ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  31 ธ.ค. 2551
หมายเลข  10809
อ่าน  3,729
การที่ได้มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นปัญญาของตนเอง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม นั้น เป็นการมีชีวิตอยู่ที่เป็นประโยชน์ เพราะขณะที่จะได้ฟังพระสัทธรรม หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง และการที่จะเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง ก็ยาก ดังนั้น เมื่อมีโอกาสแล้วก็ไม่ควรที่จะปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอยไป ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าต่อไปข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง และที่สำคัญทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายด้วยกันทั้งนั้น จึงไม่ควรที่จะประมาท ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ พร้อมทั้งเป็นผู้อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวันด้วย มีพระพุทธ-พจน์บทหนึ่ง ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนพุทธบริษัทได้เป็นอย่างดีความว่า
"กาลทั้งหลายย่อมล่วงไป ราตรีทั้งหลายย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะ พึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติ (พระนิพพาน) เถิด"

(จาก...สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่มที่ ๒๔ อัจเจนติสูตร)

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 31 ธ.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 31 ธ.ค. 2551

ชีวิตที่ประเสริฐคือการรู้ว่าขณะนี้เป็นธรรมะอย่างหนึ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 31 ธ.ค. 2551

การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็แสนยาก การได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนายิ่งยากกว่า

จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฎฎสงสารอันหาเบื้องต้น และเบื้องปลายไม่ได้ ฉะนั้น

ชีวิตที่ประเสริฐคือ การที่ได้มีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 1 ม.ค. 2552

00506 ใครจะรู้เวลาตาย

อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ โก ชญฺญฺา มรณํ สุเวน หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนาควรทำความเพียร ในวันนี้ทีเดียวใครจะรู้ว่าความตายจะมีในวันพรุ่งนี้เพราะการผัดเพี้ยนความตายอันมีเสนาใหญ่นั้นของเราทั้งหลายมีไม่ได้เลย

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกเล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 320


ธรรมเตือนใจวันที่ : 25-07-2551

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 1 ม.ค. 2552

00221 ความไม่ประมาทในกุศลธรรม

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ธรรมอย่างหนึ่งอันภิกษุเจริญแล้วทำให้มากแล้วย่อมยึดประโยชน์ทั้ง ๒ ไว้ได้ คือ

ประโยชน์ในปัจจุบัน ๑

ประโยชน์ในสัมปรายภพ ๑

ธรรมอย่างหนึ่งเป็นไฉน คือ

ความไม่ประมาทในกุศลธรรมทั้งหลาย


ธรรมเตือนใจวันที่ : 21-01-2548

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
choonj
วันที่ 1 ม.ค. 2552

กระทู้นี้ชวนให้ไม่ประมาท ควรเจริญกุศลทุกประการ แล้วก็บอกว่าการที่ได้เกิดเป็นคนนี้แสนยาก เกิดเป็นคนแล้วได้พบพระธรรมของพระพุทธเจ้ายึ่งยากกว่า ผมเห็นคนหมู่มากไม่เข้าใจคำที่กล่าวมานี้ ตั้งอยู่ในความประมาทโดยไม่รู้ตัว คิดว่ากำลังศึกษาอยู่เหมือนใกล้เกลือกินด่าง ติดตามพระพุทธอยู่อย่างไกล้ชิดแต่ไม่เห็น เป็นที่น่าเสียดายอย่างยึ่ง เพราะผมเห็นผู้คนจำนวนมากมายโดยทีเดียวที่ได้พบพุทธศาสนา อยู่ใกล้ชิดพุทธศาสนาแต่เข้าใจคำสอนผิดไปจนเป็นการยากที่จะแก้ไข เขาก็ว่าของเขาถูก เราก็ว่าของเราถูก เลยไม่รู้ว่าของใครถูก ยุ่งกันใหญ่เป็นปัญหาใหญ่ เกิดแล้วพบแล้วยังผิดได้นาทีสุดท้าย เพราะฉะนั้น การที่เราได้พบพุทธศาสนา ได้พบพระธรรม ได้พบกัลยาณมิตร ได้พบพระไตรปิฎก จึงเป็นสิ่งที่ประเสร็ฐหาได้ยาก ควรบริหารสิ่งประเสริฐนี้ให้เป็นผล ครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
opanayigo
วันที่ 1 ม.ค. 2552

ไม่นานหนอ กายนี้จักนอนทับแผ่นดิน กายนี้

มีวิญญาณไปปราศ อันบุคคลทิ้งแล้ว ราวกับท่อนไม้

ไม่มีประโยชน์ ฉะนั้น

พระสุตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เรื่องปูติคัตตติสสเถระ

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เกมส์
วันที่ 1 ม.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ

พระไตรปิฎกและการศึกษาธรรมด้วยความเคารพ (ตั้งใจและนอบน้อม) สำคัญมากจริงๆ ครับ กระผมก็มีเพื่อนที่ชอบนั่งฌาน ชอบไปเดินจงกรม แต่ก็เพราะพระธรรมไม่สาธารณะนี่แหละ ก็เลยต้องศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ก่อนแล้วค่อยไปเสวนากับเขา

เมื่อช่วงก่อนเคยพยายามชักชวนเพื่อนให้มาฟังธรรมเหมือนกัน เพราะเสียดายแทนเขาที่ไปเจริญโลภะทุกประการแต่เข้าใจว่ากำลังจะนิพพานชาตินี้ แต่พอพูดถึงพระไตรปิฎกและอรรถกถาต่างๆ เขาก็จะพูดเชิงหมิ่น บอกว่าเล่าต่อๆ กันมา ปฏิบัติเองรู้เองดีกว่า เอ่อ แบบนี้ ถึงเรารู้ เราก็ไม่ควรพูด เพราะเป็นอกุศลหมางใจกันแน่ๆ ก็เลยปล่อยให้เป็นไปตามการสะสมก็แล้วกัน สัทธาเจตสิกจึงเป็นข้อแรกของอริยทรัพย์ด้วยเหตุนี้เอง

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornpaon
วันที่ 4 ม.ค. 2552

"กาลทั้งหลายย่อมล่วงไป ราตรีทั้งหลายย่อมผ่านไป

ชั้นแห่งวัยย่อมละลำดับไป บุคคลเมื่อเห็นภัยนี้ในมรณะพึงละอามิสในโลกเสีย มุ่งสันติ (พระนิพพาน) เถิด" (จาก...สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่มที่ ๒๔ อัจเจนติสูตร)

ขออนุโมทนาค่ะ

คาดเดาไม่ได้ว่าจะละจากอัตภาพนี้เมื่อใด

และไปสู่ความเป็น...อะไร...ในภพภูมิไหน

โอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์แสนยาก

จะได้ฟังพระสัทธรรมก็ยิ่งยาก

คำเตือนใดๆ เพื่อความไม่ประมาททั้งปวง

เพื่อไม่ละเลยโอกาสในการเจริญกุศล

เพื่อการค่อยๆ ขัดเกลากิเลสอกุศล

...จึงนับเป็นพรมีค่า...

ขออนุโมทนาในกุศลจิต กุศลศรัทธา และกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
yupa
วันที่ 6 ม.ค. 2552

ชีวิตเป็นของน้อย ไม่มีความแน่นอน อะไรจะเกิดกับใครย่อมเป็นไปได้เสมอ เจริญกุศลทุกประการที่มีโอกาส

ขออนุโมทนากุศลจิต ท่านอาจารย์สุจินต์ และ สหายธรรม ทุกท่าน

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pamali
วันที่ 5 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ