สูญหมดเมื่อหมดลม

 
สารธรรม
วันที่  20 พ.ย. 2551
หมายเลข  10450
อ่าน  1,494

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ข้อความบางตอนจาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ครั้งที่ ๗๑๙

บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์


... สูญหมดเมื่อหมดลม ...

มหายใจมีจริง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะชีวิตดำรงอยู่ได้ ยังเป็นไปได้อยู่ ชั่วขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้นเอง ชีวิตซึ่งเราคิดว่าสำคัญเหลือเกิน มีความเยื่อใยในทรัพย์สมบัติ ในรูปสมบัติ ในวิชาความรู้ต่างๆ ในฐานะ ในเกียรติยศ เห็นความสำคัญของสิ่งต่างๆ ว่ามากมาย และยึดถือคิดว่าเป็นตัวตนเป็นของท่าน แท้ที่จริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับลมหายใจแผ่วๆ ซึ่งเป็นลักษณะของโผฏฐัพพารมณ์ที่ละเอียดมาก เพราะฉะนั้น ชีวิตที่ท่านคิดว่าใหญ่โตและสำคัญเหลือเกิน ก็ปราศจากความหมายทั้งสิ้น เพราะขึ้นอยู่กับเพียงลมหายใจเบาๆ ซึ่งเมื่อขาด หรือหมดไปแล้วทุกสิ่งของท่านก็สูญหมด ความเป็นบุคคลนี้ ความเป็นเจ้าของ ครอบครองเกียรติยศ ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ ความรู้ต่างๆ ก็จะหมดสิ้นไป ทันทีที่ลมหายใจนั้นหมดไปเท่านั้นเอง
ห็นความสำคัญของลมหายใจว่าเหนือกว่าสิ่งใด โลกทั้งโลก ชีวิตทั้งชีวิต ทุกสิ่งที่ท่านคิดว่าสำคัญเหลือเกินแท้ที่จริงก็ขึ้นอยู่กับสภาพซึ่งเล็กน้อยเหลือเกิน เพียงลมอ่อนๆ แล้วก็เกิดขึ้นนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง นี่คือชั่วขณะหนึ่งๆ


สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

ชีวิตน้อยเพราะมีกิจน้อย อย่างไร?

ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้า

ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจออก

ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้า และ ลมหายใจออก

ชีวิตเนื่องด้วยมหาภูตรูป

ชีวิตเนื่องด้วยไออุ่น

ชีวิตที่เนื่องด้วยอาหารที่กลืนกิน

ชีวิตเนื่องด้วยวิญญาณ

(ข้อความบางตอนจาก) ชีวิตน้อยด้วยเหตุ ๒ ประการ (เพราะตั้งอยู่น้อย ๑ , เพราะมีกิจน้อย ๑)

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

ชีวิตน้อยด้วยเหตุ ๒ ประการ [มหานิทเทส] [เล่มที่ 65]


บุรุษย่อมสำคัญสิ่งใดว่า สิ่งนี้เป็นของเรา จำต้องละสิ่งนั้นไป แม้เพราะความตาย บัณฑิตผู้นับถือพระพุทธเจ้าว่าเป็นของเรา ทราบข้อนี้แล้ว ไม่พึงน้อมไปในความเป็นผู้ถือว่าสิ่งนั้นๆ เป็นของเรา.

ชนทั้งหลายผู้ยินดีแล้วในสิ่งที่ตนถือว่าเป็นของเรา ย่อมละความโศก ความร่ำไรและความตระหนี่ไม่ได้ เพราะเหตุนั้นมุนีทั้งหลาย ผู้เห็นนิพพานเป็นแดนเกษมละอารมณ์ที่เคยหวงแหนได้ เที่ยวไปแล้ว.

(ข้อความบางตอนจาก) ชราสูตรที่ ๖ ว่าด้วยชีวิตนี้น้อยนัก

เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

ชีวิตนี้น้อยนัก [ชราสูตรที่ ๖]

ขออุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์

  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 20 พ.ย. 2551

สิ่งที่ติดตามไปได้ในภพหน้าคือบุญและบาป ชาตินี้เราก็ได้เกิดมาแล้วเป็นมนุษย์ ได้ลาภแล้วคือศรัทธา ศรัทธาคือความเลื่อมใสในการฟังธรรม ความเลื่อมใสในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เลือมใสพระธรรมคำสอนที่ผู้ปฏิบัติตามแล้วนำออกจากทุกข์ได้จริง เลื่อมใสพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติตรง ปฏิบัติชอบ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่าค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
michii
วันที่ 20 พ.ย. 2551
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Noparat
วันที่ 20 พ.ย. 2551

เราไม่รู้ว่ากรรมใดจะให้ผลในภพหน้า แต่เมื่อยังมีลมหายใจในขณะนี้ ก็ไม่ควรประมาท และควรที่จะเจริญกุศลทุกประการค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 20 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 20 พ.ย. 2551

[๗๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ศาสดาชื่อ อรกะ เป็นเจ้าลัทธิปราศจากความกำหนัดในกาม ก็อรกศาสดานั้นมีสาวกหลายร้อยคน เธอแสดงธรรมแก่สาวกอย่างนี้ว่า ดูก่อน พราพมณ์ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายน้อยนิดหน่อย รวดเร็ว มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก จะพึงถูกต้องได้ด้วยปัญญา ควรกระทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khampan.a
วันที่ 20 พ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
petcharath
วันที่ 20 พ.ย. 2551

การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก รวมถึงได้การได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Komsan
วันที่ 21 พ.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pornpaon
วันที่ 22 พ.ย. 2551

...ขออนุโมทนาค่ะ...

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 23 พ.ย. 2551

ชีวิตเป็นของน้อยนัก ทันทีที่หมดลมหายใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ยึดถือว่าเป็นของเรา คนที่เรารัก ทรัพย์สินเงินทอง ยศฐาบรรดาศักศิ์ก็หมดสิ้นลง แล้วสาระสำคัญของชีวิตคืออะไรกันแน่?

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ ...

ความเข้าใจพระธรรมเป็นสาระสำคัญที่สุดในชีวิต

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ