สภาพของจิต กับ กรรม
ถาม ที่อาจารย์อธิบายมา เป็นเรื่องที่ผมยังไม่เคยรู้ เช่น เรื่องเจตสิก เรื่องบุพพเจตนา คือ กฏัตตากรรม กรรมที่ขาดเจตนา ท่านอาจารย์กล่าวว่า เจตนานั้นต้องปราศจากบุพพเจตนาก่อนใช่ไหม
ท่านอาจารย์ ขาดเจตนาไม่ได้ แต่ขาดบุพพเจตนาได้
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ไม่มีค่ะ แต่อย่าโยนบ่อยๆนะคะ เพราะคิดว่าไม่มี ต้องระมัดระวังค่ะ
ขอประทานโทษค่ะ ที่ว่าไม่มี หมายความว่าไม่มีเจตนาที่จะเบียดเบียนประทุษร้ายใครในขณะนั้นแน่นอน ใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นต้องพิจารณาถึงเจตนา ขณะนั้นจิตเป็นกุศลหรืออกุศล ขณะที่กำลังโยนของทิ้งไป เป็นกุศลหรืออกุศล
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่พระอรหันต์ แล้วจะเป็นกิริยาจิตไม่ได้ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ นอกจากวิบากจิต คือ จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ หลังจากนั้นแล้วก็เป็นกุศลหรืออกุศลต่อจากโวฏฐัพพนะซึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์แล้ว มีกิริยาจิตเพียง ๒ ดวง
นี่ก็เป็นเรื่องละเอียด แต่ให้ทราบว่าสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ จะกล่าวว่าเป็นกิริยาจิตในขณะที่กระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ ต้องเป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ค่ะ ตรงกันข้ามนะคะ ทุกท่านย่อมมีกุศลจิตและอกุศลจิตสลับกัน ถ้าไม่กล่าวถึงวิบากจิตและกิริยาจิต ซึ่งสำหรับปุถุชนแล้วมีกิริยาจิตเพียง ๒ ดวงเท่านั้น แต่สำหรับพระอรหันต์แล้วมีกิริยาจิตแทนกุศลจิตและอกุศลจิต เพราะเหตุว่าพระอรหันต์ไม่มีกุศลจิต ไม่มีอกุศลจิต เพราะฉะนั้นมีกิริยาจิต
เพราะฉะนั้นผู้ที่ยังเป็นปุถุชนจะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน จะพูด จะคิด จะรับประทานอาหาร จะมีชีวิตอยู่เป็นปกติประจำวัน ย่อมไม่พ้นจากกุศลจิตและอกุศลจิต ในขณะที่พระอรหันต์ ท่านก็นั่ง นอน ยืน เดิน พูด คิด บริโภคอาหารเป็นประจำ ทำกิจบริหารร่างกายเป็นประจำ แต่ด้วยกิริยาจิต เพราะฉะนั้นสำหรับปุถุชนจะไปเป็นกิริยาจิตอย่างพระอรหันต์ ในขณะที่นั่ง นอน ยืน เดิน พูด นิ่ง คิด ไม่ได้
เพราะฉะนั้นในขณะที่กำลังโยนของ เป็นกุศลจิตหรือเป็นอกุศลจิต
นี่เป็นเรื่องละเอียดที่จะเข้าใจเรื่องของกรรมเพิ่มขึ้นจากสภาพของจิต ซึ่งจะต้องเข้าใจก่อนว่า ในขณะนั้นเป็นกุศลจิตหรือเป็นอกุศลจิต ถ้าไม่ได้โยนของในขณะนี้ กำลังยืนอยู่เดี๋ยวนี้เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต กำลังพูดอยู่เดี๋ยวนี้เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต กำลังคิดอยู่เดี๋ยวนี้เป็นกุศลจิตหรืออกุศลจิต
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ ขณะสงสัยเป็นกุศลไม่ได้ แต่ขณะที่เข้าใจเป็นกุศล ขณะที่สงสัยไม่ใช่กุศล
นี่เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา ขณะที่ไม่ฟัง เป็นกุศลจิตหรือเป็นอกุศลจิตคะ
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ อัพยากฤต เป็นไม่ได้ไงคะ อัพยากฤต หมายถึง วิบากหรือกิริยา แต่หลังเห็นแล้วจะพ้นจากอกุศลหรือกุศลไม่ได้ สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชน หลังได้ยินแล้วจะพ้นจากอกุศลหรือกุศลไม่ได้ สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ มิได้ค่ะ ผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ มีกิริยาจิตเพียง ๒ ดวง หรือ ๒ ประเภท
ผู้ฟัง
ท่านอาจารย์ กิริยาจิต คือ จิตซึ่งไม่ใช่เหตุที่จะให้เกิดผล คือ ไม่ใช่กุศลและอกุศล กิริยาจิต คือ จิตที่ไม่ใช่วิบาก คือ จิตที่เป็นผลของกุศลและอกุศล สำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ก็มีกุศลจิตและอกุศลจิต เป็นเหตุให้เกิดกุศลวิบากและอกุศลวิบาก แต่สำหรับผู้ที่เป็นพระอรหันต์แล้ว ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว ไม่มีทั้งกุศลและอกุศล เพราะฉะนั้นจึงไม่มีการเกิดอีกหลังจากปรินิพพานแล้ว และเมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็มีเพียงวิบากจิตกับกิริยาจิตแทนกุศลและอกุศล กิริยาจิตของพระอรหันต์แทนกุศลและอกุศลของผู้ที่เป็นปุถุชน หรือผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์