ปกตูปนิสสยปัจจัย....กุศล เป็นปกตูปนิสยปัจจัยให้เกิด อกุศล
โดย พุทธรักษา  4 ต.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 10066

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากการถอดเทป การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ณ ตึกสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
สำหรับ กุศล เป็นปัจจัยให้เกิด กุศล คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะทราบว่า การที่จะให้กุศลเพิ่มพูนขึ้นได้ก็จะต้องอบรมเจริญกุศล จนเป็นปกติจนเป็นสภาพธรรมที่มีกำลังสามารถที่จะทำให้กุศลต่อๆ ไปเกิดขึ้นเจริญขึ้นได้ และเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศล เช่น โลภเจตสิก สามารถพอใจในทุกสิ่งทุกอย่างได้หรือ มานเจตสิก ความสำคัญตนก็สามารถที่จะเกิดขึ้นเพราะชาติสกุล ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติหรือวิชาความรู้ก็ได้

เพราะฉะนั้น การอบรมเจริญสติปัฏฐาน จะทำให้รู้ลักษณะของจิตจริงๆ ว่า ขณะใดอกุศลเกิดคั่นกุศล บ้าง
สำหรับกุศล เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศลนั้น ก็เพราะเหตุว่า อกุศลยังไม่ได้ดับไป เพราะฉะนั้น บางท่านเป็นผู้ที่มีสัทธาในพระศาสนามีการศึกษาพระธรรม มีความรู้ในพระธรรมที่ได้ศึกษา

แต่ว่า เกิดมานะ คือความสำคัญตน เพราะ กุศล เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศล บางท่าน คิดว่าท่านเข้าใจพระธรรมแจ่มแจ้งดีกว่าบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าจะเป็นความจริงก็ไม่ควรจะให้เกิดความสำคัญตนขึ้น ไม่ควรที่จะให้เกิดการยกตนด้วยโลภะ หรือข่มบุคคลอื่นด้วยโทสะ นั่นคือลักษณะของมานะ

ไม่ว่าจะเป็นกุศลประเภทหนึ่งประเภทใดก็ตาม เช่น การให้ทาน เมื่อให้แล้วบางท่านก็อาจจะยกตนด้วยโลภะเมื่อพูดถึงทานกุศลที่ตนได้กระทำแล้ว เช่น เป็นกุศลที่ประณีต เป็นกุศลที่คนอื่นยากที่จะทำได้ ในขณะใดก็ตาม ที่มีการยกตนให้ทราบว่า ในขณะนั้นเป็นเพราะโลภะโดยการมีสัทธาและกุศลนั่นเองเป็นปกตูปนิสสยปัจจัย หรือในขณะที่ข่มบุคคลอื่น ขอให้สังเกตลักษณะของจิตในเวลาที่กำลังข่มบุคคลอื่น ถ้าเป็นคนที่มีเมตตาต่อบุคคลอื่น จะข่มบุคคลอื่นไม่ได้เลย ไม่ว่าด้วยการทำกุศลใดๆ หรือไม่ว่าด้วยสัทธาของตนหรือด้วยสติปัญญาของตนก็ตาม แต่ขณะใดก็ตามที่มีการข่มบุคคลอื่น แสดงว่าตนเองรู้มากกว่าและบุคคลอื่นรู้น้อยกว่า ในขณะนั้นให้ทราบว่าแม้กุศลนั้นเองก็เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยที่ทำให้เกิดอกุศล เช่น ความสำคัญตน เกิดมานะขึ้นได้


ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่ และสรรพสัตว์



ความคิดเห็น 1    โดย suwit02  วันที่ 5 ต.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 2    โดย ajarnkruo  วันที่ 5 ต.ค. 2551

ยิ่งศึกษายิ่งเข้าใจ ยิ่งเกิดปัญญา ยิ่งปัญญาเกิดก็จะยิ่งรู้ว่าอกุศลนั้นละเอียดแค่ไหน อกุศลสามารถอาศัยปัจจัยเกิดได้จากกุศลที่เกิดแล้วดับไป

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 5 ต.ค. 2551

ยิ่งศึกษาปัจจัยโดยเฉพาะปกตูปนิสสยปัจจัย กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอกุศล ทำให้เห็นกิเลสของตนเองยังมีอีกมาก ไม่ว่า โลภะ มานะ

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย SIRICHAI  วันที่ 6 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

บัณฑิตกล่าว สติปัฏฐานเป็นการบูชาที่ประเสริฐสุด

ข้าพเจ้าขอบูชาสิ่งที่ประเสริฐสุดนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า

ขอบพระคุณที่ได้ให้ความรู้ครับ

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย vjai  วันที่ 8 ต.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 6    โดย จำแนกไว้ดีจ๊ะ  วันที่ 15 ต.ค. 2551

ขณะปิติก็ด่าใครไม่ได้


ความคิดเห็น 7    โดย Sam  วันที่ 16 ต.ค. 2551

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ฯ

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ


ความคิดเห็น 8    โดย ไม่มีเรา  วันที่ 16 ต.ค. 2551

ขอกราบอนุโมทนาท่าน อ.สุจินต์ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย happyindy  วันที่ 16 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย pamali  วันที่ 5 ก.ค. 2553
กราบอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านอ. สุจินต์ และทุกๆ ท่านค่ะ

ความคิดเห็น 11    โดย chatchai.k  วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ