ทิฏฐิ กับ มานะ
โดย ผู้แสวงหา  1 ก.พ. 2556
หัวข้อหมายเลข 22427

ทิฏฐิ กับ มานะ หมายความว่าอย่างไร



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 1 ก.พ. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเข้าใจความหมายของคำว่า ทิฏฐิและมานะ ว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

ทิฏฐิ คือ ความเห็นผิด โดยทั่วไป เมื่อเป็นทิฏฐิเจตสิก จะหมายถึงความเห็นผิด ดังนั้น ขณะใด มีความเห็นที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง เช่น ขณะที่มีความคิดความเห็นว่าสภาพธรรมเที่ยง มีสัตว์ บุคคลจริงๆ ตายแล้วไม่เกิดอีก ขณะที่มีความเห็นความคิดเช่นนั้น ขณะนั้นเป็นโลภมูลจิตที่เกิดพร้อมกับความเห็นผิด มีความเห็นผิดที่เป็นทิฏฐิเจตสิกในขณะนั้นครับ พระโสดาบันดับทิฏฐิเจตสิก คือความเห็นผิดได้เป็นสมุจเฉท.

มานะ คือ ความสำคัญตน สำคัญกว่าดีกว่าเขา เสมอเขา ต่ำกว่าเขา ขณะที่เปรียบเทียบ มีการสำคัญตนเช่นนี้ ขณะนั้นมีมานะเจตสิกที่เกิดกับโลภมูลจิตครับ พระอรหันต์เท่านั้นที่สามารถดับมานได้จนหมดสิ้น เป็นสมุจเฉท. ส่วนในภาษาไทยที่เรามักใช้พูดกันว่า มีทิฏฐิมานะ หมายถึง ความไม่ยอม อันเป็นความสำคัญตนที่เป็นมานะ แต่ไม่ใช่ทิฏฐิที่เป็นความเห็นผิดครับ ดังนั้นคำว่าทิฏฐิ ในภาษาไทยที่ใช้กันกับในภาษาธรรมต่างกันครับ เพราะทิฏฐิในภาษาธรรม หมายถึง ความเห็นผิดครับ เมื่อใช้คำว่าทิฏฐิมานะร่วมกันในภาษาไทย ก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเกิดพร้อมกัน และเป็นสภาพธรรมเดียวกัน เมื่อได้เข้าใจความหมาย ก็จะเห็นว่าต่างกันครับ.

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...

ทิฏฐิและมานะ ต่างกันหรือไม่

ทิฏฐิกับมานะ


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 1 ก.พ. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทิฏฐิ โดยทั่วไปเป็นคำกลางๆ หมายถึง ความเห็น ขึ้นอยู่กับว่า จะเห็นถูก หรือ เห็นผิด ถ้าเห็นถูกก็เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญา แต่ถ้าเป็นความเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงแล้ว ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ ทิฏฐิที่เป็นอกุศล เป็นอันตรายมากทีเดียว

ถ้าความเห็นของแต่ละบุคคลคลาดเคลื่อนไป ผิดไป ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทุกอย่างก็จะผิดไปด้วย โดยที่สิ่งที่ผิด ก็จะเห็นว่าถูก สิ่งที่ถูกก็จะเห็นว่าผิด นี่แหละคือความเห็นผิดซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เป็นเหตุให้กระทำกุศลกรรมประการต่างๆ มากมาย เป็นไปเพื่อความเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลายโดยประการทั้งปวง ไม่เป็นประโยชน์ใดๆ เลยทั้งแก่ตนและแก่ผู้อื่น

ความเป็นจริงของสภาพธรรมไม่เคยเปลี่ยน เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ความเห็นผิด ก็เป็นความเห็นผิด ความเห็นถูกก็ต้องเป็นความเห็นถูก

มานะ ในทางโลกเข้าใจกันว่าเป็นความพยายามบากบั่นขยันหมั่นเพียร แต่ในทางธรรมแล้ว มานะ เป็นความสำคัญตน เป็นความทะนงตน ถือตน เป็นอกุศลธรรม เป็นธรรมที่มีจริง ขึ้นชื่อว่า อกุศลแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีโดยประการทั้งปวง ผู้ที่ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ มานะก็ยังมี แต่ว่าความหยาบ ความเบาบางก็แตกต่างกันออกไป ทำให้เห็นว่าอกุศลในชีวิตประจำวันมีมากจริงๆ แล้วแต่ว่าใครจะสะสมหนักมากไปในทางใด หรือว่า ใครจะสามารถขัดเกลาให้เบาบางลงได้ในแต่ละทาง สำหรับการขัดเกลามานะและอกุศลประการต่างๆ นั้น จะมีได้ก็ต้องอาศัยการเจริญกุศลประการต่างๆ สะสมสิ่งที่ดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นต้น พร้อมกับการอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 1 ก.พ. 2556

ความเห็นผิดมีโทษมากกว่า อกุศลที่เป็นความสำคัญตนว่า ตนเองเก่งกว่า ดีกว่า หรือเสมอเขา หรือต่ำกว่า พระโสดาบันละความเห็นผิดได้ แต่ยังละมานะไม่ได้ ท่านยังมีกิเลส ยังมีความสำคัญตนตามความเป็นจริงค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย j.jim  วันที่ 7 ก.พ. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย orawan.c  วันที่ 10 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย peem  วันที่ 18 ส.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 12 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ