
[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 16
[๒๙๙] โลภะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การโลภ กิริยาที่โลภ ความโลภ การกำหนัดนัก กิริยาที่กำหนัดนักความกำหนัด ความเพ่งเล็ง อกุศลมูลคือโลภะ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่าโลภะมีในสมัยนั้น.
[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 474 - 475
กิเลสโคจฉกะ
[๗๙๑] ธรรมเป็นกิเลส เป็นไฉน?
กิเลสวัตถุ ๑๐ คือ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ.
[๗๙๒] บรรดากิเลสวัตถุ ๑๐ นั้น โลภะ เป็นไฉน?
ความกำหนัด ความกำหนัดนัก ความคล้อยตามอารมณ์ ความยินดี ความเพลิดเพลิน ความกำหนัดด้วยอำนาจความเพลิดเพลิน ความกำหนัดนักแห่งจิต ความอยาก ความสงบ ความหมกมุ่น ความใคร่ ความรักใคร่ ความข้องอยู่ ความจมอยู่ ธรรมชาติผู้คร่าไป ธรรมชาติผู้หลอกลวง ธรรมชาติผู้ยังสัตว์ให้เกิด ธรรมชาติผู้ยังสัตว์ให้เกิดพร้อม ธรรมชาติอันร้อยรัด ธรรมชาติอันมีข่าย ธรรมชาติอันกำซาบใจ ธรรมชาติอันซ่านไป ธรรมชาติเหมือนเส้นด้าย ธรรมชาติอันแผ่ไป ธรรมชาติผู้ประมวลมา ธรรมชาติเป็นเพื่อนสอง
อ.อรรณพ: ท่านอาจารย์ครับ โลภะนี่แนบเนียน แล้วก็มาตัดรอนไปเสียหมด แม้เราได้ยินเรื่องเมตตา แม้เราได้ยินว่า โลภะนี่เป็นศัตรูใกล้ของเมตตา เพราะฉะนั้น ก็มีโลภะที่คิดจะขจัดโลภะที่เป็นศัตรูใกล้ของเมตตา นะครับ แล้วก็มีโลภะที่อยากจะมีเมตตา นี่ครับซ้อนๆ ๆ เข้าไปอย่างนี้ครับท่านอาจารย์
เล่ห์เหลี่ยมของโลภะนี่มากมายแพรวพราวจนกระทั่ง ถ้าไม่ละเอียดจริงๆ ไม่รู้เลยครับ เขาก็อย่างนั้น เราเรียนได้รู้ได้ว่า โลภะเป็นศัตรูใกล้ของเมตตา แต่ขณะนั้นศัตรูก็ให้เขาเกิดขึ้นมาแล้วที่จะอยากให้ไม่มีโลภะมากั้นขวางการเจริญเมตตา เ ป็นเราที่อยากได้เมตตา นะครับ แล้วก็เป็นเราที่อยากจะขจัดโลภะไปอย่างนี้ครับ คือยากจริงๆ แล้วก็เป็นสภาพธรรมที่เป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก
โลภะนี่ซับซ้อนแยบยลที่สุด กราบท่านอาจารย์ได้เปิดเผยลักษณะของโลภะ แล้วก็ได้กล่าวถึงการที่จะรู้จักโลภะเพิ่มขึ้นๆ นี่ครับ เพราะเป็นตัวปฏิปักษ์ต่อบารมี ก็ตอบโลภะไง อะไรอย่างนี้ครับกราบเท้าท่านอาจารย์ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น อีกแสนปีข้างหน้า จะรู้ไหมว่า ขณะนี้กำลังได้ฟังคำนี้ แสนปีนี้ดูเหมือนนานนะ แต่ความจริงเราอยู่มาแล้วนานเท่าไหร่ในสังสารวัฏฏ์ แสนปีข้างหน้าต้องถึง และสิ่งที่ได้ฟังวันนี้ จะมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ค่อยๆ ละคลายอกุศล และก็ค่อยๆ มีความอดทนเพิ่มขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะรู้ว่า กว่าจะเป็นปกติอย่างนี้เอง นั่นแหละ ไม่มีโลภะที่จะมาทำให้ผิดปกติแม้เพียงนิดเดียว
เห็นกำลังของโลภะไหม?
เพราะการที่จะรู้ความจริง ต้องรู้ความจริงที่เป็นปกติเดี๋ยวนี้
อ.อรรณพ: ครับ
ท่านอาจารย์: ถ้าไม่มีปัญญา ก็ไม่ถึงความเป็นปกติของเดี๋ยวนี้แน่ ความต้องการพาไปโดยไม่รู้ตัวเลย
แต่เดี๋ยวนี้เกิดแล้วเป็นปกติ เพราะฉะนั้น ต้องรู้ ความเป็นปกติ อย่างนี้เลย
ถึงแล้วหรือยัง?
อ.อรรณพ: เป็นปกติเป็นธรรมดาเดี๋ยวนี้
ท่านอาจารย์: ถ้าไม่ถึง อะไรพาไป?
อ.อรรณพ: โลภะครับ
ท่านอาจารย์: พร้อมทั้งอวิชชา
อ.อรรณพ: ไปพร้อมกันเลย
ท่านอาจารย์: อีกอนันตรชาติข้างหน้า กว่าค่อยๆ จะเข้าใจมั่นคงจนถึงรู้อะไร? รู้สิ่งที่เกิดเดี๋ยวนี้ เห็นไหม?
อ.อรรณพ: รู้สิ่งที่เกิดเดี๋ยวนี้เป็นปกติ
ท่านอาจารย์: นั่นแหละ โลภะไม่อาศัย
ขอเชิญอ่านได้ที่..
โลภะ
กิเลสวัตถุ ๑๐ นั้น โลภะ เป็นไฉน? [ธรรมสังคณี]
ชื่อว่าโลภะ เพราะอรรถว่าความอยากความต้องการ [จตุจักกสูตรที่ ๙]
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่..
ไม่เห็นโลภะ ไม่เห็นอวิชชา ก็ละไม่ได้
ปุถุชนยังมีโลภะให้ล่วงอกุศลกรรมได้
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.อรรณพ ด้วยความเคารพค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ