อยู่กับความเห็นผิดมานาน
ผู้ฟัง
ส. ทำไม อนัตตาอยู่ที่ไหน ถ้ามีพวกก็คือมีคน ไม่ใช่เป็นปรมัตถธรรม ถ้าเป็นผู้ที่มีปัญญาท่านก็อยู่ร่วมกัน ท่านผู้ที่มีความเห็นผิด ท่านก็อยู่ร่วมกันกับความเห็นต่าง ๆ แต่เราเกิดมา เรามีสิทธิ มีโอกาสที่จะพิจารณาไตร่ตรองเรื่องของความเห็น เป็นเรื่องเฉพาะตัว เราจะไปก้าวก่ายความเห็นของคนอื่นไม่ได้ ถ้าคนอื่นมีความเห็นอย่างนั้น เขาสะสมมาที่จะเห็นอย่างนั้น คิดอย่างนั้น แต่ถ้าเรามีความเห็นที่เป็นเหตุผลพร้อมที่จะให้ความจริง พร้อมที่จะให้คนอื่นเข้าใจทุกแง่มุม ทุกประการ แสดงว่าความเห็นนั้นถูกต้อง แต่ถ้าถามแล้วตอบไม่ได้ หรือไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง ก็หมายความว่า ความเห็นนั้นยังไม่สมควรที่จะเชื่อ หรือว่าเข้าใจว่าถูกต้อง เพราะว่าเวลาที่ถามเพื่อความเข้าใจ ก็ไม่สามารถที่จะให้คำอธิบายได้ อาจจะมีคำถามว่า แล้วจะทำอย่างไรดี ใช่ไหมคะ
ผู้ฟัง
ส. เราจะอยู่โดดเดี่ยวด้วยความเห็นถูก ด้วยความเป็นคนดี ด้วยความถูกต้อง หรือเราจะไม่โดดเดี่ยว โดยพลอยเป็นไปด้วย ถ้าทุกคนเป็นโจร เราจะโดดเดี่ยวที่จะไม่เป็นโจร หรือว่ายอมเป็นโจรไปด้วย
นี่ก็คือแต่ละคนมีสิทธิ แล้วจริง ๆ ความเป็นเพื่อน เป็นคุณธรรม เป็นธรรมฝ่ายดี ภาษาบาลีใช้คำว่า มิตตะ หรือเราใช้คำว่า “เมตตา” เมตตา มาจากคำว่า มิตร หมายความถึงความเป็นเพื่อน ความเป็นเพื่อนที่นี้ หมายความว่าไม่ใช่ศัตรู เพราะฉะนั้น ไม่วาใครจะมีความเห็นอย่างไร เราไม่เป็นศัตรู แต่มีความเป็นมิตรที่จะช่วยเกื้อกูลเมื่อมีโอกาส แต่ถ้าไม่มีโอกาส อย่าไปทำสิ่งนั้นเลย เพราะเหตุว่าไม่มีประโยชน์ ต่อเมื่อไรเราคิดว่าเป็นประโยชน์ เราทำ แต่ไม่มีประโยชน์ก็ไม่ทำ แต่ไม่ใช่ไปคัดค้านผู้ที่มีความเห็นผิดในขณะที่เขากำลังเห็นผิด แต่ว่าถ้าสามารถที่จะค่อย ๆ เป็นมิตร แล้วก็ช่วยชี้แจงด้วยเหตุผล ก็แล้วแต่ว่าเขาสะสมมาที่จะพิจารณาด้วยความถูกต้อง หรือว่าเขายังคงเชื่อถือเหมือนเดิม เพราะว่าเรื่องความเชื่อ ไม่ใช่ว่าเราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขความคิด หรือความเชื่อของใครได้ ในพระไตรปิฎกก็มี ข้อความเรื่องพราหมณ์ผู้หนึ่งก็พยายามเอาดินไปถมพวกเหว พวกอะไรที่เป็นบ่อจะให้เต็ม ซึ่งคนที่เห็นก็รู้ว่า มันเป็นไปไม่ได้เลย มีใครในโลกที่สามารถจะไปทำสิ่งที่เป็นเหวเป็นบ่อ อะไรพวกนี้ ให้มันเต็มราบเรียบเสมอกันทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ฉันใด ความเห็นของแต่ละคนก็เหมือนกัน บางคนครอบครัวหนึ่ง พ่อ แม่ ลูกอีก ๗ - ๘ คน คนละวัดหมด ช่วยไม่ได้ แต่ว่าแต่ละคนก็มีโอกาสที่แล้วแต่ว่าถ้าจะได้เกื้อกูลใครเมื่อไร โดยที่ว่าต้องรู้ว่า สามารถทำได้ จึงควรทำ แต่ถ้าไม่สามารถจะทำได้ ก็แล้วแต่การสะสมของแต่ละบุคคล คงยังไม่ถึงเวลาที่ท่านเหล่านั้นจะพิจารณาธรรมด้วยความละเอียด แต่อีกอย่างหนึ่งอาจจะไม่มีโอกาส เพราะว่าบางคนแสวงหาสัจจธรรมที่ถูกต้อง ที่จริง แต่ไม่มีโอกาสพบ ก็เป็นได้ แต่ถ้ามีโอกาสแล้ว ก็ควรที่จะเปรียบเทียบพิจารณา ว่าสิ่งใดถูกต้อง แล้วก็ควรถือเอาสิ่งที่ถูก สิ่งที่ผิดรีบทิ้งไปเถอะ อย่าเก็บไว้เลย ยิ่งเก็บไว้ก็ยิ่งชิน แล้วก็ทิ้งยาก โดยเฉพาะบางคนติดในหมู่คณะ เขาก็ไม่ยอมจากไป ทั้ง ๆ ที่เขามีความเห็นถูก แต่ว่าเมื่อหมู่คณะมีความเห็นผิด เขารักหมู่คณะ เขาก็ยังอยู่กับความเห็นผิด แล้วความเห็นถูกของเขาจะไม่มั่นคง ถ้าเขาไม่ศึกษาและไม่อบรมปัญญา ความเห็นถูกให้เจริญขึ้น แต่ไม่มีความเป็นศัตรูกับคนอื่น แล้วก็มีความเข้าใจด้วยว่า เรื่องของความคิดเป็นเรื่องธรรมดาที่สะสมมาที่จะคิดผิดเห็นผิด หรือว่าจะคิดถูกเห็นถูก