ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๐๑๒

 
khampan.a
วันที่  21 ส.ค. 2554
หมายเลข  19538
อ่าน  2,530

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมในแต่ละครั้งรวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

[ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๒]

[1] ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็ไม่พ้น เพราะสัตว์โลกถูกความตายครอบงำไว้ ตายแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง การเป็นคนดีและฟังพระธรรมให้เข้าใจ สำคัญที่สุด

[2] กุศลไม่ใช่มีเฉพาะทานอย่างเดียว โดยมากคนมักคิดว่า กุศล ได้แก่ ทาน คือ การให้วัตถุที่เป็นประโยชน์แก่ผู้รับ คิดเท่านี้ ว่า เป็นกุศล แต่ลืมกุศลประการอื่น แม้ไม่มีเงินทอง ก็สามารถที่จะกระทำได้ เช่น มีความรู้สึกเป็นมิตรไมตรีกับบุคคลอื่น มีคำพูดที่อ่อนหวานด้วยใจจริง ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ไม่ดูถูก ไม่ดูหมิ่น ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ในขณะนั้นก็เป็นกุศล หรือ แม้กระทั่งในขณะที่ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ ก็เป็นกุศลแล้ว และเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา อีกด้วย

[3] ในขณะใดที่โทสะเกิด เพราะโกรธคนอื่น ขณะนั้น ไม่สงบ ในทางตรงกันข้าม ถ้าขณะนั้นพิจารณาบุคคลอื่นในแง่ที่จะทำให้เกิดเมตตา ก็ย่อมจะสงบ สงบทันที เพราะในขณะที่มีเมตตานั้น ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ ไม่ต้องไปเสียเวลารอคอยเลย ทันทีที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้นสงบ

[4] ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม เริ่มตั้งแต่หลังจากทรงตรัสรู้ใหม่ๆ ตราบจนกระทั่งจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ผู้ที่เป็นพุทธบริษัท ก็ติดตามฟังเรื่องของสภาพธรรม ก็เพียงเพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือ เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมี กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่นเลย

[5] ถ้ารักตัวเองแล้ว จะกระทำกุศลกรรมทำไม?

[6] เลวลง คือ มีกิเลสเพิ่มขึ้น

[7] (เราคิดว่า) เขาชังเรา แต่เราไม่ชังเขาได้ไหม? สำคัญที่เรา ไม่ใช่สำคัญที่เขา กุศลเป็นประโยชน์ อกุศลเป็นโทษ

[8] ขณะที่โกรธคนอื่นนั้น ความโกรธอยู่ที่ใคร ไม่ได้อยู่ที่คนอื่นเลย อยู่ที่ตัวเราเองเท่านั้น จะหอบไปเยอะๆ หรือจะละคลาย?

[9] สำหรับผู้มีปัญญา ท่านจะพิจารณาชีวิตของตนเองในชาติหนึ่งๆ ได้ว่า ทุกสถานการณ์ ต้องมีความอดทนอย่างมาก อดทนที่จะไม่เศร้าโศก อดทนที่จะไม่ขุ่นเคืองใจ อดทนที่จะไม่เสียใจ ไม่น้อยใจในการกระทำในคำพูดของบุคคลอื่นในทุกสถานการณ์

[10] ฟังธรรมให้เข้าใจว่าเป็นธรรม เพื่อละคลายความไม่รู้ เพื่อละคลายการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล

[11] ถ้ามีปัญญามากขึ้น ก็จะทำให้มีความดีมากขึ้น เสียสละมากขึ้น แล้วในที่สุดก็จะสามารถสละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคลได้

[12] การเคารพบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสูงสุด คือ การฟังพระธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาเพื่อทรงตรัสรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วทรงอนุเคราะห์ให้พุทธบริษัทได้เข้าใจถูกเห็นถูกด้วย ดังนั้น ผู้ที่เคารพบูชาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมจะเป็นผู้ไม่ประมาทในพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง

[13] การได้ฟังพระธรรม เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ประเสริฐกว่าการได้ลาภใดๆ ทั้งสิ้น เพราะลาภอื่น ทำให้เกิดความติดข้องยินดีพอใจ แต่ลาภ คือ การได้ฟังพระธรรม นี้ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูก

[14] ถ้าเริ่มฟังจริงๆ ตั้งใจฟังจริงๆ ไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจ

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ ๑๑ ได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๑

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Noparat
วันที่ 21 ส.ค. 2554

ขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 21 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอาจารย์คำปั่นมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
paderm
วันที่ 21 ส.ค. 2554

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในธรรมทานของอาจารย์คำปั่นคัรบ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 21 ส.ค. 2554

สำหรับผู้มีปัญญา ท่านจะพิจารณาชีวิตของตนเองในชาติหนึ่งๆ ได้ว่า ทุกสถานการณ์ ต้องมีความอดทนอย่างมาก อดทนที่จะไม่เศร้าโศก อดทนที่จะไม่ขุ่นเคืองใจ อดทนที่จะไม่เสียใจ ไม่น้อยใจในการกระทำในคำพูดของบุคคลอื่นในทุกสถานการณ์

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิต อ.คำปั่น

ที่ได้ปัญญ์ธรรมที่มีค่ายิ่ง ณ. กาลครั้งหนึ่งในสังสารวัฏฏ์ที่หาได้ยาก ที่ได้กัลยาณมิตรที่คอยเกื้อกูลกันในทางธรรม เพื่อความเข้าใจธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
bsomsuda
วันที่ 21 ส.ค. 2554

"การได้ฟังพระธรรม เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด ประเสริฐกว่าการได้ลาภใดๆ ทั้งสิ้น เพราะลาภอื่น ทำให้เกิดความติดข้องยินดีพอใจ แต่ลาภ คือ การได้ฟังพระธรรม นี้ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูก"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nong
วันที่ 22 ส.ค. 2554

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 22 ส.ค. 2554
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณคำปั่นครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 22 ส.ค. 2554

ถ้ามีปัญญามากขึ้น ก็จะทำให้มีความดีมากขึ้น เสียสละมากขึ้น แล้วในที่สุดก็จะสามารถสละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคลได้

ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Sam
วันที่ 22 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
pat_jesty
วันที่ 22 ส.ค. 2554
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
aurasa
วันที่ 22 ส.ค. 2554

ถ้าเริ่มฟังจริงๆ ตั้งใจฟังจริงๆ ไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

พระธรรม .. เมื่อยิ่งฟัง ยิ่งไพเราะ เพราะเป็นความจริงที่ทรงตรัสรู้ ความปิติเกิดบ่อยมาก .. เมื่อได้ฟังแล้วพิจารณาตามจริงๆ ค่ะ ขอถึงซึ่งพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอย่างสูงสุด

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
orawan.c
วันที่ 23 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
fam
วันที่ 23 ส.ค. 2554
เป็นข้อความที่ไพเราะที่สุด ขออนุโมทนาบุญค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
raynu.p
วันที่ 23 ส.ค. 2554
กราบอนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Jans
วันที่ 24 ส.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาคะ
 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
jaturong
วันที่ 6 ต.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
kullawat
วันที่ 19 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
chatchai.k
วันที่ 30 ต.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ