การภาวนาดีอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นไหม

 
บ้านธัมมะ
วันที่  21 ธ.ค. 2550
หมายเลข  6521
อ่าน  3,991

ถาม ขอเรียนถามท่านอาจารย์ว่า ทุกวันนี้ คนเราบางคนไปภาวนาที่วัด ก็ถูกคนอื่นตำหนิว่า เป็นคนคร่ำครึโบราณ มัวแต่นั่งหลับหูหลับตาอยู่นั้นแหละ จะเอาอะไรมากิน ไม่ทันเขาแล้ว ผมอยากจะทราบว่า การภาวนาดีอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นไหมครับสำหรับชาวพุทธอย่างเรา

ตอบ เรื่องภาวนา ถ้าไม่เข้าใจความหมายของคำนี้จริงๆ ก็จะไม่หายสงสัยได้เลย ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ภาวนา คือ การอบรมให้เกิดขึ้น ให้มากขึ้น ให้เจริญขึ้น เช่น "ปัญญา" ทุกคนมีหรือยัง? ปัญญาที่รู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มีหรือยัง? ถ้าปัญญาอย่างนี้ไม่มี ก็ยังไม่ประจักษ์แจ้งอริยสัจจธรรม การอบรมเจริญปัญญาอย่างนี้ให้เกิดขึ้นเป็นวิปัสสนาภาวนา เพราะเป็นการอบรมเจริญปัญญา ให้รู้แจ้งสภาพธรรมที่ปรากฏในขณะนี้ ซึ่งเกิดขึ้นและดับไปไม่เที่ยง ไม่ใช่ต้องรอจนแก่ เจ็บ ตาย จึงจะเห็นความไม่เที่ยง

พระผู้มีพระภาคฯ ทรงตรัสรู้สัจจธรรมของสภาพธรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้น แล้วก็ดับไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การที่ผู้ใดจะประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมในขณะนี้ได้ ก็ต้องอบรมเจริญปัญญา ตั้งแต่ขั้นฟังเรื่องสิ่งที่กำลังปรากฏ จนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้น และสติจะเริ่มระลึกศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จนกว่าจะประจักษ์การเกิดดับของสภาพธรรมนั้น นั่นคือ วิปัสสนาภาวนา

ถ้ายังไม่เข้าใจว่า ภาวนาคืออะไร และไม่รู้ว่าภาวนามีกี่อย่าง ก็จะไม่รู้ว่าที่กำลังทำๆ กันอย่างนั้น ถูกหรือผิด คนคร่ำครึ คือคนที่ไม่รู้ แต่คนที่รู้ไม่เป็นอย่างนั้น ไม่ว่ากี่กัปป์มาแล้ว ไม่ว่าสมัยก่อนหรือสมัยนี้หรือสมัยต่อไปก็ตาม เมื่อมีปัญญาแล้วจะกล่าวว่าคร่ำครึได้ไหม? พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวกคร่ำครึหรือเปล่า? ฉะนั้น เรื่องคร่ำครึหรือไม่คร่ำครึก็ตัดไปได้ เพราะเป็นความคิดเห็นของแต่ละบุคคล

ข้อสำคัญก็คือ พระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สอนให้อบรมเจริญปัญญา รู้สภาพธรรมทุกอย่างในชีวิตประจำวันตามปกติ ตามความเป็นจริง เพราะทุกคนเกิดมาด้วยความไม่รู้ ถ้าไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงตรัสรู้และทรงแสดงธรรม ทุกคนก็ยังคงไม่รู้แม้ว่าจิตเห็นก็เกิดดับ ไม่เที่ยง จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตคิดนึก สุข ทุกข์ ในวันหนึ่งๆ เกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เกิดจนตาย

เมื่อเข้าใจแล้วว่า วิปัสสนาภาวนา เป็นการอบรมเจริญปัญญา รู้สภาพธรรมที่ปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง ก็จะวินิจฉัยได้ด้วยตนเองว่า ปฏิบัติอย่างไรถูก อย่างไรผิด การอบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมที่ปรากฏตามปกตินั้น ไม่ใช่การนั่งหลับหู หลับตา สำหรับดิฉันเองขอเรียนให้ทราบว่า จะไม่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพียงได้รับคำชักชวนหรือคำบอกเล่าให้ทำอย่างนั้นๆ โดยยังไม่เข้าใจเหตุและผล การศึกษาพระธรรมจะทำให้ไม่คร่ำครึและสามารถเข้าใจเหตุผลได้ถูกต้องตามความเป็นจริง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 22 ก.ค. 2551

การศึกษาพระธรรมจะทำให้ไม่คร่ำครึ

และสามารถเข้าใจเหตุผลได้ถูกต้องตามความเป็นจริง

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาท่านอาจารย์ค่ะ

ขออนุโมทนาบ้านธัมมะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 23 ก.ค. 2551
สาธุ
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Komsan
วันที่ 3 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
คุณ
วันที่ 5 ส.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 22 เม.ย. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ