แว่วเสียงธรรม


    นต. จรัล ปานุราช ร้องเพลง

    แว่วเสียงแห่งธรรมที่ท่านกล่าวมาเป็นอารมณ์

    เกิดความรื่นรมย์สะสมอยู่ในใจตน

    ท่านอาจารย์ ธรรมแนวใหม่ เหมือนกับว่า ถ้าไม่ใช่ที่นี่ แต่อาจจะเป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพราะเพลงนี้บอกว่า แว่วเสียงธรรม แสดงว่าอยู่กันที่ไหน แล้วในที่สุดก็จากเสียงเพลง ซึ่งทุกคนก่อนหน้านั้นก็อาจจะเพลิดเพลินทำอะไรกันก็ได้ เหมือนเมื่อกี้นี้เลย แต่ตอนนี้ทุกคนมาสู่ที่นี่แล้ว แต่ก่อนนั้นแต่ละคนอยู่ที่ไหน และถ้าไม่ใช่ตรงนี้ล่ะ เป็นตรงอื่น อาจจะเป็นสวรรค์ชั้นไหนก็ได้ เพราะในอบายภูมิไม่มีโอกาสได้ยินแน่

    เพราะฉะนั้น จากเสียงเพลงเตือนให้เข้าใจธรรม เพราะฉะนั้น วันนี้ใครจะรู้ความเป็นอนัตตา ก่อนมาที่นี่ดิฉันก็ไม่ทราบว่า คุณโจจะร้องเพลงนี้ แล้วคุณอรรณพก็ปรารภ เป็นอนัตตาจริงๆ คือแต่ละคนก็ไม่รู้ว่า จากวันก่อนๆ ที่เราเคยได้ฟังธรรม ก็จะมีธรรมแนวชมรมบ้านธรรม ซึ่งได้แต่งเพลงนี้ซึ่งไพเราะมาก เพราะเหตุว่าแว่วเสียงธรรม อยู่ที่ไหนกัน ตอนนี้ง่ายต่อการได้ยินเสียงธรรม แต่ต่อไปไม่แน่ว่าจะมีการแว่วเสียงธรรมหรือเปล่า

    เพราะฉะนั้น ทุกอย่างก็เป็นสิ่งที่เตือนให้รู้ความจริง และได้รับประโยชน์จากทุกอย่างที่ได้ฟัง แม้แต่การฟังแต่ละคำ เสียงแต่ละเสียงแม้ขณะนี้ก็เป็นอนัตตา ถ้าไม่มีปัจจัยเกิดไม่ได้เลย แต่เราก็ลืม แล้วก็ฟังเพื่อให้เข้าใจความเป็นปัจจัยของสิ่งที่เกิดแล้ว ต้องไม่ลืมว่า เกิดแล้ว เพราะมิฉะนั้นเราก็จะไปหาสิ่งที่ยังไม่เกิด แม้แต่คิดจะหาสิ่งที่ยังไม่เกิด ขณะนั้นก็เกิดแล้ว คือความคิดที่หาสิ่งที่ยังไม่เกิด

    เพราะฉะนั้น ก็เป็นธรรมอีกแนวหนึ่งซึ่งเป็นอนัตตา

    จรัลร้องเพลงต่อ

    กุศลเกิดมาพาชื่นกมล จิตที่สะสมธรรมแยบยล น้อมนำส่งผลต่อไป


    หมายเลข 9226
    19 ก.พ. 2567