อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต ปฐมปัณณาสก์
ข้อความในข้อ ๒๖๘ มีว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้ย่อมกล่าวตู่ตถาคต ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ คนเจ้าโทสะซึ่งมีโทษอยู่ภายใน ๑ คนที่เชื่อโดยถือผิด ๑ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้ ย่อมกล่าวตู่ตถาคต
ไม่ใช่พวกเดียว แต่ว่ามี ๒ จำพวก คือ พวกหนึ่ง คนเจ้าโทสะ ซึ่งมีโทษอยู่ภายใน ไม่พอใจในคำที่มีเหตุมีผล ได้ยินได้ฟังสภาพธรรมที่เป็นเหตุเป็นผล แต่ไม่พอใจ ไม่ชอบในเหตุและผลนั้น เป็นคนเจ้าโทสะซึ่งมีโทษอยู่ภายใน ๑ และเป็นคนที่เชื่อโดยถือผิด ๑ สิ่งที่ถูกได้ฟังแล้วคิดว่าผิด สิ่งที่ผิดได้ฟังแล้วคิดว่าถูก เพราะเหตุว่าเป็นคนที่เชื่อโดยถือผิด
ข้อ ๒๖๙ มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้ย่อมกล่าวตู่ตถาคต ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคตมิได้ภาษิตไว้มิได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตได้ภาษิตไว้ได้ตรัสไว้ ๑คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคตภาษิตไว้ตรัสไว้ว่า ตถาคตมิได้ภาษิตไว้มิได้ตรัสไว้ ๑ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้แล ย่อมกล่าวตู่ตถาคต
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้ย่อมไม่กล่าวตู่ตถาคต ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคตมิได้ภาษิตไว้มิได้ตรัสไว้ว่า ตถาคตมิได้ภาษิตไว้มิได้ตรัสไว้ ๑ คนที่แสดงสิ่งที่ตถาคตภาษิตไว้ตรัสไว้ว่า ตถาคตได้ภาษิตไว้ได้ตรัสไว้ ๑ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย คน ๒ จำพวกนี้แล ย่อมไม่กล่าวตู่ตถาคต
ท่านผู้ใดจะชื่อว่ากล่าวตู่ หรือไม่กล่าวตู่ ก็คือ ยกพระธรรมที่ได้ทรงแสดงไว้มาแสดง เพราะเหตุว่าพระธรรมที่ได้ทรงแสดงไว้นั้น สมบูรณ์พร้อมทั้งเหตุผล ทั้งสภาพธรรมปรากฏที่ให้พิสูจน์ได้ เพราะทนต่อการพิสูจน์ เพราะฉะนั้น ทั้งอรรถ ทั้งพยัญชนะที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงไว้แล้ว ก็ควรที่พุทธบริษัทจะได้กล่าวถึงทั้งพยัญชนะและอรรถที่สมบูรณ์ ไม่ใช่ว่าคลาดเคลื่อน โดยการใช้พยัญชนะที่ไม่มีในพระไตรปิฎก ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 225