บาปบุญมีจริงไหม
โดย nattawan  13 พ.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 49931

คำถาม คำว่า บาป บุญ เป็นตัวตนจริงๆ หรือ จะเชื่อได้อย่างไร

สุ. บาป หมายความถึงอกุศล สิ่งที่ไม่ดี ไม่งาม และให้โทษ บุญ หมายความถึงกุศล สิ่งที่ดีงาม เป็นประโยชน์ ไม่เป็นโทษกับใครเลย

แต่ถ้าไม่มีจิต ไม่มีบาป ไม่มีบุญ ต้นไม้ไม่มีบาปไม่มีบุญ ต้นไม้คิดไม่ได้ ต้นไม้ทำอะไรไม่ได้ ต้นไม้ฆ่าสัตว์ ต้นไม้ลักทรัพย์ หรือต้นไม้จะถวายทานก็ไม่ได้ ภูเขา ก้อนหิน กรวดทราย ไม่มีบุญไม่มีบาป

เพราะฉะนั้น บุญบาปต้องเป็นสภาพของจิตซึ่งประกอบด้วยสภาพธรรมที่ดี จึงเป็นบุญ ขณะใดที่ประกอบด้วยสภาพธรรมที่ไม่ดี จึงเป็นบาป

ไม่มีใครสามารถเห็นจิตหรือดูจิตได้ด้วยตา แต่สามารถระลึกรู้ลักษณะของ จิตได้ เพราะทุกคนมีจิต แต่แม้ว่าทุกคนจะรู้เพียงคร่าวๆ ว่ามีจิต ถ้าไม่ศึกษา โดยละเอียดก็ไม่สามารถตอบได้ว่า ที่ว่ามีจิตนั้น จิตอยู่ที่ไหน แต่ถ้าสามารถรู้ได้จริงๆ ว่า ขณะที่เห็นเป็นจิตชนิดหนึ่ง ขณะที่ได้ยินเป็นจิตชนิดหนึ่ง ขณะที่ได้กลิ่นเป็นจิตชนิดหนึ่ง ขณะที่ลิ้มรสเป็นจิตชนิดหนึ่ง ขณะที่กำลังรู้สิ่งที่เย็นบ้าง ร้อนบ้าง อ่อนบ้าง แข็งบ้างเป็นจิตชนิดหนึ่ง ขณะที่คิดนึกเป็นจิตชนิดหนึ่ง จึงจะพิจารณาให้ละเอียดลงไปอีกว่า จิตเห็นเป็นบาปหรือเปล่า

จิตเห็น เพียงเห็น เพราะฉะนั้น ไม่ใช่อกุศลจิต ไม่ใช่กุศลจิต จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ก็เช่นเดียวกัน

แต่ขณะใดที่เห็นแล้วชอบ ขณะนั้นเป็นโลภมูลจิต เป็นอกุศลจิต จะใช้คำว่าบาปก็ได้ เพราะว่าเป็นขณะจิตที่เศร้าหมอง ไม่ผ่องใส มีสภาพของโลภเจตสิกซึ่งทำให้เป็นสภาพที่ติด ที่พอใจ ที่ยินดี ที่ปรารถนาอารมณ์นั้น เพราะฉะนั้น ในขณะนั้น ไม่ใช่กุศล

ถ้าขณะใดเห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ขณะนั้นเป็นโทสะ เป็นสภาพที่ขุ่นเคืองขัดข้อง ไม่พอใจ ขณะนั้นเป็นอกุศลจิต ไม่ใช่กุศล จะใช้คำว่า บาป ก็ได้

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเห็น จะได้ยิน จะได้กลิ่น จะลิ้มรส รู้สิ่งที่พอใจ ก็เป็นโลภมูลจิต เป็นอกุศล และขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่ไม่พอใจ ขณะนั้นก็เป็นอกุศล และในวันหนึ่งๆ ถ้าจะพิจารณา ก็พอใจที่จะเห็น พอใจที่จะ ได้ยิน พอใจที่จะได้กลิ่น พอใจที่จะลิ้มรส พอใจที่จะกระทบสัมผัส เพราะฉะนั้น วันหนึ่งๆ มีจิตที่เป็นอกุศล คือ เป็นบาป มาก เพียงแต่ว่าจิตที่เป็นอกุศลนั้นยังไม่มีกำลังถึงขั้นที่จะเป็นทุจริตกรรม ยังไม่ถึงขั้นที่กระทำอกุศลกรรมบถ ๓ ทางกาย อกุศลกรรมบถ ๔ ทางวาจา และอกุศลกรรมบถ ๓ ทางใจ

เพราะฉะนั้น จะเห็นระดับขั้นของอกุศลจิต ในขณะที่เห็น เป็นต้น จนกระทั่งถึงเวลาที่อกุศลนั้นมีกำลังทำให้ล่วงเป็นทุจริตทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง ทางใจบ้าง

ที่ถามว่า บาปบุญมีจริงไหม เมื่อจิตมีจริง และจิตมีทั้งอกุศลจิตและกุศลจิต ขณะใดที่เป็นอกุศลจิต ขณะนั้นเป็นบาป จึงมีจริง ขณะใดที่เป็นกุศลจิต ขณะนั้นก็เป็นบุญ จึงมีจริง

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1638



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 13 พ.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ