยของจิตก่อนจุติหรือ? และรูปที่เกิดขึ้นในชาติใหม่นั้นเกิดพร้อมปฏิสนธิจิตหรืออย่างไรครับ?

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 14 ก.ค. 2552

ขออนุญาตตอบค่ะ

จิตที่เกิดต่อจากปฏิสนธิจิตทันทีคือ ภวังคจิต (ปฐมภวังค์) มีอารมณ์เดียวกับ

มรณาสันนวิถีของชาติที่แล้วค่ะ

ปฏิสนธิจิตมีกรรมเป็นปัจจัย (เจตนาเจตสิกที่เกิดกับกุศลจิตและอกุศลจิต ทำให้

ผลคือวิบากจิตและเจตสิก และกัมมชรูปเกิดขึ้นภายหลัง)

ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ กรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดพร้อมกับกัมมชรูป (ปฏิสนธิหทยวัตถุ

และกัมมชรูปอีก ๒ กลาป คือ ภาวทสกะและกายสทกะ)

ขอตอบคร่าวๆ เท่านี้นะคะ.......ไม่ทราบว่าพี่เมตตามีไรจะเสริมรึเปล่าค่ะ (-_-"

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 14 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนา น้องไตรสรณคมน์ ค่ะ

คำตอบชัดเจนมากค่ะ ขอเพิ่มเติมในข้อสามค่ะ

ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ กรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดพร้อมกับกัมมชรูป (ปฏิสนธิหทยวัตถุ

และกัมมชรูปอีก ๒ กลาป คือ ภาวทสกะและกายสทกะ)

ในภูมิที่มีเพียงรูปขันธ์ ไม่มีนามขันธ์ คือในอสัญญาสัตพรหมภูมิ กรรมทำให้

เกิดเพียงนวกกลาป ซึ่งได้แก่ อวินิพโภครูป ๘ และ ชีวิตินทริยรูป

ในภูมิที่มีเพียงนามขันธ์ ๔ คือในอรูปพรหมภูมิ ๔ ไม่มีรูปใดๆ เกิด

ในรูปภูมิบางภูมิ มีเพียง จักขุทสกะ โสตทสกะ หทยทสกะ และเพียงอวินิพ-

โภครูป ๘ + ชีวิตินทริยรูป

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 15 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

มรณาสันนวิถีของชาติ เป็นกรรมที่ส่งผลไปซินะ

ปฏิสนธิจิตเป็นปัจจัยให้กัมมชรูปเกิดขึ้นหรือ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เมตตา
วันที่ 15 ก.ค. 2552

เรียนคุณจำแนกไว้ดีค่ะ

ปฏิสนธิจิตเป็นปัจจัยให้กัมมชรูปเกิดขึ้นหรือ

ปฏิสนธิจิตไม่เป็นปัจจัยให้เกิดจิตตชรูปค่ะ

แต่กรรมเป็นปัจจัยให้เกิดกัมมชรูปค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
opanayigo
วันที่ 15 ก.ค. 2552

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 17 ก.ค. 2552

เข้าใจยากนะครับ ขอถามต่อครับกรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดพร้อมกับกัมมชรูปนั้น ถามว่าเกิดทีไหนครับ?

มารดาได้รับผลกรรมด้วยไหมครับ ถ้าเป็นกุศลกรรม มารดาจะฝันดี ฝันว่าดวงแก้วลอยมาวางบนมือใช่ไหม (ยกตัวอย่างครับ อาจฝันดีอย่างอื่นก็ได้) ?

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
prachern.s
วันที่ 17 ก.ค. 2552
อ้างอิงจาก : หัวข้อ 12885 ความคิดเห็นที่ 8 โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ

เข้าใจยากนะครับ ขอถามต่อครับกรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดพร้อมกับกัมมชรูปนั้น ถามว่าเกิดทีไหนครับ?

มารดาได้รับผลกรรมด้วยไหมครับ ถ้าเป็นกุศลกรรม มารดาจะฝันดี ฝันว่าดวงแก้วลอยมาวางบนมือใช่ไหม (ยกตัวอย่างครับ อาจฝันดีอย่างอื่นก็ได้) ?


ถ้าเป็นมนุษย์ก็เกิดที่ครรภ์ของมารดา

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
saifon.p
วันที่ 18 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
จำแนกไว้ดีจ๊ะ
วันที่ 21 ก.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ