ลาภ สักการ ชื่อเสียง เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรม [สุทธกสูตร]
โดย เจตสิก  28 ก.ย. 2550
หัวข้อหมายเลข 4943

ปุถุชนทั้งหลายแสวงหาลาภ สักการะ ชื่อเสียง แต่เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่เป็นอันตราย

แก่การบรรลุมรรค ผล ของเขา สมดังพระพุทธพจน์ดังนี้

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 639

ลาภสักการสังยุต สุทธกสูตร

ว่าด้วยลาภสักการะเป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรม

[๕๓๖] ข้าพเจ้าได้ฟังมาอย่างนี้ :- สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระเจ้าข้า. [๕๓๗] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายลาภสักการะ และความสรรเสริญ ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่าเพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักละลาภสักการะและความสรรเสริญที่เกิดขึ้นแล้วเสีย และลาภสักการะและความสรรเสริญที่บังเกิดขึ้นแล้ว จักครอบงำจิตของเราทั้งหลายตั้งอยู่ไม่ได้เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ. จบสุทธกสูตรที่ ๑



ความคิดเห็น 1    โดย เจตสิก  วันที่ 28 ก.ย. 2550

ทีฆโลมสูตร ว่าด้วยคนติดลาภสักการะเหมือนแกะถูกหนามเกี่ยว

[๕๔๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-ภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า. [๕๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แกะขนยาวเข้าไปสู่ชัฏหนาม มันพึงข้องอยู่ อันหนามเกี่ยวไว้ ติดอยู่ในที่นั้นๆ ได้รับทุกข์ ถึงความพินาศในที่นั้นๆ ฉันใด ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ อันลาภ สักการะและความสรรเสริญครอบงำ ย่ำยีจิตแล้วก็ฉันนั้น ...............


ความคิดเห็น 2    โดย เจตสิก  วันที่ 28 ก.ย. 2550

เอฬกสูตร ว่าด้วยคนติดลาภสักการะเหมือนแมลงวัน

[๕๔๗] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระ-ภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลาภสักการะและความสรรเสริญทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า. [๕๔๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แมลงวันกินขี้เต็มท้อง และข้างหน้ายังมีกองขี้ใหญ่ มันพึงดูหมิ่นแมลงวันเหล่าอื่นว่า เรากินขี้ เต็มท้องแล้ว และเรายังมีกองขี้ใหญ่อยู่ข้างหน้าอีกฉันใด ภิกษุบางรูปในธรรมวินัยนี้ อันลาภสักการะและความสรรเสริญครอบงำ ย่ำยีจิตแล้วก็ฉันนั้น เวลาเช้า นุ่งแล้วถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังบ้านหรือนิคม ฉันอยู่ ณ ที่นั้นพอแก่ความต้องการแล้ว และทายกนิมนต์เพื่อให้ฉันในวันรุ่งขึ้น แม้บิณฑบาตของเธอจะเต็มแล้ว เธอไปอารามแล้ว อวดอ้างที่ท่ามกลางหมู่ภิกษุว่า ผมฉันพอแก่ความต้องการแล้ว ทายกยังนิมนต์เพื่อให้ฉันในวันรุ่งขึ้น บิณฑบาตของผมก็เต็ม และยังจะได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารอีก ส่วนภิกษุเหล่าอื่นนี้มีบุญน้อย มีศักดิ์น้อย จึงไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร เธออันลาภสักการะและความสรรเสริญครอบงำย่ำยีจิตแล้ว ย่อมดูหมิ่นภิกษุเหล่าอื่นผู้มีศีลเป็นที่รัก ข้อนั้นของโมฆบุรุษนั้นย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนานลาภสักการะและความสรรเสริญ ทารุณ ฯ ล ฯ อย่างนี้แล เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ. จบเอฬกสูตรที่ ๕


ความคิดเห็น 3    โดย study  วันที่ 28 ก.ย. 2550

คาถาพระบิณโฑลภารทวาช

นักปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าวการ

ไหว้ การบูชา ในตระกูลทั้งหลายว่า เป็นเปลือก

ตม เป็นลูกศรอันละเอียด ถอนขึ้นได้ยาก สักการะ

อันบุรุษชั่วละได้ยาก ดังนี้.


ความคิดเห็น 5    โดย ตุลา  วันที่ 28 ก.ย. 2550

ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย

เป็นกระทู้ที่ดีมากค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย natthaset  วันที่ 28 ก.ย. 2550

แมลงวันมีขี้เต็มท้อง และข้างหน้ายังมีกองขี้ใหญ่

นมัตถุ พุทธานัง อนัตถุ โพธิยา


ความคิดเห็น 7    โดย wannee.s  วันที่ 28 ก.ย. 2550

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 652

บทว่า เอตมตฺถ วิทิตฺวา ความว่า ทรงทราบถึงการที่แมลงเม่าทั้ง-

หลาย ไม่รู้ประโยชน์คนถึงความวอดวายไร้ประโยชน์ ด้วยความพยายาม

ของตนนี้ จึงทรงเปล่งอุทานนี้ อันแสดงถึงความวอดวายของทิฏฐิคติก-

บุคคล โดยการถือผิดเหมือนแมลงเม่าเหล่านั้น...................

กล่าวคือภพ ๓ ที่ไฟ ๑๑ กองมีราคะเป็นต้นลุกโชนแล้ว เหมือนแมลงเม่า

เหล่านี้ ตกไปสู่เปลวเพลิงนี้ฉะนั้น อธิบายว่า เขาไม่อาจจะเงยศีรษะขึ้นได้

จากหลุมถ่านเพลิงนั้น.


ความคิดเห็น 8    โดย พุทธรักษา  วันที่ 28 ก.ย. 2550

....................ขออนุโมทนา.........................

ความคิดเห็น 9    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 28 ก.ย. 2550

ยังเป็นอยู่นะ...เพราะยังเป็นปุถุชน แต่ค่อยๆ เห็นโทษ เมื่อปัญญาเกิด...อบรมบารมีในชีวิตประจำวันครับ


ความคิดเห็น 10    โดย ครูโอ  วันที่ 29 ก.ย. 2550


ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 30 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 12    โดย pamali  วันที่ 12 ส.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 13    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 30 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ