ถ. คำว่ามรรค ผล เป็นสมมติบัญญัติ ส่วนปรมัตถ์ที่อริยบุคคลจะเห็นได้นั้น เห็นโดยวิธีไหน ขณะไหน เห็นในลักษณะอย่างไรที่อริยบุคคลจะรู้ได้ อริยบุคคลนั้นหมายถึงตรงไหน
สุ. ที่ว่าธรรมทั้งหมดเป็นสมมติบัญญัติทั้งนั้น เพราะเหตุว่าสติไม่ได้ระลึกรู้ในลักษณะของปรมัตถธรรม จึงกล่าวว่าเป็นสมมติบัญญัติ แต่ถ้าขณะนี้ สติระลึกรู้ลักษณะของปรมัตถธรรมที่กำลังเห็น เป็นของจริง สภาพธรรมที่มีจริง ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เป็นปรมัตถธรรม สีสันวัณณะที่กำลังปรากฏในขณะนี้เป็นของจริง เป็น ปรมัตถธรรม เสียงที่กำลังปรากฏเป็นของจริง เป็นปรมัตถธรรม สภาพที่ได้ยินเสียง ที่รู้เสียงในขณะนี้ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล เป็นปรมัตถธรรม
เพราะฉะนั้น ถ้าสติระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏให้รู้ได้แต่ละทางๆ ท่านจะรู้ในลักษณะที่เป็นปรมัตถ์ ไม่ใช่ว่ามีแต่บัญญัติเท่านั้น ลักษณะ ปรมัตถธรรมมี และบัญญัติ ใช้คำให้รู้ว่า หมายถึงสภาพปรมัตถ์ใด
เช่น พูดว่า เห็น หมายความถึงสภาพปรมัตถธรรมที่รู้ทางตา ใช้คำว่า ได้ยินเป็นคำที่หมายถึงสภาพธรรมที่กำลังรู้เสียงทางหู แต่ต้องมีปรมัตถธรรม ไม่ใช่มีแต่บัญญัติเท่านั้น และถ้าเป็นผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐาน ทุกอย่างที่กำลังมีลักษณะปรากฏเป็นปัฏฐาน เป็นที่ตั้ง เป็นที่ที่สติกำลังระลึกรู้ได้ และก็จะรู้ความจริงในสภาพที่เป็นปรมัตถ์ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน และสามารถที่จะแทงตลอด บรรลุถึงความเป็นพระอริยเจ้า แม้ในขณะนี้ ที่สติกำลังระลึกรู้ในลักษณะของปรมัตถธรรมที่กำลังปรากฏนี้เอง เพราะฉะนั้น มรรคจิต ผลจิต เป็นสภาพนามธรรมที่รู้ในลักษณะของพระนิพพาน ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 295
รับฟัง ...
มรรค ผล เห็นโดยวิธีไหน