ประมวลสรุป__อธิปติปัจจัย
วันนี้ขอประมวลและสรุปอธิปติปัจจัยอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับอธิปติปัจจัยนั้นมี ๒ คือ สหชาตาธิปติปัจจัย ๑ และอารัมมณาธิปติปัจจัย ๑
ท่านผู้ฟังซึ่งพึ่งมาฟังได้กรุณาให้ทราบว่า ยังไม่เข้าใจความหมายของศัพท์บางศัพท์โดยชัดเจน เพราะฉะนั้นก็จะได้อธิบายความหมายของศัพท์ด้วย เช่น คำว่า “สหชาตาธิปติ” เป็นคำรวมของสหชาต และอธิปติ
สหชาต หมายความว่า เกิดพร้อมกัน ร่วมกัน ได้แก่ จิตและเจตสิกซึ่งเกิดร่วมกัน
อธิปติ หมายความถึงสภาพธรรมซึ่งเป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่
เพราะฉะนั้น “สหชาตาธิปติ” หมายถึงสภาพธรรมที่สามารถกระทำกิจเป็นหัวหน้า หรือเป็นใหญ่ชักจูงให้สหชาตธรรม คือ สภาพธรรมอื่นซึ่งเกิดร่วมด้วยเกิดขึ้น
ในบรรดาจิตและเจตสิกที่จะเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ทีละอย่างนั้น ก็ได้แก่ ฉันทเจตสิก เป็นสหชาตาธิปติ เป็นสภาพธรรมซึ่งสามารถเป็นหัวหน้า ชักจูงให้จิตและเจตสิกอื่นเกิดพร้อมตนได้ แล้วแต่ว่าจะเป็นฉันทะในกุศลหรือในอกุศลก็ได้ แต่ให้เห็นว่าในวันหนึ่ง ๆ นั้น เวลาที่จิตเกิดขึ้น เพราะมีฉันทะ คือ สภาพธรรมที่พอใจจะกระทำ ซึ่งจะต้องเข้าใจลักษณะที่ต่างกันของฉันทะ และโลภะว่า โลภเจตสิกเป็นอกุศลเจตสิก เป็นสภาพธรรมที่ติด ยึดมั่น ไม่ปล่อยวาง แต่ส่วนฉันทเจตสิก เป็นสภาพธรรมที่พอใจจะกระทำ
เพราะฉะนั้นสำหรับฉันทเจตสิก เป็นกุศลก็ได้ เป็นอกุศลก็ได้ เป็นวิบากก็ได้ เป็นกิริยาก็ได้ ถ้าจำแนกโดยนัยของชาติ ๔
นอกจากฉันทเจตสิกเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยแล้ว ก็ยังมีวิริยเจตสิก และชวนจิต ๕๒ ดวง และวิมังสะ คือ ปัญญาเจตสิกอีกหนึ่ง รวมเป็นสภาพธรรมที่จะเป็นสหชาตาธิปติปัจจัยได้ มี ๔ คือ เจตสิก ๓ ได้แก่ ฉันทเจตสิก ๑ วิริยเจตสิก ๑ ปัญญาเจตสิก ๑ และชวนจิต ๕๒ ดวง
ท่านผู้ฟังบางท่านซึ่งเพิ่งจะรับฟัง ก็อาจจะสงสัยว่า “ชวนจิต” คืออะไร
“ชวนะ” โดยศัพท์หมายความถึง แล่นหรือเร็ว ที่ภาษาไทยใช้คำว่า เชาวน์ ความไว การแล่นไปโดยรวดเร็ว ซึ่งท่านผู้ฟังก็คงจะคิดว่าจิตจะแล่นได้หรือ เพราะเหตุว่าจิตทุกดวงเกิด – ดับ เกิดดับ มีอายุเท่ากันทุกดวง คือ อุปาทขณะ ขณะที่เกิดขึ้น ฐีติขณะ ขณะที่ตั้งอยู่ และภังคขณะ ขณะที่ดับไป จิตทุกดวงมีอายุเท่ากัน คือ แบ่งเป็นอนุขณะ ๓ ขณะ แต่ว่าสำหรับจิตอื่น เช่น จักขุวิญญาณที่เห็น เกิดขึ้นขณะเดียวแล้วดับ ไม่สามารถที่จะแล่นไปในอารมณ์โดยเกิด ดับสืบต่อซ้ำกันได้หลายขณะ เท่ากับจิตประเภทที่เป็นชวนจิต
เพราะฉะนั้นคำว่า “ชวนจิต” ไม่ได้เป็นจิตอื่นต่างจากขณะที่เป็นโลภะ โทสะ โมหะ คือ เป็นกุศลจิตบ้าง เป็นอกุศลจิตบ้างในวันหนึ่ง ๆ