วิบากจริงๆก็คือ จิต


    อดิศักดิ์   วิบากมีเวทนาเป็นอุเบกขา จึงรู้จักเขายาก ก็อยากจะถามท่านอาจารย์สุจินต์ว่า จะมีอะไรเป็นสิ่งสังเกต จะระลึกรู้วิบากได้

    ท่านอาจารย์    ระลึกรู้วิบากนี่ยาก ที่ว่ายาก ก็คือว่าถ้าไประลึกรู้ชื่อวิบาก  จะไม่ใช่เป็นการรู้ลักษณะของจิต เพราะเหตุว่าขณะนี้ทุกคนมีจิต เจตสิก รูป ซึ่งย่อแล้วก็เป็นนามธรรมกับรูปธรรม คือ ธรรมสามารถที่จะย่อลงตามปัญญาที่ยังเล็กน้อย   เพราะว่าปัญญาขั้นปริยัติมาก กว้างขวาง แต่ว่าปัญญาที่จะรู้จริงๆ ในลักษณะของสภาพธรรม  ถ้าขณะใดที่สติปัฏฐานไม่เกิด ขณะนั้นจะกล่าวว่า เป็นปัญญาที่รู้มากไม่ได้เลย  คือว่าเพียงรู้เรื่อง รู้ปริยัติเท่านั้น

    เพราะฉะนั้นก็จะเทียบส่วนได้ว่า ความรู้ในการศึกษามากแล้ว แต่ว่าการที่จะรู้วิบากโดยขั้นสติปัฏฐาน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเหตุว่ารู้เรื่องวิบากในขั้นการฟัง การศึกษาง่าย ตาขณะนี้ที่กำลังเห็นเป็นวิบาก ทราบได้ เพราะเหตุว่ามีจักขุปสาทรูปซึ่งกรรมเป็นปัจจัย สิ่งที่เกิดจากกรรม เมื่อเป็นรูปไม่ใช่วิบาก แต่ขณะใดที่เห็น เพราะมีจักขุปสาทและมีรูปกระทบ ขณะที่เห็นเป็นวิบาก เพราะเหตุว่าวิบาก หมายความถึงสภาพที่เป็นผล รับผลของของกรรม เพราะฉะนั้นวิบากจิตคือจิตที่รับผลของกรรม

    การที่จะรู้ว่านี้เป็นจิตที่รับผลของกรรม ถ้าแปลวิบากออกมา หมายความว่าจิตประเภทหนึ่งซึ่งเป็นผลของกรรม ไม่ใช่เป็นเหตุ เพราะฉะนั้นการที่จะไปรู้ถึงว่า จิตนี้เป็นผลของกรรม ยังเป็นไปไม่ได้ นอกจากว่าจะรู้ลักษณะของจิตเสียก่อน   เมื่อย่อลงไปจากสภาพธรรมที่เรียนมามากมายให้เหลือเพียงนามธรรมกับรูปธรรม ก็จะมาถึงขณะที่สติเกิดแล้วก็ระลึก แล้วก็รู้ความต่างกันของสภาพซึ่งเป็นสภาพรู้ซึ่งใช้คำว่านามธรรมก่อน  ขณะนี้ไม่ต้องรู้ชื่อวิบากเลย แต่ให้รู้ว่าที่กำลังเห็นเป็นสภาพรู้ เป็นอาการรู้ ซึ่งต้องอาศัยการเทียบเคียงว่า คนตายไม่เห็น

    เพราะฉะนั้นขณะนี้ที่เห็น มีจริงๆ โดยที่ไม่มีรูปร่าง ไม่มีสัณฐาน แต่อาการหรือสภาพที่รู้เป็นลักษณะรู้ทางตา คือ เห็นมี ต้องค่อยๆ พิจารณาเรื่องของนามธรรมก่อน  แล้วภายหลังถึงจะรู้ สิ่งที่เรารู้ก็คือวิบากนั่นเอง


    หมายเลข 8843
    11 ก.ย. 2558