ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๒๔
~ พระภิกษุคือใคร? ผู้ประพฤติขัดเกลากิเลสโดยดำเนินรอยตามความประพฤติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่คือ พระภิกษุในพระธรรมวินัย ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ ไม่ใช่พระภิกษุในพระธรรมวินัย แล้วเป็นใคร เมื่อไม่ใช่พระภิกษุในพระธรรมวินัย แล้วเป็นใคร?
~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น เพราะกำลังเป็นหนทางดำเนินไปในทางที่ไม่ผิด คือ การได้ฟังพระธรรม เพราะฉะนั้น ต้องมีความเข้าใจจริงๆ ค่าของพระธรรมที่ตรัสรู้แล้วก็ทรงแสดง กว่าที่จะได้ยินได้ฟัง พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีนานเท่าไหร่?
~ ธรรม (สิ่งที่มีจริง) ไม่ได้ไกลเลย ทุกขณะ เดี๋ยวนี้เป็นธรรม รู้ไหมว่าไม่ใช่เรา?
~ อะไรก็ตามที่เกิดแล้ว เราไม่ได้ไปทำให้เกิด แต่มีปัจจัยทำให้เกิดแล้วก็ดับไป เพราะฉะนั้น ต้องมั่นคงจริงๆ ฟังเพื่อเข้าใจถูกต้อง กำลังเดินทางที่ถูกต้อง เพื่อที่จะเข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ซึ่งแสนยาก
~ การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ได้ไตร่ตรองได้เข้าใจ นี่แหละ กำลังเป็นทางตรง ที่จะไปสู่การรู้แจ้งสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
~ จะจากโลกนี้ไปโดยไม่รู้ความจริงหรือ? ใครรู้ว่าจะจากไปวันไหน?เพราะฉะนั้น ทุกขณะที่ได้เข้าใจธรรม มีค่า เพราะว่า เป็นหนทางที่จะทำให้ประจักษ์แจ้งสิ่งที่มีในขณะนี้
~ ผู้ที่ได้รู้พระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้ว่า ทุกคำ เป็นคำจริงทุกกาลสมัย ไม่ได้มุ่งหวังชักจูงให้คนมาเห็นผิดหรือให้เขาเชื่อเรามากๆ แต่ว่าให้เขารู้ความลึกซึ้งอย่างยิ่งของแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งจะดำรงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ต่อไป เพราะว่า ถ้าเปลี่ยนเมื่อไหร่ ก็เท่ากับเป็นการไม่พูดความจริงถึงที่สุดซึ่งเปลี่ยนไม่ได้
~ ถ้าเรากล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เดือดร้อนเลย ใครจะกล่าวคำอื่นก็เรื่องของเขา เพราะว่า เราก็ไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้ พวกเดียรถีย์ มีมาก เพราะฉะนั้น ใครจะไม่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราไม่เดือดร้อน เพราะอะไร? เพราะเรากล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ
~ เข้าใจถูก รู้ถูก แล้วรู้ว่าคนอื่นไม่เข้าใจและเข้าใจผิด จะช่วยสงเคราะห์ไหม ให้เขาเข้าใจถูก หรือว่าแล้วแต่กรรม? ถ้าเขาไม่ฟัง ก็แล้วแต่กรรมของเขาแน่ๆ แต่ถ้าเขาฟัง แล้วเป็นคนตรง การสนทนา นั้น ก็เป็นมงคล ทำให้เขาได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟังไม่เคยคิดมาก่อน
~ พอเห็นใครทำไม่ดี ก็รู้ว่า ธรรมต่างหากที่สะสมมาที่เป็นอย่างนั้น และเขาจะต้องได้รับผลที่ไม่ดีด้วย จะเมตตาไหม จะเห็นใจไหม จะพยายามให้เขาเป็นคนดีไหม? นี่ก็คือแต่ละหนึ่ง ซึ่งความดี ความเข้าใจทั้งหมด มาจากความเข้าใจธรรมยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น มีประโยชน์ไหมสำหรับการฟังพระธรรมแล้วก็เริ่มเข้าใจแล้วก็รู้ด้วยว่าจะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อเมื่อเข้าใจคำของพระองค์เท่านั้น ไม่ใช่ไปทำสิ่งที่เราไม่รู้หรือพูดคำที่เราไม่เข้าใจ
~ พระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่ทำให้สงบจากอกุศล สงบจากความวุ่นวาย สงบจากทุจริตหรืออกุศลทั้งหมด ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ ถ้าได้เข้าใจแล้วทุกคนก็จะค่อยๆ สงบ ถ้าเป็นชาวพุทธจริงๆ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขแน่นอน เพราะว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของปัญญาที่ทำให้เกิดความสงบทั้งกาย วาจาและใจจนกระทั่งสามารถที่จะดับความไม่สงบคือกิเลสทั้งหมดได้
~ ปัญญาจะนำไปในกิจทั้งปวงที่ดี ปัญญา ไม่ทำให้ฆ่าใครโกรธใครเกลียดใคร เพราะปัญญารู้ว่า ขณะที่โกรธ เกลียด นั้น อกุศลเกิดแล้วที่ตัวเอง บุคคลที่เราโกรธ เขาก็สบายดี เพราะฉะนั้น อกุศลที่เกิดกับเรานี่แหละที่จะให้ผลกับเรา เป็นโทษกับเรา เพราะฉะนั้น เมื่อรู้อย่างนี้ ก็มีความเป็นมิตรมากกว่าที่จะโกรธ
~ ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าใกล้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นอุบาสกอุบาสิกา มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คือ เรารู้ว่าอย่างอื่นพึ่งไม่ได้ วิชาการทั้งหลาย เรียนมามากมายสักเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ว่า ถ้ามีความรู้ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ทุกอย่างที่ไม่ดี ก็จะลดน้อยลง เพราะรู้ว่า เหตุไม่ดีต้องนำมาซึ่งผลที่ไม่ดี แล้วใครจะอยากได้ผลที่ไม่ดี
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ ทำให้ค่อยๆ มีความเห็นที่ถูกต้อง เกิดปัญญา มีความรู้ ว่า อะไรถูก อะไรผิด อะไรควรหรือไม่ควร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะว่า ถ้าหลงเข้าใจว่าสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่ดี คนนั้นก็ทำชั่ว ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ใดๆ เลย
~ ผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็จะไม่ละเลยในการฟังพระธรรม เพราะรู้ว่าหนทางเดียวที่จะรู้จักพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ ฟังแล้วก็มีความเข้าใจว่า ทั้งหมดจากการที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้ ซึ่งลึกซึ้งละเอียดอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ได้ฟังพระธรรม ก็พูดคำที่ไม่รู้จักตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคำอะไรทั้งสิ้น
~ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็คือ ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะเหตุว่ามีปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นแล้ว เห็นชัดว่า ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็มีความเข้าใจในความไม่เที่ยง ความไม่แน่นอน ความเป็นธรรมที่จะต้องเกิดดับไป โดยยับยั้งไม่ได้ เพราะจากขณะนี้ไป เราก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต
~ ความไม่ดีทั้งหมด ความไม่เป็นสุขทั้งหมดมาจากไหน ก็มาจากใจซึ่งเต็มไปด้วยกิเลส และถ้ายังคงมีกิเลสมากๆ ไม่มีทางเลยที่จะเป็นสุขกันได้ ตั้งแต่ตนเองและคนอื่นทั่วหน้า เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้จริงๆ ว่า ผู้ที่ทรงตรัสรู้ ทรงรู้ว่ากิเลสเบาบางลงเท่าไหร่ ความผาสุก ความเจริญ ก็จะมีเพิ่มขึ้นเท่านั้น
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริง เพื่ออนุเคราะห์คนผู้ไม่รู้ ซึ่งเหมือนคนตาบอดอยู่ในความมืดให้ได้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น ไม่ประมาทปัญญาคิดว่ารู้แล้ว แต่เพียงกำลังสะสมความเห็นถูกเพื่อที่จะละความไม่รู้ ก็จะเป็นผู้ที่วันหนึ่งๆ มีชีวิตอยู่ด้วยความรู้ที่เพิ่มขึ้น
~ ต้นเหตุของทุกปัญหา ก็คือ ความไม่รู้ จะแก้ได้ ก็ต่อเมื่อเป็นความรู้จริงๆ เพราะถ้าเราเข้าใจธรรม เรารู้ว่าอะไรดี อะไรชั่วจริงๆ อะไรถูกอะไรผิดจริงๆ ความรู้นั้นต่างหาก ที่จะนำชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง ในทางที่เป็นกุศล ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ยืนหยัดในความถูกต้องในทางที่เป็นกุศลที่ดีงาม จะไม่ทำชั่ว เพราะมีปัญญา
~ ชีวิตประจำวันนี่แหละ เป็นเครื่องส่องให้เห็นว่า แต่ละคนเข้าใจธรรมแค่ไหน
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ตรัสคำจริงทั้งหมด เพื่ออนุเคราะห์ให้คนได้เข้าใจความถูกต้อง เพราะเหตุว่า ความเห็นถูกต้องสำคัญที่สุดในแต่ละชาติ ถ้าเห็นผิดไปแล้ว เมื่อไหร่จะสำนึก เมื่อไหร่จะกลับตัว เมื่อไหร่จะว่าง่าย ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรมวินัย เพื่อความสุขของประชาชน ของผู้ฟังทั้งหมด ไม่ได้ประสงค์ร้ายเลย.
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๒๓

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
.. ขอบพระคุณและอนุโมทนา อ.คำปั่นคะ..
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา