ไม่รู้ความจริง จึงยึดถือว่าเป็นเรา
โดย บ้านธัมมะ  14 มิ.ย. 2567
หัวข้อหมายเลข 47857

มีสภาพธรรมที่เกิดตามเหตุตามปัจจัย แล้วดับไป ไม่สิ้นสุด เพราะไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมนั้นๆ จึงยึดถือว่าเป็นเรา ซึ่งความจริงก็เป็นโลกแต่ละโลก ซึ่งปรากฏทีละขณะ ถ้าไม่มีจิตเห็นเลย โลกนี้ที่มีต้นไม้ใบหญ้า มีอะไรต่างๆ ก็ไม่ปรากฏ ถ้าไม่มีเสียงปรากฏเลย เรื่องราวต่างๆ ก็ไม่มี แต่มีเมื่อเกิดขึ้น แล้วก็ทันทีที่เห็น จักขุวิญญาณดับไป จิตต่อไปมีวิตกเจตสิก เราไม่รู้เลย จรดแล้วในสิ่งที่จักขุวิญญาณอาศัยตาเห็นแล้วดับไป ไม่ทิ้งอารมณ์นั้นเลย ขณะนี้จึงปรากฏว่า เป็นคน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งต่างๆ เพราะว่าเว้นจิต ๑๐ ดวง สำหรับกามาวจรจิต คือ จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส จิตขณะต่อๆ ไปทั้งหมดมีวิตกเจตสิกเกิดร่วมด้วย จนกระทั่งถึงกาละขององค์ของมรรคมีองค์ ๘ ที่ทำให้รู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้

นี่คือความละเอียดของธรรม ทำไมพูดบ่อยๆ ฟังแล้วจะได้ไม่ลืมว่า ไม่มีใครไปจัดสรร ไม่มีใครไปบังคับบัญชาว่า เมื่อจักขุวิญญาณดับไปแล้ว ซึ่งมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยเพียง ๗ ดวง ไม่มากกว่านั้นเลย จิตขณะต่อไปก็มีเจตสิกอื่นเกิดกับจิตขณะต่อไปที่จะรู้อารมณ์ที่จักขุวิญญาณเห็นสืบต่อไป

สิ่งต่างๆ ที่มีในขณะนี้ เว้นจิตต่างๆ เหล่านั้นแล้ว ก็ต้องมีวิตกเจตสิกเกิดร่วมด้วยแล้ว ถึงแม้ว่าไม่มีการเห็น การได้ยิน แต่สัญญาที่จำก็ทำให้ตรึกนึกถึงสิ่งที่กำลังนึกในขณะนั้น

พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 430