ปัญญารู้ลักษณะความสงบของกุศลจิตจริงๆ ได้


    ส.   มีท่านผู้ฟังมีข้อสงสัยอะไรบ้างไหมคะ ในเรื่องนี้

    ผู้ฟัง .

    ส.   คะ สมาธิ เป็นได้ทั้ง มิจฉาสมาธิ และสัมมาสมาธิ เพราะฉะนั้น  แล้วแต่ว่าสมาธินั้นเกิด กับ กุศลจิต หรืออกุศลจิต ถ้ามีความต้องการจดจ้องที่ ๑ ที่ใด ในขณะนั้น คะ เป็นอกุศลสมาธิ ไม่ใช่ความสงบ เห็นรูปวิวธรรมชาติสวยๆ บางคนบอก แหม ดูแล้วสงบ จริงไหมคะ หรือว่าดูแล้วชอบ แล้วเวลาที่อยู่ในป่า ไม่ใช่แต่เพียงรูปวิว รูปเดียว ล้อมรอบตัวทั้งหมด เป็นภาพธรรมชาติทั้งนั้น แล้วก็ลองคิดดูว่า ในขณะที่เพียงเห็นรูปวิวธรรมชาติ รูปเดียว ยังชอบ แล้วถ้าล้อมรอบตัวเองทั้งหมดในขณะนั้น จะเป็นความชอบ หรือว่าจะเป็น สมถะ คือความสงบ ถ้าแยก อกุศลจิต ออกจากกุศลจิตไม่ได้  ก็เจริญความสงบไม่ได้ ก็ยังคงมีความ สบายใจ สบายกาย ซึ่งเป็นลักษณะของความพอใจ ในอารมณ์ที่ปรากฏ โดยที่เข้าใจว่าขณะนั้นสงบ นี่เป็นเรื่องที่จะต้องอบรมเจริญด้วยปัญญา ขั้นที่รู้ว่าลักษณะความสงบของจิตนั้น เป็นอย่างไร ขณะนี้ก็ได้ กำลังฟังพระธรรม นี่คะ สงบไหม ลักษณะความสงบของจิต ปรากฎไหมคะ ไม่สงบ เพราะฉะนั้น ก็  คะ  ซึ่งตามความเป็นจริง ชั่วขณะ ๑ ที่ปัญญา เข้าใจ ที่กำลังเข้าใจ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เป็นลักษณะของสภาพธรรมชนิด ๑ ซึ่งเกิดขึ้นกระทำกิจเข้าใจ ในขณะที่กำลังเข้าใจธรรม นี่คะ ขณะนั้นสงบจากโลภะ โทสะ โมหะ แต่ชั่วขณะเล็กน้อย ที่เป็นไปในทานบ้าง  เป็นไปในศีลบ้าง เป็นไปในการฟังธรรมบ้าง สภาพของความสงบ นี่คะ ยังไม่มากพอ ที่จะปรากฏให้รู้ ให้สังเกตุได้ ว่า เป็นลักษณะของความสงบของจิต เพราะฉะนั้น ถ้ามีการระลึกถึง พระธรรม ด้วยความรู้ความเข้าใจบ่อยๆ เนืองๆ  ลักษณะของความสงบจะปรากฏได้ บ่อยๆ เนืองๆ คะ หรือระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บ่อยๆ เนืองๆ แทนที่จะเพียงกราบพระ อย่างรีบร้อน หรือว่าอย่างที่ไม่ได้ระลึกถึงพระคุณเลย  ก็เป็นการระลึกถึงพระคุณ ในขณะนั้น จะสังเกตุรู้ สภาพความสงบของจิต ซึ่งเป็นเรื่องของจิต ซึ่งบุคคลอื่นไม่สามารถที่จะรู้ได้ นอกจากตัวของท่านเอง เพราะฉะนั้น แต่ก่อนนี้เคยไหว้พระ สวดมนต์ โดยที่ไม่มีลักษณะของความสงบปรากฏ ให้รู้เพราะปัญญาไม่ได้สังเกตุ สำเหนียก ต่อไปนี้คะ  เริ่มสังเกตุ แล้วก็จะได้รู้ว่า ลักษณะของความสงบปรากฏบ้างไหม แล้วก็จะสงบขึ้นได้ ถ้ารู้ในลักษณะที่สงบนั้น  ไม่ใช่เป็นความต้องการไปจดจ้อง ไปท่องบ่นอะไร แต่เป็นความผ่องใสของจิต เมื่อระลึกถึงคุณของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า


    หมายเลข 4888
    19 ส.ค. 2558