ให้เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง

 
เมตตา
วันที่  20 ต.ค. 2551
หมายเลข  10175
อ่าน  929

มีท่านผู้ฟังท่านหนึ่งกล่าวว่า ในชีวิตประจำวันมีเหตุให้อกุศลจิตท่านเกิดมากมาย เหลือเกินทำให้ท่านได้กระทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ควร จึงอยากให้ท่านอาจารย์สุจินต์ช่วยแนะนำท่านว่า ท่านควรทำอย่างไร เพื่ออย่าให้การกระทำที่ไม่ดีเกิดขึ้น ท่านอาจารย์ กล่าวว่าแนะนำแล้วทำตามได้จริงหรือเปล่า ไม่มีคำแนะนำมีแต่จะให้ความเข้าใจให้เข้าใจให้ถูกต้องตามความเป็นจริง แนะนำไม่มีประโยชน์เท่ากับให้เข้าใจ แนะนำแล้วทำตามได้หรือไม่ ก็คือการแนะนำเท่านั้นเอง แต่ถ้าให้ความเข้าใจก็จะเป็นปัญญาของคนนั้นเอง จึงควรฟังพระธรรมให้เข้าใจ ถ้ายังไม่เข้าใจชัดก็ถามกันให้เข้าใจเพิ่มขึ้นช้าๆ ทีละเล็ก ทีละน้อย เพราะเราจะเข้าใจทุกอย่างให้รวดเร็วเป็นไปไม่ได้ สภาธรรมเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใดได้ จึงควรอบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรมตรงตามความเป็นจริงว่าเป็นเพียงธรรม ไม่ใช่เรา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Sam
วันที่ 20 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
aiatien
วันที่ 20 ต.ค. 2551

ท่านอาจารย์

กล่าวว่า ...แนะนำแล้วทำตามได้จริงหรือเปล่า...

...จึงควรฟังพระธรรมให้เข้าใจ...

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 20 ต.ค. 2551

ให้เข้าใจว่าธรรมะเป็นของธรรมดาซึ่งกำลังปรากฏขณะนี้ เช่น มีเย็น มีร้อน มีอ่อน มี แข็ง ถ้าสติเกิดก็ระลึกตรงลักษณะของเย็น ร้อน ฯลฯ ซึ่งต่างจากขณะที่สติไม่ระลึกค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
orawan.c
วันที่ 20 ต.ค. 2551

เมื่อใดที่ขอคำแนะนำ แสดงว่าลืมว่าทุกอย่างเป็นธรรมะและเป็นอนัตตา มีแต่ฟังให้ เข้าใจแล้วสังขารขันธ์จะปรุงแต่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่มีตัวเราต่างหากที่ จะไปทำอะไร (มีแต่ความประพฤติเป็นไปของขันธ์จริงๆ)

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 20 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ปัญญาไม่เหมือนกบกระโดด เป็นสิ่งที่เติบโตช้า และที่สำคัญต้องเป็นไปตามลำดับขั้น อกุศลสะสมมามากมีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้น หาวิธีไม่ใช่ทาง แต่ค่อยๆ เข้าใจถูกจากขั้น การฟังว่าเป็นธรรมและเป็นอนัตตาและไม่สามารถบังคับสภาพธรรมอะไรได้เลย นี่เป็นเบื้องต้น เป็นการอบรมปัญญาและหนทางที่ถูกต้องค่อยๆ เข้าใจว่าเป็นธรรมและต้องไม่ ลืมว่าปัญญาขั้นการฟังทำอะไรกิเลสไมได้ เพียงค่อยๆ ละความไม่รู้ในขั้นการฟังเพื่อ เป็นปัจจัยปรุงแต่งจนสติเกิด แม้อกุศลเกิดขึ้นก็รู้ว่าเป็นธรรม ปัญญาต้องเป็นไปตามลำดับ รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราก่อนครับ ดังนั้นจึงไม่ใข่แนะนำให้พยายามละอกุศลด้วยความเป็นตัวตน แต่แนะนำให้เข้าใจ เริ่มจากขั้นการฟังว่าให้เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราธรรมทำหน้าที่ มีเหตุเกิด แต่อบรมปัญญาในขณะที่สภาพธรรมเกิดไม่ว่าจะเป็นสภาพธรรมใด แม้อกุศลที่เกิดขึ้นครับว่าไม่ใช่เราเป็นสภาพธรรม แม้ขั้นการฟังก็เบาขึ้นเพราะเข้าใจ

ขออนุโมทนา

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Komsan
วันที่ 21 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
happyindy
วันที่ 21 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

แนะนำไม่มีประโยชน์เท่ากับให้เข้าใจ จึงควรฟังพระธรรมให้เข้าใจถ้ายังไม่เข้าใจชักก็ถามกัน ให้เข้าใจเพิ่มขึ้นช้าๆ ทีละเล็ก ทีละน้อย เพราะเราจะเข้าใจทุกอย่างให้รวดเร็วเป็นไปไม่ได้

ประสบการณ์ส่วนตัว ตอนแรกเคยคิดเหมือนกันว่าการฟังเพียงอย่างเดียว จะเข้าใจได้จริงหรือ แต่เมื่อฟังไปไตร่ตรองตามไป โดยยังไม่เอาความคิดตัวเองไปขวางทางไว้ก่อน สังเกตได้ว่า ความคิดความเข้าใจที่เกิดขึ้นในช่วงหลังๆ ต่างกับเมื่อฟังแรกๆ ถึงแม้จะเป็นเพียงความเข้าใจขั้นเรื่องราว และยังเป็นเราก็ตาม และแน่นอนว่า ยังต้องฟังพระธรรมต่อไป การฟังยังไม่เพียงพอ ยังต้องฟังต่ออีกนานเท่านาน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
suwit02
วันที่ 22 ต.ค. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
ปริศนา
วันที่ 24 ต.ค. 2551

สภาพธรรมเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใดได้ จึงควรอบรมเจริญปัญญารู้ลักษณะสภาพธรรม ตรงตามความเป็นจริงว่าเป็นเพียงธรรม ไม่ใช่เรา

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เซจาน้อย
วันที่ 25 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ