การฆ่าเชื้อโรค
โดย joychorelada  26 มี.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 31664

ขอกราบเรียนถาม

หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ กักบริเวณ ฯลฯ สามารถป้องกันอกุศลวิบาก ได้ไหมค่ะ และการมีจิตคิดจะฆ่า และลงมือฆ่าเขื้อโรค เช่น ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพราะอยากให้เชื้อโรคตาย เป็น อกุศลจิต หรือ อกุศลกรรม หรือเปล่าคะ

ขอบพระคุณค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 26 มี.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
-การได้รับผลของกรรม เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อถึงคราวที่กรรมจะให้ผล อยู่ที่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะพ้นไปได้
-เชื้อโรค ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ไม่มีจิต ไม่มีเจตสิก ฉะนั้น การฆ่าเชื้อโรค ไม่ชื่อว่าเป็นการฆ่าสัตว์ในความหมายของสัตว์ที่พระพุทธองค์ทรงหมายเอาว่า สัตว์มีชีวิตที่เกิดจากกรรม มีจิต มีเจตสิก และรูป การฆ่าเชื้อโรค จึงไม่เป็นการกระทำอกุศลกรรม
-ชีวิตประจำวัน ยากที่จะพ้นไปจากอกุศลจิต ทั้งความติดข้อง ทั้งความไม่พอใจ เป็นต้น ความเป็จริงของธรรม เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น แต่ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า ไม่ใช่ว่าจะไม่ทำอะไรเลย ไม่ใช่ว่าจะไม่ดูแลรักษาสุขภาพร่ายกายเลย ก็ต้องดูแลรักษา มีการป้องกันไวรัสอย่างเช่นในช่วงนี้ ดูแลรักษา ป้องกัน เพื่อประโยชน์ในการที่จะให้ชีวิตเป็นไปได้อย่างไม่เดือดร้อน เพื่อจะได้ทำความดีและศึกษาพระธรรมต่อไป ตามความเป็นจริงแล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นแม้ในขณะต่อไป ชีวิตในภพนี้ชาตินี้จะสิ้นสุดเมือใด ก็ไม่มีใครทราบได้ จะมีชีวิตอยู่ยืนยาวหรือสั้น ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่า มีโอกาสได้สะสมความดีและอบรมเจริญปัญญาหรือไม่ เพราะสิ่งนี้เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งในชีวิตอย่างแท้จริง ครับ
ขอเชิญศึกษาเพื่อความเข้าใจความจริงได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
ภัยที่น่ากลัวกว่าไวรัสโควิด

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน...


ความคิดเห็น 2    โดย yogototo  วันที่ 26 มี.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย yogototo  วันที่ 26 มี.ค. 2563

แล้วคนที่ไม่ใส่หน้ากากเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องของวิบากกรรมของแต่ละคนที่จะส่งผลใหติดโรคนี้ ถ้าคิดแบบนี้จะเป็นอกุศลเปล่าครับ


ความคิดเห็น 4    โดย paderm  วันที่ 27 มี.ค. 2563

เรียน ความเห็นที่ 3 ครับ

คนที่จะใส่ ไม่ใส่หน้ากาก ก็มีเหตุที่จะต้องใส่หรือไม่ใส่ อนัตตา พระพุทธเจ้าทรงแสดงประโยชน์ไว้สามประการ คือ ประโยชน์โลกนี้ ประโยชน์โลกหน้า ประโยชน์อย่างยิ่ง ประโยชน์โลกนี้คือการเจริญกุศลและการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง รู้จักวิธีการรักษาโรค เป็นต้น พระภิกษุเมื่อท่านป่วย พระพุทธเจ้าก็อนุญาติให้ฉันยารักษาโรค เช่นเดียวกับ การป้องกัน ก็เป็นการรู้จักว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ดังนั้น การเข้าใจพระธรรม พระพุทธเจ้าทรงแสดงประโยชน์ไว้ทุกอย่าง แต่ไม่ลืมว่าเป็นธรรมอนัตตาและเป็นเรื่องของกรรมด้วยที่เข้ามาเกี่ยงข้องครับ
ขอยกข้อความจากการสนทนาที่มีประโยชน์ดังนี้ครับ
คุณบัญชร เวลาพูดถึงความไม่ประมาทสำหรับผมกับคนทั่วไป กลัวโรคภัยไข้เจ็บ ผมก็หลีกเลี่ยงที่จะเจอมันก็คือความไม่ประมาท

ท่านอ.สุจินต์ คนที่เขาเป็นโรคโควิดนี่นะคะ เขาหลีกเลี่ยงหรือเปล่า แต่เขาก็เป็นใช่ไหม หรือว่าเขาไม่ได้หลีกเลี่ยงเขาก็เป็นใช่ไหม เพราะฉะนั้นมันก็มีเหตุที่เรามองเห็นใกล้ๆ นะคะ ถ้าปล่อยตัวไม่ระวังตัวเลยก็มีทางที่จะเป็นไปได้ แต่เหตุไกลยิ่งกว่านั้นก็คือว่าคนที่ระวังตัวแล้วเป็นได้เพราะอะไร และคนที่ไม่ระวังตัวแบบนั้นแต่ถึงเวลาที่จะเป็นก็ไม่เป็น และถึงจะระวังยังไงก็เป็นได้ ถ้าถึงเวลาที่จะเป็น แต่ไม่ถึงเวลาไม่เป็นยังไงก็ไม่เป็น แต่ที่จะเป็นซะเลยก็เป็นไปไม่ได้ เพราะที่เกิดมาก็เป็นแล้ว แล้วก็เป็นไปเรื่อยๆ ทุกขณะนะคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดี จะร้าย เป็นทุกข์ เป็นสุข ก็เป็นอย่างนี้แน่นอน ไม่มีทางที่จะดีไปได้ตลอดเวลา

คุณบัญชร งั้นเราก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเหตุมันจะเกิด มันก็ต้องเกิดอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องหลีกเลี่ยงระมัดระวังอะไร มันเหมือนความประมาทไหมด้วยแบบนั้นครับ

ท่านอ.สุจินต์ เห็นไหมคะ เริ่มคิดผิดแล้วตามแนวของความไม่รู้ที่คิดว่าไม่ต้องทำอะไร แต่คิดหรือเปล่าว่าต้องทำดี ต้องเป็นคนดี เพราะเป็นเหตุที่จะให้เกิดสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นเรามองข้ามเหตุทั่วไป ป้องกันโรคอะไร แต่เหตุยิ่งกว่านั้นก็คือว่าเหตุคือสิ่งที่ดี ผลก็ต้องเป็นสิ่งที่ดี แล้วเหตุที่ไม่ดี ก็ให้ผลไม่ดี อย่างยังไม่มีโรคโควิด แต่บางคนก็พิการก็ได้ คิดว่าจะตายด้วยโรคนี้ก็ไม่ตาย ตายด้วยโรคอื่นก็ได้ หรือไม่มีโรคอะไรก็ตายได้ เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็หวังแต่สิ่งที่ดี แต่ไม่รู้ว่าเหตุให้เกิดสิ่งที่ดีคืออะไร เพราะฉะนั้นที่ทุกคนลืมนะคะ คือ ความดี ความชั่ว ซึ่งเป็นเหตุที่แท้จริง คิดแต่จะป้องกันตัวเท่านั้น แต่ใจป้องกันหรือเปล่า ตั้งแต่เกิดมาก็กลัวแล้ว กลัวสิ่งนั้น สิ่งนี้ จิ้งจก ตุ๊กแก เพราะยังมีความกลัวอยู่ และไม่รู้ความจริงว่ากลัวหนะดีไหม กลับไม่กลัวแต่เข้าใจว่าสิ่งที่กลัวนั้นคืออะไร (ธรรม)

คุณบัญชร เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรากลัวจริงๆ คืออะไรครับอาจารย์

ท่านอ.สุจินต์ จริงๆ นะคะ น่าจะกลัวความไม่รู้ ขออนุโมทนา บางส่วนจากการสนทนาเรื่อง "พ้นภัย เพราะเข้าใจความจริง" ระหว่าง อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ (ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทศาสนา) กับคุณบัญชร วิเชียรศรี (ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่)
ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 5    โดย joychorelada  วันที่ 27 มี.ค. 2563

กราบขอบพระคุณ

และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย yogototo  วันที่ 27 มี.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย พ.ต.ท.พงษ์เทพ  วันที่ 28 มี.ค. 2563

สาธุ...


ความคิดเห็น 9    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 1 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ