พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๐. อุจฉุวิมาน ว่าด้วยอุจฉุวิมาน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  16 พ.ย. 2564
หมายเลข  40298
อ่าน  316

[เล่มที่ 48] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 390

๑. อิตถิวิมานวัตถุ

มัญชิฏฐกวรรคที่ ๔

๑๐. อุจฉุวิมาน

ว่าด้วยอุจฉุวิมาน


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 48]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 390

๑๐. อุจฉุวิมาน

ว่าด้วยอุจฉุวิมาน

พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า

[๔๘] ท่านส่องสว่างตลอดปฐพี เหมือนดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ รุ่งโรจน์ล้ำโลกพร้อมทั้งเทวโลก ด้วยสิริ วรรณะ ยศ และเดช เหมือนดังท้าวมหาพรหมรุ่งโรจน์ล้ำทวยเทพชั้นไตรทศพร้อมทั้งองค์อินทร์ ดูราเทพธิดาผู้เลอโฉม ทัดทรงมาลัยดอกอุบล มีดอกไม้กรองบนศีรษะ มีผิวพรรณผุดผ่อง ดังทองประดับองค์ทรงภูษาอันสูงสุด. อาตมาถามท่าน ท่านเป็นใครมาไหว้อาตมา เมื่อก่อนท่านได้ทำกรรมอะไรไว้ด้วยตน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ท่านสั่งสมทานหรือรักษาศีล เพราะบุญอะไร ท่านจึงเข้าถึงสุคติ มียศ (อิสริยะ, เกียรติ, บริวาร).

ดูราเทพธิดา ท่านถูกอาตมาถามแล้ว ขอท่านโปรดบอกทีเถิด นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร.

เทพธิดานั้นตอบว่า

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ปัจจุบันพระคุณเจ้าเข้าไปบิณฑบาตยังบ้านตำบลนี้นี่แหละ มาถึงเรือนของพวกดีฉัน ขณะนั้นดีฉันมีจิตเลื่อมใส เปี่ยมด้วยปีติ ไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า แต่ภายหลังแม่ผัวมาซักถามดีฉันว่า อีใจร้าย เจ้า

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 391

เอาอ้อยไปไว้ที่ไหน ดีฉันตอบว่า ฉันไม่ได้ทิ้งและไม่ได้รับประทาน ฉันเองได้ถวายแด่ภิกษุผู้สงบ แม่ผัวผู้นั้นได้บริภาษดีฉันว่า อ้อยนี้ของเจ้าหรือ ที่แท้ข้าเป็นเจ้าของดังนี้แล้ว นางคว้าก้อนดินทุ่มดีฉัน ดีฉันก็ตาย จุติจากมนุษยโลกนั้นแล้วมาเป็นเทวดา ดีฉันได้กระทำกุศลกรรมนั่นแหละ จึงได้เสวยความสุขด้วยตน ได้ร่วมบำรุงบำเรออยู่กับเทวดาทั้งหลาย และบันเทิงใจอยู่ด้วยกามคุณห้า ดีฉันได้กระทำกุศลกรรมนั่นแหละ จึงได้เสวยความสุขด้วยตน มีท้าวสักกะจอมเทพคุ้มครอง มีทวยเทพชั้นไตรทศรักษา เพรียบพร้อมไปด้วยกามคุณห้า ผลบุญเช่นนี้มิใช่น้อย การถวายอ้อยของดีฉันมีผลมาก ดีฉันได้ร่วมบำรุงบำเรออยู่กับเทวดาทั้งหลาย และบันเทิงใจอยู่ด้วยกามคุณห้า ผลบุญเช่นนี้มิใช่น้อย การถวายอ้อยของดีฉันมีผลรุ่งเรืองมาก ดีฉันมีท้าวสักกะจอมเทพคุ้มครอง มีทวยเทพชั้นไตรทศรักษา เพียงดังว่า ท้าวสหัสนัยน์ในสวนนันทนวัน ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีฉันสำนึกถึงพระคุณเจ้าผู้อนุเคราะห์จึงเข้ามาถวาย นมัสการและบอกกล่าวถึงกรรมที่เป็นกุศล ขณะนั้นดีฉันมีจิตเลื่อมใส เปี่ยมด้วยปีติ ไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า ดังนี้.

จบอุจฉุวิมาน

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 392

อรรถกถาอุจฉุวิมาน

อุจฉุวิมาน มีคาถาว่า โอภาสยิตฺวา ปวึ สเทวกํ เป็นต้น. อุจฉุวิมาน นั้น เช่นเดียวกับวิมานอ้อยในหนหลัง ทั้งโดยพระบาลีและโดยเหตุเกิดเรื่องนั่นเอง.

ในเรื่องนั้น แม่ผัวใช้ตั่งอย่างเดียวตีลูกสะใภ้ตาย แต่ในเรื่องนี้ ใช้ก้อนดิน ความต่างกันดังนี้เท่านั้น. แต่เพราะวัตถุ (ที่ใช้ประหาร) ต่างกัน ทั้งสองเรื่องจึงขึ้นสู่สังคายนาแยกกัน บัณฑิตพึงทราบดังนี้.

ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า

ท่านส่องสว่างตลอดปฐพี เหมือนดวงจันทร์และดวงอาทิตย์รุ่งโรจน์ล้ำโลกพร้อมทั้งเทวโลกด้วยสิริ วรรณะ ยศและเดช เหมือนดังท้าวมหาพรหม รุ่งโรจน์ล้ำทวยเทพชั้นไตรทศพร้อมทั้งองค์อินทร์ ดูราเทพธิดาผู้เลอโฉม ทัดทรงมาลัยดอกอุบล มีดอกไม้กรองบนศีรษะ มีผิวพรรณผุดผ่องดังทอง ประดับองค์ทรงภูษาอันสูงสุด อาตมาขอถามท่าน ท่านเป็นใคร มาไหว้อาตมา เมื่อก่อนท่านได้ทำกรรมอะไรไว้ด้วยตน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ท่านสั่งสมทานหรือรักษาศีล เพราะบุญอะไร ท่านจึงเข้าถึงสุคติ มียศ [อิสริยะ, เกียรติ, บริวาร] ดูรา เทวดา ท่านถูกอาตมาถามแล้ว ขอท่านโปรดบอกทีเถิด นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร.

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 393

ลำดับนั้น เทวดาได้กล่าวตอบด้วยคาถาเหล่านี้ว่า

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ปัจจุบันพระคุณเจ้าเข้าไปบิณฑบาตยังบ้านตำบลนี้นี่แหละ มาจนถึงเรือนของพวกดีฉัน ขณะนั้น ดีฉันมีจิตใจเลื่อมใส เปี่ยมด้วยปีติไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า แต่ภายหลัง แม่ผัวมาซักถามดีฉันว่า อีใจร้าย เจ้าเอาอ้อยไปไว้ที่ไหน ดีฉันตอบว่า ฉันไม่ได้ทิ้งและมิได้รับประทาน ฉันเองได้ถวายแด่ภิกษุผู้สงบ แม่ผัวผู้นั้นได้บริภาษดีฉันว่า อ้อยนี้ของเจ้าหรือ ที่แท้ข้าเป็นเจ้าของ ดังนี้แล้ว นางคว้าก้อนดินทุ่มดีฉัน ดีฉันก็ตาย จุติจากมนุษยโลกนั้น แล้วมาเป็นเทวดา ดีฉันได้กระทำกุศลกรรมนั้นแหละ จึงได้เสวยความสุขด้วยตน ได้ร่วมบำรุงบำเรออยู่กับเทวดาทั้งหลาย และบันเทิงใจอยู่ด้วยกามคุณห้า ดีฉันได้กระทำกุศลกรรมนั่นแหละ จึงได้เสวยความสุขด้วยตน มีท้าวสักกะจอมเทพคุ้มครอง มีทวยเทพชั้นไตรทศรักษา เพรียบพร้อมไปด้วยกามคุณห้า ผลบุญเช่นนี้มิใช่น้อย การถวายอ้อยของดีฉันมีผลมาก ดีฉันได้ร่วมบำรุงบำเรออยู่กับเทพดาทั้งหลาย และบันเทิงใจอยู่ด้วยกามคุณห้า ผลบุญเช่นนี้มิใช่ น้อย การถวายอ้อยของดีฉันมีผลรุ่งเรืองมาก ดีฉันมีท้าวสักกะจอมเทพคุ้มครอง มีทวยเทพชั้นไตรทศ

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 26 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้า 394

รักษา เพียงดังว่าท้าวสหัสนัยน์ในสวนนันทนวัน ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดีฉันสำนึกถึงพระคุณเจ้าผู้อนุเคราะห์ จึงเข้ามาถวายนมัสการ และบอกกล่าวถึงกรรมที่เป็น กุศล ขณะนั้นดีฉันมีจิตเลื่อมใส เปี่ยมด้วยปีติ ไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า ดังนี้. คำที่เหลือก็เช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วนั่นเองแล.

จบอรรถกถาอุจฉุวิมาน