วิริยเจตสิก มีอุตสาหะ เป็นลักษณะ


    สำหรับลักษณะของวิริยเจตสิก ใน อัฏฐสาลินี ซึ่งเป็น อรรถกถาคัมภีร์ ธรรมสังคณี มีข้อความว่า

    วิริยเจตสิก มีอุตสาหะ เป็นลักษณะ

    มีการอุปถัมภ์สหชาตธรรมทั้งหลาย เป็นรสะ (เป็นหน้าที่)

    มีความไม่ท้อแท้ เป็นปัจจุปัฏฐาน (เป็นอาการที่ปรากฏ)

    มีความสลดใจ เป็นปทัฏฐาน (เป็นเหตุใกล้)

    ในขณะที่ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นวิริยะแล้ว ไม่ใช่ความท้อแท้ใจ ถ้าเป็นความท้อแท้ใจก็ไม่ระลึก จะระลึกทำไม นาม รูป กาย เวทนา จิต ธรรม เพราะฉะนั้น บางท่านที่ไปพากเพียรจงใจด้วยความเป็นอัตตา เมื่อไม่ได้ผลสมดังความปรารถนา ไม่รู้ลักษณะของนามและรูป แต่ไปหวังที่จะประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไป เมื่อไม่ได้ประจักษ์ก็เกิดความท้อแท้ขึ้น จะเป็นสัมมาวายามะ จะเป็นอาตาปีได้ไหม ก็ไม่ได้ เพราะว่าลักษณะของวิริยะที่เป็นไปในกุศล มีความไม่ท้อแท้ใจเป็นปัจจุปัฏฐาน เป็นอาการที่ปรากฏ

    ถึงแม้ว่าทางดำเนินมัชฌิมาปฏิปทาที่จะให้รู้ชัดในสภาพธรรม เพื่อการรู้แจ้งอริยสัจธรรมนั้น จะเป็นทางที่ไกลมาก สติระลึกรู้นามและรูปจนทั่ว เพื่อละความไม่รู้ทีละเล็กทีละน้อยจริงๆ ไม่ใช่ยังเก็บความไม่รู้ไว้ แล้วเพิ่มตัณหาความต้องการเข้าไปอีกสำหรับที่จะทำให้รู้ขึ้น โดยวิธีนั้นจะไม่ทำให้รู้อะไรเลย แต่ถ้าสติระลึกรู้ลักษณะของนามว่าเป็นนาม ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์บุคคล ระลึกรู้ลักษณะของรูปว่าเป็นรูป ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์บุคคล ในขณะนั้นก็ไม่ท้อแท้ที่จะระลึกและดำเนินหนทางมัชฌิมาปฏิปทา

    สำหรับปทัฏฐาน คือ เหตุใกล้ให้เกิดนั้น มีความสลดใจเป็นปทัฏฐาน ซึ่งข้อนี้พระบาลีแสดงว่า

    ผู้มีความสลดใจ ย่อมเริ่มตั้งความเพียรโดยปัญญา นัยหนึ่ง

    อีกนัยหนึ่งนั้น หรือมีธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งการปรารภความเพียร เป็นปทัฏฐาน

    มีนาม มีรูป ที่เกิดขึ้นปรากฏทำให้สติระลึก ความเพียรก็ทำให้ระลึกบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อการที่จะรู้ชัดในสภาพธรรมที่ปรากฏ

    สำหรับพยัญชนะที่ท่านได้ยินบ่อยๆ ใน โพธิปักขิยธรรม คือ สัมมัปธาน ๔ ใน วิภังคปกรณ์ ก็มีข้อความเรื่อง สัมมัปธาน ๔

    สัมมัปธาน ๔ นั้น ได้แก่

    สังวรปธาน เพียรป้องกันบาปอกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้น มิให้เกิดขึ้น

    ปหานปธาน เพียรละบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว

    ภาวนาปธาน เพียรเจริญกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เกิดขึ้น

    อนุรักขณาปธาน เพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ให้เสื่อม

    นี่เป็นกิจของวิริยะ ซึ่งเป็นไปพร้อมกันในขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของนามและรูป กาย เวทนา จิต ธรรม

    สำหรับสังวรปธาน กิจที่ ๑ เพียรป้องกันบาปอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นมิให้เกิดขึ้น

    ในขณะนี้สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ คือ ความเพียรที่จะไม่ให้อกุศลที่ยังไม่เกิดได้เกิดขึ้น เพราะเหตุว่าถ้าไม่เพียรอย่างนี้ อกุศลก็ย่อมเกิดเรื่อยๆ ถ้าสติไม่ระลึกรู้ว่าเป็นนามธรรมเป็นรูปธรรม ก็ไม่หมดกิเลส เพราะฉะนั้น การที่วิริยะเกิดขึ้นร่วมกับสติ เพียรระลึกรู้ว่า สภาพนั้นเป็นแต่เพียงนามธรรม เป็นแต่เพียงรูปธรรม ความเพียรในขณะนั้นทำกิจป้องกันอกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นมิให้เกิดขึ้น [แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 149]


    หมายเลข 13969
    1 ก.ย. 2568