ที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายของสงสาร [ติณกัฏฐสูตร]
โดย JANYAPINPARD  12 ต.ค. 2553
หัวข้อหมายเลข 17340

[เล่มที่ 26] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ 506

๓. อนมตัคคสังยุต

ปฐมวรรคที่ ๑

๑. ติณกัฏฐสูตร

ว่าด้วยที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายของสงสาร

[๔๒๑] ข้าพเจ้าได้ฟังมาอย่างนี้ :-

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย แล้วได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่พูดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มี อวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ

[๔๒๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า บุรุษตัดทอนหญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ แล้วจึงรวมกันไว้ ครั้นแล้ว พึงกระทำให้เป็นมัดๆ ละ ๔ นิ้ว วางไว้ สมมติว่า นี้เป็นมารดาของเรา นี้เป็น มารดาของมารดาของเรา โดยลำดับ มารดาของมารดาแห่งบุรุษนั้นไม่พึงสิ้นสุด ส่วนว่า หญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ในชมพูทวีปนี้ พึงถึงการหมดสิ้นไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็น ป่าช้า ตลอดกาลนาน เหมือนฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านั้น พอทีเดียวที่จะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้

จบติณกัฏฐสูตรที่ ๑

อนมตัคคสังยุต

ปฐมวรรคที่ ๑

อรรถกถาติณกัฏฐสูตรที่ ๑

พึงทราบวินิจฉัยในติณกัฏฐสูตรที่ ๑ แห่งอนมตัคคสังยุต ดังต่อไปนี้.

บทว่า อนทตคฺโค แปลว่า มีที่สุดเบื้องต้นอันบุคคลไปตามอยู่รู้ไม่ได้ อธิบายว่า สงสารแม้จะตามไปด้วยญาณร้อยปี พันปี มีที่สุดรู้ไม่ได้ คือ มีที่สุดอันทราบไม่ได้ สงสารนั้นใคร่ไม่อาจรู้ที่สุดข้างนี้ หรือข้างโน้นได้ คือมีเบื้องต้นเบื้องปลายกำหนดไม่ได้

บทว่า สสาโร ได้แก่ ลำดับแห่งขันธ์เป็นต้น ที่เป็นไปกำหนดไม่ได้

บทว่า ปุพฺพา โกฏิ น ปญฺายติ ได้แก่ เขตแดนเบื้องต้น ไม่ปรากฏ ก็ที่สุดเบื้องต้นของสงสารนั้น ย่อมไม่ปรากฏด้วยที่สุดใด แม้ที่สุดเบื้องปลาย ก็ย่อมไม่ปรากฏด้วยที่สุดนั้นเหมือนกัน ส่วนสัตว์ทั้งหลาย ย่อมท่องเที่ยว ไปในท่ามกลาง

บทว่า ปริยาทาน คจฺเฉยฺย นี้ ท่านกล่าวว่า เพราะ เป็นอุปมาด้วยสิ่งน้อย ส่วนในพาหิรสมัย ประโยชน์มีน้อย อุปมามีมาก เมื่อท่านกล่าวว่า โคนี้เหมือนช้าง สุกรเหมือนโค สระเหมือนสมุทร

๑. ฎีกา-: อตฺโถ ปริตฺโต โหติ ยถาภตาวโพธาภาวโต



ความคิดเห็น 1    โดย เซจาน้อย  วันที่ 24 ม.ค. 2554
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 15 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น