ความทุกข์ในชีวิตมาจากกิเลส
อยากจะมีความสุขในครอบครัว ในชีวิต ก็จะต้องรู้ก่อน พิจารณาก่อนว่า ความทุกข์ในครอบครัว ในชีวิติมาจากไหน ถ้ายังไม่รู้แหล่งจริงๆ ว่า มาจากอกุศล มาจากกิเลสเราก็แก้ไม่ได้ แต่ทั้งๆ ที่เรารู้ว่า กิเลสเป็นเหตุที่ทำให้เราเกิดทุกข์ แล้วเราก็ไม่เคยคิดที่อยากจะให้กิเลสนั้นค่อยๆ บางลงไป หรือว่าเบาลงไป หรือว่ามีกุศลเพิ่มขึ้น ถ้าเราไม่คิดอย่างนี้ แล้วเราจะไปแก้ตรงอื่น แก้ไม่ตรงจุด
เพราะฉะนั้น ถ้าเราเพียงแต่รู้ว่า อกุศลหรือความทุกข์ทั้งหลาย เป็นเหตุของความไม่สบาย แล้วเราก็ค่อยๆ เรียนค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ พิจารณาไปว่า สภาพธรรมทั้งหลายบังคับบัญชาได้ไหม แล้วก็เกิดจากเหตุปัจจัยจริงหรือเปล่า ก็จะทำให้เราไม่ต้องคิดว่า ไปไม่ถึงนิพพานเพราะเหตุว่า เพียงขั้นฟังขั้นนี้ไม่มีใครไปนิพพานได้ แต่ว่าอย่างน้อยที่สุด การฟังทำให้เราเกิดความเข้าใจในสิ่งที่เราไม่เคยฟังมาก่อน แม้ว่าจะมากหรือจะน้อยก็คุ้มค่ากับการได้ฟัง เพราะเหตุว่าการเข้าใจมีนิดหนึ่ง ยังไม่ต้องไปถึงนิพพานเลย ไม่ได้ชักชวนใครที่นี่ให้ไปถึงนิพพาน เพียงแต่ให้เข้าใจถูกว่า พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นเรื่องสภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วคนที่ฟังยังดับกิเลสไม่ได้ แต่ว่ามีโอกาสที่จะเข้าใจพระธรรมขึ้นและเมื่อมีปัญญาเพิ่มขึ้น อกุศลจะค่อยๆ ละคลายไปเอง แต่ถ้าใครก็ตามที่ไม่มีปัญญาแล้วพยายามที่จะไปกัน ไปห้าม ไปดับอกุศล เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
