พุทธบริษัทจะเมินเฉยไม่ได้
โดย khampan.a  11 ต.ค. 2562
หัวข้อหมายเลข 31228

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ประมวลสาระสำคัญจากการสนทนาพิเศษ

เรื่อง
"พระพุทธศาสนา กับ สังคมไทย [ตอนที่ ๓]"

วิกฤตพระพุทธศาสนา : เสียงสะท้อนจากสังคม

ที่บ้านคุณทักษพล-คุณจริยา เจียมวิจิตร

วันศุกร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒



(ทีมงานอาสาสมัครบันทึกวีดีโอการสนทนาพิเศษในวันนี้)

~ บุคคลผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา ทุกคนต้องเข้าใจพระธรรมวินัย มิฉะนั้นแล้ว ก็ประพฤติผิดๆ กันไป โดยเข้าใจว่าถูกต้อง ซึ่งจะทำให้พระพุทธศาสนาค่อยๆ เสื่อม อันตรธาน (สูญสิ้น) เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องของใครคนหนึ่งคนใดหรือคณะหนึ่งคณะใด แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่มีความเคารพนับถือพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งที่จะดูแลความถูกต้องและพยายามทุกทางที่จะให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อที่จะดำรงพระพุทธศาสนา
~ ถ้าชาวพุทธหรือคนที่นับถือพระพุทธศาสนา ไม่รู้จักพระธรรมวินัยแล้วจะรู้ได้ไหมว่าหน่วยงานไหนทำสิ่งที่ผิดหรือทำสิ่งที่ถูกต้อง
~ ถ้ามีการประพฤติที่ไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย พุทธบริษัททำอะไร? ไม่ใช่ว่าเชื่อว่าท่านผู้นี้เป็นผู้ที่จะตัดสิน หรือว่าองค์กรนี้เป็นองค์กรที่ตัดสินว่าทำอย่างนี้ไม่ได้ทำอย่างนั้นไม่ได้, คฤหัสถ์ที่เคารพในพระธรรมวินัย ศึกษาเพื่อที่จะดำรงรักษาพระธรรมวินัยก็ต้องยกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมากล่าวว่าพระองค์ตรัสไว้ว่าอย่างไร ไม่ใช่ว่าท่านผู้นี้มีอำนาจที่เมื่อกล่าวอย่างนี้แล้วจะถูกหรือองค์กรนั้นเป็นผู้ตัดสิน ไม่ได้เลย เพราะว่า ถ้าเป็นผู้ที่เคารพในพระธรรมวินัย พุทธบริษัทต้องศึกษาพระธรรมเพื่อพร้อมเพรียงกันที่จะดำรงพระศาสนา เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น พระธรรมวินัยเป็นศาสดา เหมือนไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสไว้ว่าอย่างไร คำของพระองค์ที่ตรัสไว้ดีแล้ว ตลอด ๔๕ พรรษา ไม่มีใครสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้น พุทธบริษัทจะเมินเฉยไม่ได้เลย เพราะว่า พระธรรมวินัยเป็นศาสดา ทุกเรื่องต้องยกพระธรรมวินัยขึ้นกล่าวหรือแสดงเพื่อที่จะได้รู้ ว่า อะไรถูก อะไรผิด
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสให้พุทธบริษัทพร้อมเพรียงกันที่จะได้อนุเคราะห์ซึ่งกันและกันตามฐานะของคฤหัสถ์และบรรพชิต เพราะฉะนั้น ถ้าคฤหัสถ์ไม่เข้าใจธรรมเลยแล้วเห็นการกระทำที่ไม่เหมาะไม่ควร แล้วจะอาศัยใครที่จะกล่าวให้รู้ว่านั่นไม่ถูกต้อง เพราะพระภิกษุทำผิด เพราะฉะนั้น ภิกษุที่ผิดก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดแล้วภิกษุอื่นจะกล่าวโทษไหมหรือว่าเพิกเฉย ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เป็นหน้าที่ของพุทธบริษัทที่เป็นฝ่ายคฤหัสถ์ที่จะต้องดำรงรักษาพระธรรมวินัยไว้ เป็นการผิดหรือถ้าใครจะกล่าวคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ให้คนอื่นได้ฟังด้วย เพราะพุทธบริษัทก็ต้องมีส่วนในการที่จะดำรงพระพุทธศาสนา จะกันคฤหัสถ์ออกไปทำไม ในเมื่อคนนั้นเข้าใจธรรมแล้วก็สามารถที่จะกล่าวตามพระธรรมวินัยได้ ในขณะที่พระภิกษุจะไม่กล่าวตามคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว แล้วใครจะกล่าว
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าใครจะกล่าว นำมาซึ่งประโยชน์หรือโทษ? นำมาซึ่งประโยชน์ ให้เข้าใจถูกต้อง ไม่ว่าใครพูด พูดความจริงย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าคฤหัสถ์พูดไม่ได้ แต่ว่าใครก็ตามที่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นคือ คำของพระองค์ไม่ใช่คำของคนนั้น เพราะฉะนั้น จะไม่ให้เขากล่าวพระธรรมวินัยตามที่ได้เข้าใจหรือ?
~ พระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นศาสดาทุกยุคทุกสมัย จะเอาคนอื่นมาเป็นผู้ชี้ขาดสั่งโน่นสั่งนี่หรือว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น เมื่อพุทธบริษัทพร้อมเพรียงกัน ก็คือ ไม่ว่ามีเรื่องใดๆ เกิดขึ้น ก็ต้องกล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเป็นศาสดาแทนพระองค์ ว่า อะไรถูก อะไรผิด ไม่ใช่ตามอำเภอใจ
~ ถ้าพระภิกษุถามโยม (อุบาสกอุบาสิกา) ว่า ทำไมไม่ถวายเงินท่าน เราก็น่าจะถาม ว่า พระคุณเจ้าสละเงินแล้วไม่ใช่หรือ (จึงบวช) ?
จะตอบว่าอย่างไร
~ ก็น่าคิด ถ้าเราจะถามคนที่บวชว่านับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช่ไหม จึงบวช มิฉะนั้น จะบวชทำไม เพื่อปฏิบัติตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช่ไหม นี่คือเหตุผลที่จะบวช จึงบวช เมื่อบวชแล้วทำไมคิดจะเปลี่ยนคำที่ตนเองเคยกล่าวว่า บวชเพราะอะไร? ที่บวช เพราะเคารพอย่างยิ่งในพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิใช่หรือ แล้วทำไมเมื่อบวชแล้ว จึงไม่เคารพ (มีการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยมากมาย ไม่ศึกษาพระธรรมวินัย ไม่ขัดเกลากิเลส)
~ ถ้ามีอัธยาศัยเป็นคฤหัสถ์ ก็ไม่ต้องบวชเป็นพระภิกษุ ไม่มีใครห้าม
~ ต้องการที่จะให้มีพระภิกษุ แต่ไม่ใช่ภิกษุในพระธรรมวินัย แล้วจะดำรงรักษาพระพุทธศาสนาได้อย่างไร
~ ภิกษุล่วงละเมิดสิกขาบท (สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ให้ศึกษาแล้วประพฤติตาม) มีโทษอย่างยิ่ง เรามีความเป็นมิตรที่ดีหรือเปล่าที่จะให้เขารู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด
~ ทุกอย่างต้องลึกซึ้งและละเอียด ลองพิจารณาดีๆ ใครก็ตามที่ได้เข้าใจพระธรรมวินัย จะประพฤติผิดจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ไหม? เพราะฉะนั้นใครก็ตาม โดยเฉพาะพระภิกษุ ประพฤติผิดพระวินัย แสดงว่า ภิกษุนั้นเข้าใจธรรมหรือเปล่า เพราะถ้าเข้าใจธรรมแล้วมีหรือที่จะล่วงสิกขาบท เพราะทุกสิกขาบท อนุเคราะห์ภิกษุให้เป็นผู้ที่ขัดเกลากิเลส แม้เพียงเล็กน้อย
~ ถ้าคนอยากให้มีพระภิกษุ แม้ว่าพระภิกษุจะประพฤติผิด แสดงว่า เขาเห็นแก่ตัว แค่นี้คิดหรือเปล่าว่าลึกลงไปแล้วเขาเห็นแก่ตัวที่เขาต้องการให้มีพระภิกษุสำหรับใส่บาตรสำหรับทำอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่าโทษมากมายกับคนนั้นทำไมเขาไม่คิดบ้างว่าเป็นโทษอย่างยิ่ง ถ้าเป็นเพื่อนที่ดี เขาจะปล่อยให้เพื่อนตกนรกไหม?
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเพื่ออนุเคราะห์ ให้เขาได้รู้ความจริง กลับใจจากการที่ไม่เห็นโทษมารู้ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุด คือ คำที่พระองค์ตรัส เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเขา ที่จะเกิดการระลึกได้ว่าอะไรถูก อะไรผิด
~ พระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ขัดแย้งกับอะไรหรือเปล่า? พระธรรมวินัยกล่าวไว้ว่าอย่างนี้ แต่ผู้นั้นเห็นเป็นอย่างอื่น ผู้นั้น ก็ต้องขัดแย้งกับพระธรรมวินัย

~ กว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ที่จะตรัสแต่ละคำ เป็นประโยชน์กับผู้ฟัง ทำให้กลับจากความเห็นผิดมาเป็นความเห็นถูก หรือจากความไม่รู้มาเป็นความรู้ ใครสามารถจะทำได้ เพราะฉะนั้น บุคคลนั้นเป็นที่เคารพอย่างสูงสุดไหม ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อรู้คุณ เพราะเข้าใจธรรม
~ เพศบรรพชิตไม่มีกิจอื่นเลย (นอกจากศึกษาพระธรรมวินัย ประพฤติขัดเกลากิเลส) แม้จะหุงหาอาหารเพื่อบริโภคเอง ก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็มีชีวิต เพื่อเข้าใจพระธรรมและขัดเกลากิเลส
~ ภิกษุต้องเข้าใจพระธรรมแล้วก็ต้องขัดเกลากิเลสด้วย ถ้าไม่มีความเข้าใจพระธรรมก็ขัดเกลากิเลสไม่ได้ เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นพระภิกษุโดยไม่คิดที่จะขัดเกลากิเลส เพียงแต่จะบวชให้เต็มจำนวนบ้างหรือให้เพียงชื่อว่ายังมีพระภิกษุอยู่
~ ภิกษุใดที่ไม่ขัดเกลากิเลส ลองถามตัวเองว่าแล้วบวชทำไม?


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย papon  วันที่ 11 ต.ค. 2562

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย มกร  วันที่ 12 ต.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย meenalovechoompoo  วันที่ 12 ต.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย suporn.thun  วันที่ 14 ต.ค. 2562

กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ