เป็นผลของกรรมอะไร...ใครรู้
พระ ข้อสงสัยประการหนึ่งที่กล่าวว่า กรรมที่ส่งผลทางกายแล้ว ซึ่งเราหนีไม่พ้น ในกรณีของท่านพระองคุลีมาลที่ท่านบรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว มีข้อความกล่าวว่า ภายหลังเมื่อท่านไปบิณฑบาตในที่ต่างๆ ใครเขาจะปาหิน ก็จะไปถูกท่าน อันนั้นเขาว่าเป็นเศษกรรม เป็นผลเนื่องจากเป็นอโหสิกรรมแล้ว ซึ่งเป็นผลไม่ปรากฏทางกาย มันสัมพันธ์กันอย่างไร อาจารย์พอจะให้เหตุผลหรือความหมายตรงนี้ได้ไหม
ท่านอาจารย์
เพราะฉะนั้นผู้ที่จะรู้ว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกระทบกายแล้วทำให้เกิดทุกข์ขณะนี้ เป็นผลของกรรมอะไร ก็ต้องเป็นพระปัญญาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าคนนั้นจะบอกได้ว่า ขณะนี้ที่กำลังเจ็บตรงนี้เป็นผลของกรรมอะไร คนนั้นก็ต้องบอกได้ว่า กำลังเห็นขณะนี้เป็นผลของกรรมอะไร กำลังได้ยิน กำลังได้กลิ่น กำลังลิ้มรสเป็นผลของกรรมอะไร ถ้าเขาสามารถบอกได้ว่า ขณะเจ็บเป็นผลของกรรมอะไร
ถาม ที่ว่าขณะเจ็บที่กาย ขณะนั้นเป็นกายเราที่รับรู้ส่วนที่เจ็บทางกายทวารก่อนใช่ไหมคะ แล้วถึงจะไปทางมโนทวาร แต่เมื่อกี้ฟังท่านอาจารย์ ดิฉันอาจจะสับสนว่า ไม่ได้เจ็บตรงกาย ไปมีความรู้ตรงมโนทวารเลย อาจจะฟังผิดค่ะ
ท่านอาจารย์
เพราะฉะนั้นการรู้เป็นลักษณะของนามธรรม รูปธรรมไม่สามารถจะรู้อะไรเลย
การฟังธรรมต้องตรงและเข้าใจถูก แล้วไม่ลืม ตามลำดับว่า รูปไม่สามารถจะรู้อะไรได้ แต่สภาพรู้มี ๒ อย่าง สภาพรู้ที่เกิด คือ จิตและเจตสิก ส่วนนามธรรมซึ่งไม่ใช่รูปธรรม และไม่ใช่สภาพรู้ ก็คือนิพพาน ซึ่งขณะนี้ก็ควรเข้าใจเรื่องของจิต เจตสิก รูปให้เข้าใจจริงๆ จนกว่าจะอบรมเจริญปัญญาถึงกาลที่ปัญญาสมบูรณ์เมื่อไร ก็ประจักษ์แจ้งลักษณะของนิพพาน
เพราะฉะนั้นในขณะนี้ที่รูปมี จิตมี เจตสิกมี ก็ควรที่จะเข้าใจเรื่องของจิต เจตสิก รูป
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ต้องมีกายปสาท ถ้าไม่มีกายปสาท ไม่เจ็บ ที่โต๊ะไม่มีกายปสาท ไม่มีทางที่โต๊ะจะเจ็บ ไม่มีทางที่โต๊ะจะกระทบรู้อ่อนหรือแข็ง เย็นหรือร้อน ตึงหรือไหว สิ่งที่จะกระทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดเกิดขึ้น ก็คือแข็ง หรือเย็น หรือร้อน หรือตึง หรือไหวนั่นเอง