อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


    ทุกคนมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะจิตเดียว ขณะจิตเดียวที่เกิดดับสืบต่อกัน นี่คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งเป็นไตรลักษณะ ซึ่งเราก็คงจะได้ยินได้ฟังว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน แต่ทุกข์ที่นี่ไม่ใช่ทุกข์เจ็บตัว ไม่ใช่ทุกข์เจ็บใจ  แต่ทุกข์นั้นไม่เที่ยงเพราะ เกิดขึ้นสั้นมากแล้วก็ดับ ไม่มีอะไรเลย ซึ่งเกิดขึ้นแล้วคงอยู่โดยไม่ดับ แต่ว่าความไม่รู้ก็ทำให้คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเทียง เมื่อไม่สามารถที่จะรู้ความจริง ก็ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นวัตถุสิ่งหนึ่งสิ่งใดจริงๆ แต่คนที่จะหมดกิเลสได้ ถึงความเป็นพระอรหันต์ต้องมีปัญญาแน่นอน ถ้าไม่มีปัญญาแล้วดับกิเลสไม่ได้ แต่ว่าปัญญาก็ต้องมีการตั้งต้น มีการเริ่มต้น ตั้งแต่การที่บุคคลใดก็ตามที่ไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วต้องฟังพระธรรมของพระองค์ก่อน จะได้ทราบว่าเราเข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกมาก่อนที่จะได้ฟัง ถ้าทุกคนเข้าใจได้ถูกต้องก่อนฟัง ไม่ต้องฟัง  เสียเวลาไม่มีประโยชน์ แต่ว่าทุกครั้งที่ฟังจะรู้ว่าแต่ก่อนเราไม่เคยได้เข้าใจอย่างนี้ แม้แต่ความหมายของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เคยคิดเลยว่าหมายความถึงสภาพธรรมในขณะนี้ กำลังไม่เที่ยง กำลังเกิดขึ้นและดับไป เราไปคิดว่าเกิดมาแล้วก็แก่แล้วก็เจ็บแล้วก็ตาย นั่นคือความไม่เที่ยง  เราเข้าใจอย่างนั้น แต่ถ้าศึกษาแล้วจะรู้ได้ว่าถ้าเข้าใจเพียงเท่านั้น หมดกิเลสไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องซึ่งเราก็รู้ เวลานี้พูดก็จริง เกิดแล้วก็แก่แล้วก็เจ็บแล้วก็ตาย  กิเลสก็ยังอยู่เต็ม ใช่ไหมคะ

    เพราะฉะนั้นความหมายของความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความเป็นอนัตตา ต้องลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น และผู้ที่ประจักษ์แจ้งพระองค์แรกก็คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็ได้ทรงแสดงพระธรรมเพื่อที่จะให้คนอื่นเข้าใจตาม


    หมายเลข 3325
    26 ส.ค. 2558