ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๓๕
โดย khampan.a  22 ธ.ค. 2562
หัวข้อหมายเลข 31387

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๓๕ * *


~ บรรพชิต ต้องไม่ใช่คฤหัสถ์ บรรพชิตจะทำกิจของคฤหัสถ์ไม่ได้ เพราะเหตุว่า ได้สละชีวิตคฤหัสถ์ทั้งหมดที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต เพราะฉะนั้น ต้องศึกษาพระธรรมและประพฤติตามพระวินัย ถ้าพระภิกษุใดไม่ศึกษาพระธรรม แต่คิดจะทำอย่างอื่นและไม่ประพฤติตามพระวินัย เช่น จะรับเงินและทอง คนนั้น ก็ไม่ใช่พระภิกษุ
~ คฤหัสถ์กราบไหว้พระภิกษุในกุศลจิตของท่านที่มั่นคงที่จะศึกษาขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิตซึ่งเป็นผู้ที่ต่างจากคฤหัสถ์โดยประการทั้งปวง ทำมาหากินไม่ได้ จะไปทำอย่างอื่นเรียนวิชาชีพอะไร ก็ไม่ได้ นอกจากเรียนพระธรรมและพระวินัย มีชีวิตอย่างสงบ
~ ถ้าพระภิกษุอยากจะทำกิจของคฤหัสถ์ ลาสิกขา (สึก) ทำได้ทุกอย่างเพราะคฤหัสถ์ต้องเป็นคฤหัสถ์ บรรพชิตต้องเป็นบรรพชิต ไม่ใช่ว่าบรรพชิตจะมาทำกิจของคฤหัสถ์
~ พระภิกษุรับเงินและทอง ไม่ได้ ไม่ยินดีด้วย ไม่ใช่เพียงแต่จะไม่รับ ทั้งไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง แต่รับเมื่อไหร่แสดงว่ายินดีแน่นอน ถูกต้องไหม? ต้องพิจารณาละเอียดมาก รับเมื่อไหร่ คือ ขณะนั้นต้องยินดีแน่นอน
~ ถ้ายังไม่มีความเข้าใจจริงๆ ในพระพุทธศาสนา การบวชก็เป็นโทษอย่างยิ่ง เพราะเพียงอยากบวช
~ ถาม : ถ้าต้องรู้พระธรรมวินัยให้ถูกต้องก่อนแล้วจึงควรจะบวช จะหาพระได้หรือ?
ตอบ : ต้องเป็นคนตรง จะมีเพียงคำว่า "พระ" แต่ไม่ประพฤติตาม
พระธรรมวินัยหรือ? ต้องเป็นผู้ที่ตรงและจริงใจ เมื่อไม่มี ก็ไม่มี
ดีกว่าไม่มีแล้วไปให้มี ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หรือไม่มี ใช่ไหม? อย่างนั้น
จะดำรงพระศาสนาไว้ได้อย่างไร ต้องเป็นคนที่ตรงมาก

~ สมควรไหมที่จะมีการเผยแพร่พระธรรมวินัยต่อไป? สมควร เพื่อคนอื่นที่อาจจะเข้าใจผิดพลาดไปก็จะได้ไตร่ตรองให้ถูกต้อง เพื่อที่จะได้รักษาดำรงประโยชน์ยิ่งใหญ่ในสังสารวัฏฏ์ คือ การได้เข้าใจพระธรรมวินัย เป็นประโยชน์จริงๆ เพราะเหตุว่า ทั้งหมด ด้วยความเป็นมิตร ด้วยความหวังดี ซึ่งไม่ยุติ เพราะว่า มีความหวังดีจริงๆ ต่อไป
~ ถ้าได้ประโยชน์ ได้ความเข้าใจ แล้วรู้ว่าเป็นประโยชน์ จึงฟังพระธรรม นั่น ไม่ใช่โลภะ ไม่ใช่ความอยาก แต่เป็นฉันทะ ความพอใจที่จะกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์
~ คนที่ไม่ได้สละเพศคฤหัสถ์ แต่เข้าใจธรรม ก็ขัดเกลากิเลสโดยการเข้าใจธรรม (โดยไม่ต้องบวช)
~ ความเป็นพระภิกษุ ไม่ใช่อยู่ที่ผ้าที่ครองเท่านั้นที่แสดงว่าเป็นพระภิกษุ แต่ต้องเป็นความประพฤติ ความเป็นอยู่ และความเข้าใจพระธรรม ซึ่งเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส
~ ผู้ที่บวชเป็นพระภิกษุ แต่งกายเหมือนพระภิกษุตามพระธรรมวินัย มีความเข้าใจธรรมหรือเปล่า? ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรมแล้วเป็นพระภิกษุได้อย่างไร มีแต่ความพอใจ ความต้องการหรืออยากที่จะเป็น
~ ทดแทนคุณพ่อแม่ ก็ด้วยการเป็นคนดี พ่อแม่ทุกคนหวังให้ลูกเป็นคนดี มีใครอยากให้ลูกคนโจรบ้างไหม มีใครอยากให้ลูกทุจริตบ้างไหม มีใครอยากให้ลูกโกหกบ้างไหม มีใครอยากให้ลูกทำไม่ดีบ้างไหม? เพราะฉะนั้น เมื่อจะตอบแทนคุณ ก็ทำดี ดีกว่าบวชแล้วทำไม่ดี เพราะฉะนั้น บวชไปไม่ได้แทนคุณ เพราะผิดพระวินัย
~ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลก แต่ถ้าไม่รู้จักพระองค์ ไม่เข้าใจธรรมแล้วจะเป็นที่พึ่งได้อย่างไร ทั้งหมดต้องเป็นความเข้าใจนั่นแหละที่จะเป็นที่พึ่งได้ เพราะเข้าใจถูกต้อง ถ้าเข้าใจผิด ก็เป็นที่พึ่งไม่ได้
~ ตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง ทั้งหมด ไม่มีเรา ฟังพระธรรม เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง เพราะถ้าไม่ฟัง ไม่มีโอกาสจะรู้ความจริงเลยว่าแท้ที่จริงแล้วไม่มีเราแล้วก็อยู่ไปเรื่อยๆ ในสังสารวัฏฏ์โดยยึดถือสิ่งที่เกิดดับว่าเป็นเราไปเลย แต่ความจริงไม่ใช่เรา
~ ปัญญาเจริญช้ามาก เหมือนการจับด้ามมีด เพราะอะไร เพราะกำลังฟังก็เข้าใจคำที่กำลังฟัง พอฟังจบแล้ว ก็กิเลสเลย ยับยั้งไม่ได้ หยุดไม่ได้ มีปัจจัยที่จะเกิด เพราะฉะนั้น ปัจจัยของความเข้าใจ (คือ การได้ฟังพระธรรม) ถ้าหยุด ก็ไม่เติม ไม่เจริญ แค่ไหนก็แค่นั้น นับวันก็จะถูกปกปิดด้วยความไม่รู้ ความยินดีเพลิดเพลิน ซึ่งเป็นกิเลสต่อไป
~ การฟังพระธรรม ต้องรู้ว่า เป็นการฟังเพื่อเข้าใจ เพื่อความไม่รู้จะได้ลดน้อยลง นั่นคือ ความหมายของคำว่า ขัดเกลา กว่าจะหมด เพราะมากมายเหลือเกิน เพราะฉะนั้น ทุกคำที่เข้าใจ กำลังทำงานละความไม่รู้
~ ปัญญา ความเห็นถูกความเข้าใจถูก นำไปสู่สิ่งที่ถูกต้องที่เป็นคุณความดีทั้งหมด
~ กล้า อาจหาญ ร่าเริงที่จะเป็นมิตรที่ดี ให้ความเข้าใจถูกต้องตาม
พระธรรมวินัย

~ ถ้าเป็นความหวังดีจริงๆ ลองคิดดู กล้าที่จะเป็นมิตรที่ดีไหม นั่นต้องเป็นกุศลที่มีกำลังจริงๆ ที่ไม่หวั่นไหวต่อการที่ใครจะคิดอย่างไร ใครจะว่า ใครจะติ ใครจะเข้าใจอย่างไร แต่ความหวังดี ก็ยังคงเป็นความหวังดี
~ กุศลธรรมก็เป็นกุศลธรรม อกุศลธรรมก็เป็นอกุศลธรรม เมื่อทำสิ่งที่ดีแล้ว ผลที่ดีก็ต้องมีในภพชาติต่อไป แต่ถ้าทำสิ่งที่ไม่ดีแล้ว ภพชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร ทำไมไม่คิดถึง?
~ คนที่ไม่กล้าที่จะทำความดี ไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ก็ตามการสะสม เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่ตัวเองกล้าไหม (ที่จะทำความดี ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง) ไม่ต้องคิดถึงคนอื่น
~ ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้องและมีความหวังดี กล่าวคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว กลัวอะไร ไม่มีอะไรที่จะน่ากลัว เพราะกุศลทั้งหลาย นำมาซึ่งสิ่งที่เป็นประโยชน์
~ เรียน คือ ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจในความเป็นจริงว่า ธรรม เป็น ธรรม ไม่ใช่เรา
~ ความเข้าใจพระธรรมเท่านั้นแหละ ที่จะค่อยๆ ขัดเกลาละคลายความไม่รู้และความไม่ดีทั้งหลาย
~ อกุศลทั้งหมด มาจากความไม่เข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริง
~ ตราบใดที่ยังไม่รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏ ก็ยังประมาทอยู่
~ ขณะนี้ ถ้ากำลังเข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฏ โดยไม่เลือก โดยความเป็นอนัตตา โดยมีปัจจัยเกิดขึ้น ขณะนั้น ปัญญาปฏิบัติหน้าที่ของปัญญา ไม่มีใครไปทำอะไรได้เลย
~ ทุกคน ก็ไม่ต้องการที่จะให้ใครกระทำทุจริต ใช่ไหม แต่เราเองทำบ้างหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น เขาทำไม่ดี ถ้าเราทำ เราก็ต้องไม่ดีด้วย
~ ความคิดต่างๆ ในทางที่ไม่สุจริต เป็นเหตุที่ไม่ดี ถ้ามีปัญญา รู้ว่า ถ้าทำอย่างนี้แล้วผลคืออะไร จะทำไหม? ก็ไม่ทำ แต่เพราะไม่รู้ จึงทำทุจริต, จะรู้ได้เลยว่า ขณะที่ใครทำทุจริตต่างๆ ทำไม่ดีต่างๆ เพราะไม่รู้ ว่า นั่น เป็นเหตุที่จะทำให้เกิดผลที่ไม่ดี
~ คำที่ถูก ควรพูด เพื่อประโยชน์ โดยไม่หวั่นไหว.

* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๓๔


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 22 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย jaturong  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย j.jim  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย kukeart  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย เมตตา  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ​และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย siraya  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย mammam929  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

กราบอนุโมทนากุศลจิตในการกล่าวคำจริงเกื้อกูลให้ผู้ฟังได้เข้าใจถูกเห็นถูกต้องค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย มกร  วันที่ 23 ธ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ