กิเลสเพิ่มพูน ...
โดย ธรรมทัศนะ  15 มิ.ย. 2568
หัวข้อหมายเลข 50183


การเพิ่มพูนกิเลสนั้น เป็นไปอย่างบางเบา จนกระทั่งวันหนึ่งๆ ท่านไม่รู้สึกตัวเลยว่า วันนี้กิเลสหนาขึ้นเท่าไร เห็นครั้งหนึ่ง จักขุวิญญาณเกิดขึ้นขณะเดียวแล้วดับไป แต่โลภชวนจิตเกิดถึง ๗ ครั้ง โทสมูลจิตก็เกิดถึง ๗ ครั้ง โมหมูลจิตก็เกิดซ้ำสืบต่อกันถึง ๗ ครั้ง เป็น ๗ เท่าของการเห็นขณะหนึ่ง การได้ยินขณะหนึ่ง เป็นต้น


สังยุตตนิกาย สคาถวรรค รัชชสูตร ที่ ๑๐ (ข้อความบางตอน)

พระผู้มีพระภาคตรัสกับมารด้วยพระคาถาว่า

ภูเขาทองคำล้วนมีสีสุกถึงสองเท่า ก็ยังไม่พอแก่บุคคลคนหนึ่ง บุคคลทราบดังนี้แล้ว พึงประพฤติสงบ ผู้ใดได้เห็นทุกข์ มีกามเป็นเหตุแล้ว ไฉนผู้นั้นจะพึงน้อมใจไปในกามเล่า บุคคลทราบอุปธิว่า เป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว พึงศึกษา เพื่อกำจัดอุปธินั้นเสีย

ข้อความที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภูเขาทองคำล้วนมีสีสุกถึงสองเท่า ก็ยังไม่พอแก่บุคคลคนหนึ่ง ท่านพอไหม ภูเขาทองคำมีสีสุกถึงสองเท่า ไม่ใช่เขาเพียงลูกเดียว ก็ยังไม่พอแก่บุคคลคนหนึ่งผู้ที่มีความโลภ และสะสมความพอใจในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในโผฏฐัพพะ สังเกตดูได้ว่า ความปรารถนาของท่านอาจจะไม่มากถึงภูเขาทองคำมีสีสุกในวันนี้ แต่ว่าเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย เรื่อยๆ ไป หรือว่าน้อยลงไปทีละเล็กทีละน้อย ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ

การเพิ่มพูนกิเลสนั้น เป็นไปอย่างบางเบา จนกระทั่งวันหนึ่งๆ ท่านไม่รู้สึกตัวเลยว่า วันนี้กิเลสหนาขึ้นเท่าไร เห็นครั้งหนึ่ง จักขุวิญญาณเกิดขึ้นขณะเดียวแล้วดับไป แต่โลภชวนจิตเกิดถึง ๗ ครั้ง โทสมูลจิตก็เกิดถึง ๗ ครั้ง โมหมูลจิตก็เกิดซ้ำสืบต่อกันถึง ๗ ครั้ง เป็น ๗ เท่าของการเห็นขณะหนึ่ง การได้ยินขณะหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งการเห็นในขณะนี้ปรากฏเหมือนกับว่าไม่ดับเลย แต่โลภะ โทสะ โมหะ เพิ่มเป็น ๗ เท่า แต่ไม่รู้สึกว่าโลภะ โทสะ โมหะที่เพิ่มขึ้นอย่างบางๆ ทีละเล็กทีละน้อยทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางกายบ้าง ทางใจบ้าง มากสักเท่าไรแล้ว ถ้าสติไม่เกิดขึ้น ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ [ตอนที่ 294]

รับฟัง ... รัชชสูตร