
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อะไรเป็นที่พึ่งที่แท้จริง?? ความเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงขณะนี้จากคำของพระพุทธเจ้าซึ่งลึกซึ้งที่สุด ถ้าไม่เข้าใจชีวิตก็อยู่อย่างไร้ที่พึ่ง ชีวิตก็เป็นอยู่ได้แบบไม่ดี เดือดร้อนด้วยอำนาจกิเลสต่างๆ เพราะไม่มีความเข้าใจถูก ... ถ้าฟังคำของพระพุทธเจ้าแล้วไม่เข้าใจก็ไม่อาจเป็นที่พึ่งได้
เพราะไม่รู้จึงต้องอยู่อย่างนี้ด้วยความเดือดร้อน เพราะฉะนั้นประโยชน์ที่แท้จริงคือปัญญาความเข้าใจถูกที่ได้ฟังพระธรรม ได้พึ่งพระพุทธเจ้าและพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงเป็นประโยชน์เกื้อกูลโดยตลอด
การเคารพนอบน้อมพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ด้วยดอกไม้ธูปเทียนของหอม แต่ด้วยการทำคุณความดี โดยเฉพาะการฟังคำที่หาได้ยากยิ่ง คือการได้ฟังพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง
ด้วยเหตุนี้จึงควรฟังพระธรรมด้วยความเคารพ เพื่อเกิดความเข้าใจเป็นปัญญาที่เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะขณะนี้มีอวิชชาคือความไม่รู้ซึ่งปกปิดความจริงเอาไว้ไม่สามารถที่จะรู้ได้ ถ้าไม่มีแต่ละคำของพระพุทธเจ้าที่จะค่อยๆ เปิดเผยโดยกล่าวความเป็นจริงของสิ่งที่มีจริง เช่นเห็น ได้ยิน หรือสิ่งที่ปรากฏทางตาหรือยังเสียง เป็นต้น
ให้ฟังด้วยเอื้อเฟื้อคือพิจารณาไตร่ตรองตั้งใจฟังด้วยความเคารพ ... ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง คือปัญญาความเข้าใจถูกเป็นถูก
บูชาพระรัตนตรัยด้วยการเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้
- พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๔
(อรรถกถา โอฆตรณสูตร)
" เมื่อบุคคลไม่ฟังธรรมะอันบริบูรณ์ด้วยอรรถและพยัญชนะโดยเอื้อเฟื้อ โดยเคารพ ย่อมเป็นผู้เหินห่างจากประโยชน์เกื้อกูลอันใหญ่ เพราะเหตุนี้ บุคคลพึงยังความเอื้อเฟื้อความเคารพในการฟังธรรมให้เกิดขึ้นเถิด "
- ข้อความในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต สักกัจจสูตร ดังนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูกร สารีบุตร ดีล่ะ ดีล่ะ ภิกษุ สักการะ เคารพ อาศัยพระศาสดาอยู่แล จะพึงละอกุศล เจริญกุศล
- ***จิตฟุ้งซ่าน ฟังพระธรรมไม่รู้เรื่อง***
" ย่อมแสดงความเป็นผู้มีจิตไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยคำว่า สุตํ (ได้ฟังแล้ว) นี้
เพราะจิตที่ฟุ้งซ่าน มีการฟังไม่ได้. จริงอย่างนั้น บุคคลมีจิตฟุ้งซ่านแม้ผู้อื่นพูดให้สมบูรณ์ทุกอย่าง ก็ยังกล่าวว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ยิน ขอจงพูดอีก "
----------
ปรมัตถทีปนี อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า ๑๓
(อรรถกถา โอฆตรณสูตร)
- พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า ๗๗
๗. ปฐมโยนิโสมนสิการสัมปทาสูตร
(โยนิโสมนสิการเป็นนิมิตแห่งอริยมรรค)
[๑๓๖] สาวัตถีนิทาน (เหตุเกิดที่พระนครสาวัตถี) . ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น สิ่งที่ขึ้นก่อน สิ่งที่เป็นมิมิตมาก่อน คือ แสงเงินแสงทอง สิ่งที่เป็นเบื้องต้นเป็นนิมิตมาก่อน เพื่อความบังเกิดแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ของภิกษุ คือ ความถึงพร้อมแห่งการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ฉันนั้นเหมือนกัน ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘.
- พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๔๓๘
บทว่า "เงี่ยโสต" ความว่า มีโสตอันตั้งไว้แล้ว.
ก็พระอริยสาวกทั้งหลาย เป็นผู้รักการฟังธรรม เมื่อจะไปฟัง
ธรรม ก็ไม่นั่งหลับ สนทนากับใครๆ หรือมีจิตฟุ้งซ่าน. โดยที่เเท้ท่านเป็นผู้
ไม่อิ่มในการฟังธรรม เหมือนบริโภคน้ำอมฤต จนถึงอรุณขึ้นไปในการฟัง
ธรรม เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้อย่างนี้.
ธรรมเตือนใจ
ทอจ. : ก็หวังว่าทุกท่านที่ได้ปลูกฝังความเข้าใจถูก จะได้ทะนุบำรุงให้เติบโตทุกครั้งที่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ... นั่นคืออริยสัจจธรรมที่สี่ คือหนทางที่จะรู้ความจริง
ขอเชิญติดตามรายการสนทนาบูชาคุณพระรัตนตรัย
โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และผู้ร่วมสนทนาออนไลน์
วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568
เวลา 17.00 - 18.30 น.
Facebook : DhammahomeRadio ลิงก์ Facebook ... คลิกที่นี่
Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลิงก์ Facebook ... คลิกที่นี่
Youtube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ